ผู้จัดการออนไลน์-- กัมพูชาจะจำหน่ายข้าวจำนวน 120,000 ตันให้แก่ประเทศกินี (Guinea) เพื่อเป็นการช่วยลดปัญหาวิกฤตทางด้านอาหารของชาติแอฟริกันตะวันตกนี้ สมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (19 มิ.ย.) ที่ผ่านมา
สมเด็จฯ ฮุนเซนได้กล่าวในพิธีเปิดสะพานแห่งหนึ่งในจังหวัดกัมปงสะปือ (Kampong Speu) ว่า นายอาห์เหม็ดทิเดียเนซัวร์ (Ahmed Tidiane Souar) นายกรัฐมนตรีของสาธารณรัฐกินีได้แสดงความต้องการขอซื้อข้าวจากกัมพูชา ซึ่งจำนวนดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณข้าวสำรองของประเทศแต่อย่างใด
สมเด็จฯ ฮุนเซนได้เปิดเผยว่า กัมพูชาจะส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเกษตรไปยังประเทศกินีเพื่อช่วยพัฒนาการเพาะปลูกข้าวด้วยวิธีการใหม่ๆ
นายกฯ กัมพูชากล่าวว่า "เราจะส่งผู้เชี่ยวชาญไป แม้ว่าเราจะต้องเป็นผู้ที่จัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆ เองก็ตาม เพราะนี่คือความรับผิดชอบระหว่างประเทศ...ประเทศกินีแม้จะมีพื้นที่ทั้งหมด 6 ล้านเฮกตาร์ แต่ก็มีพื้นที่สำหรับเพาะปลูกข้าวในปริมาณที่ใกล้เคียงกับกัมพูชา"
กัมพูชาได้ยกเลิกการห้ามส่งออกข้าวในเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา โดยเมื่อปีที่แล้วมีข้าวที่ผลิตเกินความต้องการในการบริโภคภายในประเทศถึง 2 ล้านตัน และคาดว่าจะสามารถส่งออกข้าวได้ 1.5 ล้านตันในปีนี้
ประเทศกินีเป็นประเทศที่สองในทวีปแอฟริกาที่ต้องการขอซื้อข้าวจากกัมพูชาในปีนี้ ก่อนหน้านี้ ในปลายเดือน เม.ย. ประเทศเซเนกัล (Senegal)ได้ซื้อข้าวหักจำนวน 6,000 ตัน เพื่อลดวิกฤตอันเกิดจากราคาข้าวที่พุ่งสูงขึ้นทั่วโลก
สมเด็จฯ ฮุนเซน ยังได้ยกย่องทีมช่วยเหลือของกัมพูชาซึ่งปฏิบัติงานเก็บกู้ระเบิดอยู่ในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากสงครามในประเทศซูดาน ซึ่งเป็นการปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรมภายใต้องค์การสหประชาชาติ หรือ UN มาเป็นเวลาถึง 3 ปีแล้ว พร้อมทั้งกล่าวว่า กัมพูชาพร้อมที่จะส่งทหารอีกจำนวน 500 นายเพื่อไปช่วยเหลือในนามของ UN.