คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน
ในขณะที่ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด คว้าแชมป์ฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก 2007-2008 มาครองได้สำเร็จ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษสมัยที่ 17 ของสโมสร ขออีกเพียงสมัยเดียวก็จะไล่ทัน ลิเวอร์พูล แล้ว ความสำเร็จคราเดียวกันนี้ ได้เพิ่มสถิติให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์เกิสซัน ในการครองถ้วยใบนี้เป็นสมัยที่ 10 ในฐานะผู้จัดการทีมด้วย
ตอนที่ยังทำทีม อเบอร์ดีน ในสก็อตติช เพรอมิเอ ลีก ในช่วงปี 1978-1986 นั้น เซอร์ อเล็กซ์ ก็พาทีมคว้าแชมป์มา 3 สมัยในปี 1980, 1984 และ 1985 ถ้วยสก็อตติช คัพ 4 สมัย ในปี 1982, 1983, 1984 และ 1986 รวมทั้ง สก็อตติช ลีก คัพ อีก 1 หนในปี 1986 โดยไม่ลืมหยิบถ้วย ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ ติดมือมาด้วย 1 ใบในปี 1983 ซึ่งจากแชมป์ถ้วยใบนี้ ก็ต้องไปเจอกับ ฮัมบวร์ก เอส เฟา แชมป์ถ้วยใบใหญ่ของทวีปยุโรป แล้วชนะสกอร์รวม 2 นัด ทำให้ได้ ยูโรเปียน ซุปเปอร์ คัพ มาอีก
หลังจากนั้นก็ย้ายมาร่วมงานกับ แมนฯ ยู ในปี 1986 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาร่วม 21 ปีกว่าเข้าไปแล้ว คุมทีมลงเตะนัดที่ 1,000 ไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2004 โน่น เขาเป็นผู้จัดการทีมที่อยู่ยาวนานมากเกือบจะที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เป็นรองให้ เซอร์ แมทท์ บัสบี เพียงคนเดียว ที่ครองเก้าอี้อย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ปี 1945-1969 และ 1970-1971 รวม 2 ช่วงเกือบ 25 ปี แต่ กับปีศาจแดงนี่แหละ ที่ เซอร์ อเล็กซ์ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ประสพความสำเร็จคว้าถ้วยรางวัลมากที่สุดเหนือกว่าใครๆในเกาะอังกฤษ ลองไล่ดูว่าเขาได้อะไรมาบ้างครับ เริ่มตั้งแต่ถ้วยในประเทศมี 10 เพรอมิเอ ลีก 5 เอ็ฟเอ คัพ 2 ลีก คัพ 7 แชริตี หรือ คอมมิวนิตี ชีลด์ ในระดับทวีปก็มี 1 ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 1 ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ และ 1 ยูเอ็ฟฟา ซุปเปอร์ คัพ แถมอีก 1 อินเทอร์คอนทิเนนทัล คัพ
เซอร์ อเล็กซ์ ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า วิธีการทำทีมของเขาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง มันนำมาซึ่งความสำเร็จ เขาไม่ต้องการให้นักเตะหน้าไหนมาทำตัวแอ็คท์ ถือว่าเป็นดารา บังอาจเจ้ากี้เจ้าการจะใช้แท็คติคนั้น แท็คติคนี้เด็ดขาด ทุกคนต้องเล่นตามคำสั่ง เซอร์ อเล็กซ์ บอกว่า " my way or the highway " เอาอย่างนี้แหละ ใครหือก็ขับรถกลับบ้านได้เลย ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ย้ายออกจากทีมก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหากับผู้จัดการทีมคนนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น กอร์ดอน สตรัคคัน โพล แม็คกรัธ โพล อินซ์ ยาพ สตัม ดไวท์ ยอร์ค เดวิด เบ็คแค็ม รุด ฟัน นิสเตอรอย รวมทั้ง กาบริเอล ฮายน์เซ กองหลังชาวอาร์เกนตินาเชื้อสายเยอรมัน
หลายคนคงทราบดีว่า เซอร์ อเล็กซ์ โปรดปรานการเล่นม้าเป็นชีวิตจิตใจ ถึงกับซื้อม้าแข่งพันธุ์ดีเอาไว้หลายตัว หนึ่งในนั้นคือ ร็อค อ็อฟ จิบรอลตา ( Rock of Gibraltar ) แชมป์รายการ 2,000 Guineas Stakes เมื่อปี 2002 นอกจากลูกชาย 3 คน ซึ่งเติบโต ทำงานกันหมดแล้ว ก็เหลือเมียกับม้านี่แหละที่เป็นความสุข ในเมื่อความสำเร็จทางอาชีพการงานมาถึงจุดสูงสุดแล้ว อายุก็ปาเข้าไป 66 ปีแล้ว เงินทองก็มีจนล้น ใช้ไม่หมด คราวนี้ก็คงถึงเวลาอีกหนที่ เซอร์ อเล็กซ์ จะตัดสินใจเลิกอาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอลซะทีภายในเดือนมิถุนายน 2008 ไม่ว่าเขาจะสามารถนำทีม แมนฯ ยู คว้าแชมป์ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก สำเร็จอีกหนหรือไม่ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่ ลุชนิกี สเตเดียม ในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซียได้หรือไม่
เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ จากไป ตัวเลือกเท่าที่มีเสียงลือกันนั้น มีอยู่ 3 คนคือ การ์ลอช เครอซ ( Carlos Queiroz ) ผู้ช่วยโค้ชชาวโปรตุเกสของ เซอร์ อเล็กซ์ นั่นเอง เขาเข้ามาร่วมงานกับ แมนฯ ยู ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2002 เมื่อ สตีฟ แม็คคลาเรน จากไป ซึ่งเมื่อจบฤดูกาลนั้น แมนฯ ยู คว้าแชมป์ เพรอมิเอ ลีก ได้อีก ทำให้ เรอัล มาดริด สนใจจ้าง เครอซ ไปเป็นผู้จัดการทีมแทน บีเซนเต เดล บอสเก ในปี 2003 โดยจับเซ็นสัญญา 2 ปี เครอซ เองก็อยากเป็นผู้จัดการทีมยักษ์ใหญ่อย่างราชันชุดขาว เพราะ เดวิด เบ็คแค็ม ก็ย้ายไปร่วมทีมด้วยก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์ แถมยังมีนักเตะระดับโลกเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกตั้ง 3 คนคือ ซีเนดีน ซีดาน ลูอิช ฟิโก และ โรเนาโด แต่การคุมทีมของ เครอซ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง หลายครั้งที่เขาถูกบีบให้จัดนักเตะชื่อดังลงเล่นให้ครบ ขาดอิสระในการตัดสินใจ นักเตะที่เขามองว่าดี มีประโยชน์ก็ดันถูกขายทิ้งซะงั้น เรอัล มาดริดจบฤดูกาล ปรีเมรา ดีวีซิอ็อนที่อันดับ 4 วืดหมดทั้ง โกปา เดล เรย์ และ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก เดือนพฤษภาคม 2004 เครอซ จึงถูกไล่ออกและกลับมาเป็นผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็กซ์ อย่างเดิม
ผู้ที่อยู่ในข่ายอาจมาเป็นกุนซือแทน เซอร์ อเล็กซ์ อีก 2 คนคือ รอย คีน อดีตมิดฟีลด์พันธุ์ดุชาวอายริชของ แมนฯ ยู ที่ตอนนี้ไปคุมทีม ซันเดอร์แลนด์ กับ มาร์ค ฮิวจส์ อดีตกองหน้าชาวเวลส์ของ แมนฯ ยู ที่กำลังคุมทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อย่างไรก็ตามบรรดาผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่างก็กาชื่อผู้จัดการทีมคนใหม่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟเฟิร์ด เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจัดให้กุนซือผู้มีนัยน์ตาแหลมคม มองนักเตะฝีเท้าดี อนาคตไกลได้อย่างแม่นยำมาตลอด เขาคนนั้นก็คือ การ์ลอช เครอซ เป็นตัวเลือกอันดับ 1
ในขณะที่ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูนายเต็ด คว้าแชมป์ฟุตบอล เพรอมิเอ ลีก 2007-2008 มาครองได้สำเร็จ เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษสมัยที่ 17 ของสโมสร ขออีกเพียงสมัยเดียวก็จะไล่ทัน ลิเวอร์พูล แล้ว ความสำเร็จคราเดียวกันนี้ ได้เพิ่มสถิติให้กับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์เกิสซัน ในการครองถ้วยใบนี้เป็นสมัยที่ 10 ในฐานะผู้จัดการทีมด้วย
ตอนที่ยังทำทีม อเบอร์ดีน ในสก็อตติช เพรอมิเอ ลีก ในช่วงปี 1978-1986 นั้น เซอร์ อเล็กซ์ ก็พาทีมคว้าแชมป์มา 3 สมัยในปี 1980, 1984 และ 1985 ถ้วยสก็อตติช คัพ 4 สมัย ในปี 1982, 1983, 1984 และ 1986 รวมทั้ง สก็อตติช ลีก คัพ อีก 1 หนในปี 1986 โดยไม่ลืมหยิบถ้วย ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ ติดมือมาด้วย 1 ใบในปี 1983 ซึ่งจากแชมป์ถ้วยใบนี้ ก็ต้องไปเจอกับ ฮัมบวร์ก เอส เฟา แชมป์ถ้วยใบใหญ่ของทวีปยุโรป แล้วชนะสกอร์รวม 2 นัด ทำให้ได้ ยูโรเปียน ซุปเปอร์ คัพ มาอีก
หลังจากนั้นก็ย้ายมาร่วมงานกับ แมนฯ ยู ในปี 1986 จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลาร่วม 21 ปีกว่าเข้าไปแล้ว คุมทีมลงเตะนัดที่ 1,000 ไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2004 โน่น เขาเป็นผู้จัดการทีมที่อยู่ยาวนานมากเกือบจะที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เป็นรองให้ เซอร์ แมทท์ บัสบี เพียงคนเดียว ที่ครองเก้าอี้อย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ปี 1945-1969 และ 1970-1971 รวม 2 ช่วงเกือบ 25 ปี แต่ กับปีศาจแดงนี่แหละ ที่ เซอร์ อเล็กซ์ กลายเป็นผู้จัดการทีมที่ประสพความสำเร็จคว้าถ้วยรางวัลมากที่สุดเหนือกว่าใครๆในเกาะอังกฤษ ลองไล่ดูว่าเขาได้อะไรมาบ้างครับ เริ่มตั้งแต่ถ้วยในประเทศมี 10 เพรอมิเอ ลีก 5 เอ็ฟเอ คัพ 2 ลีก คัพ 7 แชริตี หรือ คอมมิวนิตี ชีลด์ ในระดับทวีปก็มี 1 ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก 1 ยูโรเปียน คัพ วินเนอร์ส คัพ และ 1 ยูเอ็ฟฟา ซุปเปอร์ คัพ แถมอีก 1 อินเทอร์คอนทิเนนทัล คัพ
เซอร์ อเล็กซ์ ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า วิธีการทำทีมของเขาเป็นแนวทางที่ถูกต้อง มันนำมาซึ่งความสำเร็จ เขาไม่ต้องการให้นักเตะหน้าไหนมาทำตัวแอ็คท์ ถือว่าเป็นดารา บังอาจเจ้ากี้เจ้าการจะใช้แท็คติคนั้น แท็คติคนี้เด็ดขาด ทุกคนต้องเล่นตามคำสั่ง เซอร์ อเล็กซ์ บอกว่า " my way or the highway " เอาอย่างนี้แหละ ใครหือก็ขับรถกลับบ้านได้เลย ซึ่งตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน คนที่ย้ายออกจากทีมก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหากับผู้จัดการทีมคนนี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น กอร์ดอน สตรัคคัน โพล แม็คกรัธ โพล อินซ์ ยาพ สตัม ดไวท์ ยอร์ค เดวิด เบ็คแค็ม รุด ฟัน นิสเตอรอย รวมทั้ง กาบริเอล ฮายน์เซ กองหลังชาวอาร์เกนตินาเชื้อสายเยอรมัน
หลายคนคงทราบดีว่า เซอร์ อเล็กซ์ โปรดปรานการเล่นม้าเป็นชีวิตจิตใจ ถึงกับซื้อม้าแข่งพันธุ์ดีเอาไว้หลายตัว หนึ่งในนั้นคือ ร็อค อ็อฟ จิบรอลตา ( Rock of Gibraltar ) แชมป์รายการ 2,000 Guineas Stakes เมื่อปี 2002 นอกจากลูกชาย 3 คน ซึ่งเติบโต ทำงานกันหมดแล้ว ก็เหลือเมียกับม้านี่แหละที่เป็นความสุข ในเมื่อความสำเร็จทางอาชีพการงานมาถึงจุดสูงสุดแล้ว อายุก็ปาเข้าไป 66 ปีแล้ว เงินทองก็มีจนล้น ใช้ไม่หมด คราวนี้ก็คงถึงเวลาอีกหนที่ เซอร์ อเล็กซ์ จะตัดสินใจเลิกอาชีพผู้จัดการทีมฟุตบอลซะทีภายในเดือนมิถุนายน 2008 ไม่ว่าเขาจะสามารถนำทีม แมนฯ ยู คว้าแชมป์ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก สำเร็จอีกหนหรือไม่ในวันที่ 21 พฤษภาคมนี้ ที่ ลุชนิกี สเตเดียม ในกรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซียได้หรือไม่
เมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ จากไป ตัวเลือกเท่าที่มีเสียงลือกันนั้น มีอยู่ 3 คนคือ การ์ลอช เครอซ ( Carlos Queiroz ) ผู้ช่วยโค้ชชาวโปรตุเกสของ เซอร์ อเล็กซ์ นั่นเอง เขาเข้ามาร่วมงานกับ แมนฯ ยู ตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2002 เมื่อ สตีฟ แม็คคลาเรน จากไป ซึ่งเมื่อจบฤดูกาลนั้น แมนฯ ยู คว้าแชมป์ เพรอมิเอ ลีก ได้อีก ทำให้ เรอัล มาดริด สนใจจ้าง เครอซ ไปเป็นผู้จัดการทีมแทน บีเซนเต เดล บอสเก ในปี 2003 โดยจับเซ็นสัญญา 2 ปี เครอซ เองก็อยากเป็นผู้จัดการทีมยักษ์ใหญ่อย่างราชันชุดขาว เพราะ เดวิด เบ็คแค็ม ก็ย้ายไปร่วมทีมด้วยก่อนหน้านั้นเพียง 1 สัปดาห์ แถมยังมีนักเตะระดับโลกเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของฟีฟ่าอีกตั้ง 3 คนคือ ซีเนดีน ซีดาน ลูอิช ฟิโก และ โรเนาโด แต่การคุมทีมของ เครอซ ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง หลายครั้งที่เขาถูกบีบให้จัดนักเตะชื่อดังลงเล่นให้ครบ ขาดอิสระในการตัดสินใจ นักเตะที่เขามองว่าดี มีประโยชน์ก็ดันถูกขายทิ้งซะงั้น เรอัล มาดริดจบฤดูกาล ปรีเมรา ดีวีซิอ็อนที่อันดับ 4 วืดหมดทั้ง โกปา เดล เรย์ และ ยูเอ็ฟฟา แชมเปียนส์ ลีก เดือนพฤษภาคม 2004 เครอซ จึงถูกไล่ออกและกลับมาเป็นผู้ช่วยของ เซอร์ อเล็กซ์ อย่างเดิม
ผู้ที่อยู่ในข่ายอาจมาเป็นกุนซือแทน เซอร์ อเล็กซ์ อีก 2 คนคือ รอย คีน อดีตมิดฟีลด์พันธุ์ดุชาวอายริชของ แมนฯ ยู ที่ตอนนี้ไปคุมทีม ซันเดอร์แลนด์ กับ มาร์ค ฮิวจส์ อดีตกองหน้าชาวเวลส์ของ แมนฯ ยู ที่กำลังคุมทีม แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส อย่างไรก็ตามบรรดาผู้บริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่ต่างก็กาชื่อผู้จัดการทีมคนใหม่แห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟเฟิร์ด เอาไว้ในใจเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจัดให้กุนซือผู้มีนัยน์ตาแหลมคม มองนักเตะฝีเท้าดี อนาคตไกลได้อย่างแม่นยำมาตลอด เขาคนนั้นก็คือ การ์ลอช เครอซ เป็นตัวเลือกอันดับ 1