xs
xsm
sm
md
lg

คนท่องเที่ยว ฝากรัฐบาลใหม่สางปัญหา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากผ่านมรสุมรอบด้านที่ส่งผลให้การท่องเที่ยวของไทยระส่ำอยู่เป็นช่วงๆ ทำให้คนในวงการท่องเที่ยวต่างต้องดิ้นรนหากลยุทธ์เพื่อความอยู่รอด

ล่าสุดเมื่อมาถึงยุคของรัฐบาล"สมัคร 1"คนในแวดวงท่องเที่ยวต่างตั้งก็ความหวังกับรัฐบาลใหม่อีกครั้งว่า ภาครัฐคงจะมีนโยบายและมาตรการที่ช่วยเหลือวงการท่องเที่ยวไทยให้เดินหน้า พร้อมพัฒนาวงการท่องเที่ยวไทยให้โดดเด่นในระดับโลกต่อไป

ปัญหาสุวรรณภูมิ-แหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม

อภิชาต สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า อุปสรรคปัญหาที่สมควรจะแก้ไขไม่ว่ารัฐบาลไหนจะมาบริหารประเทศก็คือ ปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรม และการสร้างบุคคลากรขึ้นมา และอีกตัวที่เห็นเด่นชัดก็คือ เงินทุน ซึ่งจะเห็นได้ว่าเงินทุนของบ้านเราดอกเบี้ยยังสูงอยู่สำหรับผู้กู้ ส่วนด้านกฎระเบียบที่มีอยู่ ขอให้เจ้าหน้าที่ทำและทำอย่างจริงจัง

"อุปสรรคเรื่องภาษาหลายๆภาษาที่เราพูดกันไม่ได้ อย่างเช่น เกาหลี รัสเซีย สแกนดิเนเวีย โปแลนด์ ฟินแลนด์ ก็เป็นปัญหาเช่นกัน ต่างชาติต้องส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาทำงานร่วมด้วย แต่มันก็ติดขัดอยู่เรื่องใบประกอบการทำงาน"

นายกแอตต้า เล่าต่อถึงความไม่สะดวกโดยตรงที่เจอมาว่า "อย่างที่สนามบิน ตม.บางครั้งบางรอบใช้คนน้อย อย่างเช่นที่ภูเก็ตบางรอบคนมายืนรอล้นออกไปนอกอาคารก็มี สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องแก้ไขโดยด่วน เพราะถ้ารัฐต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาก็ต้องอำนวยความสะดวกสบายให้เขา"

สำหรับปัญหาอีกเรื่องหนึ่งที่นายกแอตต้าอยากให้รีบแก้ไขก็คือ ปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิ “คนข้างในรู้ปัญหาอยู่แล้วก็ควรจะพูดความจริงออกมา แล้วมาช่วยกันแก้อย่าปิดบัง ผมมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทยบ่อย ถ้าต้องเดินทางไปต่างจังหวัดในไทย เขาบอกว่าช่วยจองไฟล์ให้เขาขึ้นที่สนามบินดอนเมืองเลย เขาไม่อยากขึ้นที่สุวรรณภูมิเลย เพราะไม่ค่อยสะดวกสบาย

นายกแอตต้าแนะนำอีกว่า ในเรื่องของการทำตลาดต่างประเทศ อันนั้นเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งจริงๆแล้วพักหลังนี้เขาเริ่มมีการคุยกับเอกชนมากขึ้นว่าจะทำโปรโมชั่น จะทำโรดโชว์ที่ไหนกันบ้าง อยากให้ทางกระทรวงท่องเที่ยวฯแบ่งสรรงานระหว่างกระทรวงท่องเที่ยวกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้เป็นรูปธรรม ใครจะทำอะไรอย่าให้สับสนอย่าให้ซ้ำซ้อน เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เป็นรูปธรรม

ด้าน ทักษิณ ปิลวาสน์ ที่ปรึกษาสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวไทย(สนท.) กล่าวถึงปัญหาและสิ่งที่อยากให้รัฐบาลแก้ไขว่า "ปัญหาคือรัฐบาลทำแบบครึ่งๆกลางๆ ทำให้เกิดความไม่มั่นใจ วันนี้ก็รอดูนโยบายที่ชัดเจนว่าจะเป็นไปในทิศทางไหน อยากให้มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม พัฒนาการท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรมให้มันกลับมา และอยากให้คนไทยเที่ยวแบบฝรั่งคือมีการวางแผนล่วงหน้า และมีราคาพิเศษให้ผู้ที่จองล่วงหน้า เพื่อไม่ให้คนไทยออกนอกประเทศ"

"ททท. จะเดินหน้าก็ไม่ได้ กระทรวงท่องเที่ยวจะดำเนินการต่อก็ไม่ได้ และช่วงนี้เป็นช่วงที่หน้าจะทำเงิน ถ้าได้คนรู้งานมาเป็นรัฐมนตรีฯกระทรวงท่องเที่ยวฯก็ดี จะได้ตามทันประเทศเพื่อนบ้าน ผมอยากได้คนที่รู้เรื่องจริงๆ ไม่ใช่มาศึกษางานเพราะเรารอไม่ได้ ผมอยากเห็นการร่วมมืออย่างจริงจังในภาครวมที่ชัดเจน มีการร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นศูนย์กลางเป็นฮับ รัฐและเอกชนมีการร่วมมือกันไม่อยากให้แย่งกัน"

ส่วนในเรื่องของปัญหาบริษัททัวร์เถื่อน ที่ปรึกษาสนท. กล่าวว่า อยากให้ช่วยดูแลควบคุมกัน มีมาตรฐานเดียวกัน ไม่มีการหลอกลวงกัน บางที่เราไม่รักษาคุณภาพกันเอง ควรจะมีการจดทะเบียนกันอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องการจดเอาท์บาวด์-อินบาวด์ในปัจจุบัน มันไม่มีประโยชน์เพราะในปัจจุบันทั้งเอาท์บาวด์-อินบาวด์รวมกันหมดแล้ว บางบริษัทจดทะเบียนแบบอินบาวด์เพื่อจะได้วางเงินประกันน้อยกว่าเอาท์บาวด์ แต่การทำงานจริงๆทำแบบเอาท์บาวด์ด้วย สิ่งเหล่านี้ทำให้บริษัทใหญ่เกิดการเสียเปรียบอยากให้แก้ตรงนี้ จะได้มีมาตรฐานเดียวกัน นักท่องเที่ยวจะได้ไม่เกิดความกังวลและกลับมาใช้บริการบริษัทนำเที่ยว

ในขณะเดียวกัน เจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) กล่าวว่า รัฐบาลเก่าๆ ติดปัญหาที่เรื่องการประสานงานมากกว่า ที่ผ่านมาการประสานงานยังมีน้อย หมายความว่าที่ผ่านมา 80% เอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนอยู่ สำหรับรัฐบาลใหม่ก็อยากให้ความสำคัญกับกระทรวงท่องเที่ยวมากกว่าที่ผ่านมา คิดว่าที่ผ่านมาให้ความสำคัญน้อยมาก ส่งคนมาเหมือนเป็นกระทรวงที่ไม่มีใครอยากมาอยู่ เป็นกระทรวงที่เหมือนอกหักจากที่อื่นมา คนมาอยู่ก็ไม่ได้เตรียมไว้

"ผมอยากให้คนที่มาดูกระทรวงท่องเที่ยวทำงานอย่างจริงจังมีแผนงานสำหรับประเทศในเรื่องของการท่องเที่ยว ไม่ใช่มากำกับดูแลเป็นวันๆ มันต้องมีโครงการระยะยาวอีกกี่ปีจะเป็นอย่างไร จะทำอะไร ต้องมีแนวทางในการสนับสนุน ต้องมีการกำหนดแผนว่าเราจะเป็นอะไรภายในกี่ปี แล้วก็ขับเคลื่อนไปให้ได้ตามที่ได้มุ่งหวัง โดยที่มีส่วนเอกชน ข้าราชการ รัฐบาล ทั้งสามฝ่ายไปด้วยกัน"

สำหรับ สทน. อยากให้รัฐบาลให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวภายในประเทศเนื่องจากเป็นการกระจายรายได้สู่ภูมิภาคต่างๆ และสร้างความมั่งคงและยั่งยืนในด้านการท่องเที่ยว สำหรับตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างก็สงบลงแล้ว เราก็ได้รัฐบาลที่เข้ามาบริหารอย่างถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยหลังจากที่เราคลุมเครือมานาน แล้วก็กระแสการใช้จ่าย การใช้งบประมาณชะลอลงไปมาก ตอนนี้ทุกอย่างก็สงบลงแล้ว ก็อยากให้คนไทยมาเที่ยวกันความรู้สึกความอบอุ่นของคนไทยก็น่าจะมี ถึงแม้ว่าภาวะน้ำมันหรือเศรษฐกิจโลกอาจจะชะลอตัว ถ้าเราสามารถที่จะใช้จ่ายได้ในด้านของคนไทยที่มีกำลังซื้อ ก็จะทำให้ภาวะเศรษฐกิจในประเทศไทยนั้นดีขึ้น

ด้าน กงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) กล่าวว่า ควรจะตั้งเป้าหมายในเชิงรุกในเรื่องของการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศให้เพิ่มกว่าค่าถัวเฉลี่ยของอัตราเพิ่มของภูมิภาค ที่ผ่านมาเห็นว่าเป้าหมายตัวเลขของการเพิ่มที่ทำได้ค่อนข้างอยู่ในภาพค่าถัวเฉลี่ยตามอัตราเพิ่มของภูมิภาค ซึ่งในขณะที่บางประเทศ อย่างเช่นมาเลเซีย จีน เขาทำได้สูงกว่าค่าถัวเฉลี่ย ดังนั้นประเทศไทยก็น่าจะทำได้สูงกว่าค่าถัวเฉลี่ยด้วย

ในส่วนของการที่จะทำให้ได้อย่างนี้ ก็ต้องแก้ปัญหาโครงสร้างต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการท่องเที่ยว ซึ่งเรามีแหล่งท่องเที่ยวที่จำกัดและที่มีอยู่เดิมก็เสื่อมโทรม เราอยากจะเห็นรัฐบาลสนใจที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ โดยการสร้างเมกะโปรเจ็คต์ขึ้นตามภาคต่างๆเพื่อให้เกิดการกระจายตัวต่างๆเคลื่อนไปยังภูมิภาคด้วย ในขณะเดียวกันก็อยากจะเห็นรัฐจัดสรรงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาแหล่งท่องเที่ยวเสื่อมโทรมที่มีอยู่เดิม

"สุดท้ายที่เราอยากจะเห็น คือการเอาใจใส่ไปยังที่ตัวผู้ประกอบการคนไทยโดยเฉพาะ เราอยากจะเห็นการพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการในเรื่องบริหารการจัดการ และช่วยเหลือSMEในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างแท้จริง รวมทั้งเรื่องที่จะเสริมทำให้เกิดความแข็งแกร่งไม่ว่าเรื่องที่จะช่วยให้ไปพัฒนาปรับปรุงสินค้าการบริการการท่องเที่ยวที่ทำอยู่แล้วให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งSMEกับผู้ประกอบการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งต้องมีแพ็คเกจพิเศษที่จะดูแลช่วยเหลือบรรเทาปัญหาให้เขา อันนี้เป็นสิ่งที่เราอยากเห็นนอกเหนือจากการที่จะต้องสร้างความมีเสถียรภาพทางการเมือง ด้านความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของประเทศเป็นภาพรวมด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวค่อนข้างให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยสูง"กงกฤช กล่าว

ออก กม.เพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน

สำหรับ วิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นากยกสมาคมมัคคุเทศก์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า "ผมอยากให้มองว่าการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมเพื่อหารายได้เข้าประเทศจริงๆ อยากให้เข้ามาควบคุมเรื่องบริษัทนอมินี ต่างๆที่เป็นคนต่างชาติ อยากให้ปราบปรามดูแลเรื่องมัคคุเทศก์ที่เป็นคนต่างชาติ เพื่อให้เป็นของประเทศไทยและคนไทยจริงๆ ที่ผ่านมาเราไปเน้นและห่วงเรื่องปริมาณนักท่องเที่ยวมากเกินไป ไม่ได้มองว่าเมื่อเข้ามาแล้วได้มีการทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่"

อยากให้มีการออกกฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่เป็นอุตสาหกรรมที่มีการกระจายรายได้ รักษาและอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประวัติศาสตร์ให้ยั่งยืน เชื่อว่าถ้าเราทำแบบคุณภาพ ถึงนักท่องเที่ยวเข้ามาน้อยแต่ก็มีคุณภาพ

ในส่วนของสมาคมอยากให้รัฐบาลมีการจัดสรรงบประมาณโดยตรง อย่างเช่นมีหน่วยงานดูแลโดยตรง ให้มีการจัดสรรงบประมาณตามตัวเลขสมาชิกก็ได้ เพื่อให้เขานำงบประมาณไปปรับปรุงคุณภาพของบุคลากรในอาชีพให้มีบทบาทด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช้มีการจัดสรรโดยข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดการคล่องตัวในการ ปฏิบัติงานเนื่องจากระเบียบข้อบังคับมีมาก ให้มีการเอาผิด และลงโทษอย่างจริงจัง มีการทำบันทึกอย่างชัดเจนว่าใครใช้ทำอะไรเป็นจำนวนเท่าไรสามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน

............................

และนี่คือเสียงสะท้อนส่วนหนึ่งของผู้คร่ำหวอดในวงการท่องเที่ยวที่ฝากถึงรัฐบาลใหม่หรือทุกๆรัฐบาล ซึ่งได้แต่หวังว่าเสียงสะท้อนเหล่านี้จะดังไปถึงรัฐบาลใหม่(สมัคร 1)บ้างไม่มากก็น้อย
กำลังโหลดความคิดเห็น