xs
xsm
sm
md
lg

ตุกติกเขมร!! บิดเบือนแผนที่ไทยในเอกสารมรดกโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<CENTER><FONT color=#FF0000>แผนที่ฝรั่งเศสที่เผยแพร่เมื่อปี 2451 ที่กัมพูชาพยายาม ไฮไล้ท์ เป็นพิเศษในเอกสารขอจดทะเบียนมรดกโลก มีการขยายแผนที่ส่วนแสดงที่ตั้งของปราสาทกับเส้นเขตแดนที่ไม่ได้ใช้สันปันน้ำในการปักปันให้เห็นอย่างเด่นชัด แผนที่นี้ปรากฏในหน้า 8 ของเอกสาร</FONT></CENTER>

ผู้จัดการออนไลน์ -- รัฐบาลกัมพูชาได้พยายามชี้ให้คณะกรรมการมรดกโลก เห็นว่า ปราสาทพระวิหารนั้นเป็นของกัมพูชาอย่างไร้ข้อกังขา โดยอ้างการตัดสินของศาลโลก ซึ่งได้ใช้แผนที่ของฝรั่งเศส เมื่อปี 2450 เป็นหลักฐานชี้ขาด

แต่ขณะเดียวกัน รัฐบาลกัมพูชาได้พยายามลดความน่าเชื่อถือต่อการกล่าวอ้างของอธิปไตยเหนือดินแดนพระวิหารของประเทศไทยอย่างตั้งใจ

รัฐบาลกัมพูชาได้จงใจหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ ที่ว่า ประเทศสยามได้ยื่นคัดค้านเรื่องนี้ต่อศาลโลกมาตั้งแต่เดือน ก.ค.2505 หรือประมาณ 1 เดือน หลังจากมีการตัดสินในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ยกปราสาทพระวิหารให้ตกเป็นของราชอาณาจักรกัมพูชา

เหตุการณ์ดังกล่าวมีเอกสารเป็นหลักฐานครบถ้วน รวมแผนที่ประกอบที่ฝ่ายไทยใช้สันปันน้ำเป็นแนวเส้นพรมแดน

ในขณะที่นำเสนอกระบวนการ วิธีการ และผลการตัดสินของศาลระหว่างประเทศ และนำเสนอแผนที่ฉบับฝรั่งเศสที่มีการนำออกเผยแพร่ตั้งแต่ปี 2451 แต่ทางการกัมพูชากลับพยายามลดความน่าเชื่อถือของแผนที่ประกอบอีกแผ่นหนึ่งที่ไทยจัดทำขึ้น
<CENTER><FONT color=#FF0000>แผนที่ฝรั่งเศสภาคขยาย กับแผนที่ที่ไทยทำขึ้นอ้างอธิปไตย มาตราส่วน 1: 15,000 ที่กัมพูชากล่าวว่า ทำขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเลี่ยงที่จะกล่าวถึงการอ้างอธิปไตยของไทยกับแผนที่ประกอบอีกฉบับหนึ่งที่ไทยยื่นประท้วงต่อศาลโลกตั้งแต่ปี 2505 ทั้งสองแผ่นปรากฏในหน้า 9 ของเอกสาร</FONT></CENTER>
แผนที่ฉบับดังกล่าวถูกบรรจุเอาไว้ในหน้าที่ 9 ของเอกสารข้อเสนอขอจดทะเบียนเป็นมรดกโลก โดยใช้คำบรรยายใต้ภาพว่า เป็นแผนที่ที่ฝ่ายไทยจัดทำขึ้น “เมื่อเร็วๆ นี้”

แต่ข้อเท็จจริง ก็คือ แผนที่ที่ฝ่ายกัมพูชานำเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกนี้เป็นแผนที่ที่จัดร่างขึ้นใหม่ทำให้เห็นแนวสันปันน้ำชัดเจนขึ้น โดยใช้สีระบายพื้นที่ที่ไทยกล่าวอ้างอธิปไตยรอบๆ เขตที่ตั้งปราสาท

แต่การกล่าวอ้างอธิปไตย ตลอดจนการกำหนดแนวเส้นพรมแดนโดยยึดหลักสันปันน้ำตามหลักสากลนั้นมิใช่สิ่งใหม่ ประเทศไทยได้ยื่นแผนที่แบบเดียวกันนี้ต่อศาลโลกตั้งแต่เดือน ก.ค.2505 หรือ 46 ปีมาแล้ว

การพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงดังกล่าวอาจจะส่งผลอย่างสำคัญต่อการพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาได้พยายามชี้ให้เห็นว่า ปราสาทพระวิหารกับดินแดนทั้งหมด อยู่ในเขตอธิปไตยของกัมพูชาโดยปราศจากข้อโต้แย้ง และการกล่าวอ้างอธิปไตยของไทยก็เพิ่งจะมีขึ้น “เมื่อเร็วๆ นี้”
<CENTER><FONT color=#FF0000>แผนที่ที่กัมพูชานำเสนอบรรยายว่า ไทยจัดทำขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว เมื่อเร็วๆ นี้ ในความพยามย้ำให้เห็นว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของกัมพูชาอย่างไร้ข้อโต้แย้ง โดยไม่ได้กล่าวถึงแผนที่ฉบับเดิมตามแนวสันปันน้ำเดียวกันที่ไทยนำเสนอต่อศาลโลกเป็นหลักฐานตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2505 เป็นความพยายาามในการบิดเบือนข้อเท็จจริง </FONT></CENTER>
เอกสารข้อเสนอขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกของกัมพูชา ซึ่ง “ผู้จัดการออนไลน์” ได้รับเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้นเป็นฉบับปรับปรุงล่าสุดในเดือน มิ.ย.ศกนี้ หลังจากไทยและกัมพูชาได้ร่วมกันลงนามในแถลงการณ์ร่วมฉบับหนึ่งในกรุงเทพฯ ในวันพุธ 18 มิ.ย. สนับสนุนการขอจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร

ในวันเดียวกันนั้น รัฐบาลไทยได้ให้การรับรองแผนที่ที่กัมพูชาจัดร่างขึ้นมาใหม่ ประกอบการเสนอจดทะเบียนปราสาทพระวิหาร แต่กระทั่งบัดนี้ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่ได้เปิดเผยแผนที่ฉบับจริงที่ฝ่ายกัมพูชาจัดทำขึ้น

และไม่มีการนำเสนอแผนที่ดังกล่าวในเอกสารที่กัมพูชายื่นเสนอต่อคณะกรรมการมรดกโลกแต่อย่างไร

นายนพดล ปัทมะ รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยเคยให้สัมภาษณ์ว่า ต้องเก็บแผนที่ดังกล่าวเป็นความลับตามที่ฝ่ายกัมพูชาร้องขอ เนื่องจากอาจจะส่งผลกระทบต่อการเมืองภายในประเทศนั้น

กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในกัมพูชาวันที่ 27 ก.ค.นี้ และการหาเสียงอย่างเป็นทางการจะเริ่มขึ้นในวันที่ 26 มิ.ย.ศกนี้
<CENTER><FONT color=#FF0000>ภาพถ่ายจากมุมสูงที่ตั้งปราสาทพระวิหารจากปลายหน้าผาบริเวณ เป้ยตาดี มองเห็นแผ่นดินไทยลิบๆ อยู่ไกลโพ้น เส้นสีแดงขีดขึ้นใหม่แสดงให้เห็นแนวสันปันน้ำ ที่ควรจะเป็นเส้นเขตแดนไทย-กัมพูชาตามหลักสากล ส่วนเส้นประสีน้ำเงิน เป็นแนวเส้นเขตแดนที่ไทยกล่าวอ้างมาตั้งแต่ปี 2505 มิใช่เพิ่งจะยกขึ้นมากล่าวอ้าง เมื่อเร็วๆ นี้ ตามที่กัมพูชาพยายามจะให้ฝ่ายต่างๆ เข้าใจ </FONT></CENTER>
รัฐบาลกัมพูชาภายใต้สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุนเซน (Samdach Akkak Moha Sena Pdei Techo Hun Sen) นายกรัฐมนตรี ได้เริ่มเจรจากับไทยเรื่องการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกมาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งเป็นรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ในปี 2549 กัมพูชาได้ยื่นเอกสารข้อเสนอฉบับหนึ่งต่อคณะกรรมการมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่คณะกรรมการฯ ซึ่งประชุมในประเทศนิวซีแลนด์ได้ตีกลับข้อเสนอของฝ่ายกัมพูชาเนื่องจากยังมีข้อพิพาทเรื่องนี้กับประเทศไทย

ได้มีการเจรจาเรื่องการจดทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก ระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการของ นายสมัคร สุนทรเวช ในเดือน มี.ค.ปีนี้ และอีกครั้งหนึ่งรวมทั้งการเยือนของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี กับ นายนพดล ในเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา เมื่อฝ่ายไทยไปร่วมพิธีเปิดใช้ทางหลวงเลข 48 เกาะกง-สีหนุวิลล์-พนมเปญ ที่สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากไทยเป็นเงินกว่า 1,000 ล้านบาท

การเจรจาความคืบหน้ามาเป็นลำดับและอย่างรวดเร็วมาก จนกระทั่งฝ่ายไทยได้เปิดทางให้กัมพูชาดำเนินการได้อย่างสะดวกในวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา
<CENTER><FONT color=#FF0000>ทุกอย่างง่ายขึ้นเมื่อนายสมัคร สุนทรเวช ไปเยือนในต้นเดือน มี.ค.ปีนี้หลังเข้ารับตำแหน่ง สมเด็จฯ ฮุนเซน ผู้นำกัมพูชายกย่องอย่างสูงรัฐบาลพรรคพลังประชาชนที่แปลงสภาพไปจากพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ตนเองมีความสนิทสนมและยังติดต่อกันตลอดเวลา หลังหมดอำนาจในปี 2549 </FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#FF0000>คณะของไทยที่นำโดย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ กับ นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ได้รับการต้อนรับอบอุ่นจากสมเด็จฯ ฮุนเซน ในพิธีเปิดใช้ทางหลวงเลข 48 เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ อนุมัติเงินช่วยเหลือกัมพูชากว่า 1,000 ล้านบาท ในการสร้างทางหลวงสายนี้ เพื่อเชื่อม จ.ตราด-เกาะกง-สีหนุวิลล์และกรุงพนมเปญ</FONT></CENTER>
<CENTER><FONT color=#FF0000>นายนพดลกับสมเด็จฯ ฮุนเซนอยู่ตรงกลาง ซีกขวาคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกฯ นายฮอร์นำฮอง รองนายกฯ-รมว.ต่างประเทศ และ เอกอัครราชทูตไทยฯ ปีกซ้ายคือ โสกอาน รองนายกฯ คู่เจรจราเรื่องปราสาทพระวิหาร พล.อ.เตียบัญ รมว.กลาโหม กับ พล.อ.แญ็ก บุญชัย เลขาธิการพรรคฟุนซินเปก ที่ร่วมในรัฐบาลปัจจุบัน</FONT></CENTER>
คณะกรรมการมรดกโลกกำลังจะเปิดการประชุมอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 2 ก.ค.ศกนี้ ขณะที่ศิลปินและวุฒิสมาชิกจำนวนหนึ่งกำลังยื่นคัดค้านเรื่องนี้ต่อสำนักคณะกรรมาธิการการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือ UNESCO ในกรุงเทพฯ

ขณะเดียวกัน กลุ่มพันธมิตรประชาธิปไตยเพื่อประชาชนที่จัดชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาลมาเป็นเวลา 1 เดือน ได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อขอการคุ้มครองให้มติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่มีผลบังคับใช้เป็นการชั่วคราว




กำลังโหลดความคิดเห็น