ผู้จัดการออนไลน์ -- นายบัน คี-มูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ได้เดินทางถึงพม่าแล้วในวันพฤหัสนี้ (22 พ.ค.) เพื่อกดดันให้คณะทหารเปิดประเทศรับความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างกว้างขวาง
นายบัน เป็นเลขาธิการ UN คนแรกที่เดินทางไปเยือนพม่านับตั้งแต่ปี 1964 เพื่อเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลทหารพม่าในช่วงเช้าของวันพฤหัสบดีนี้ และจะเดินทางไปยังบริเวณที่ราบปากแม่น้ำอิรวดี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากไซโคลนนาร์กีสพัดถล่มเมื่อต้นเดือน พ.ค.
ภัยพิบัติครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหรือสูญหายมากกว่า 133,000 คนในขณะนี้
เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของรัฐบาลพม่า กล่าวว่า นายบัน ยังมีกำหนดเดินทางไปยังเมืองเนปิดอว์ เมืองหลวงของพม่าในวันศุกร์ (23 พ.ค.) เพื่อเข้าพบผู้นำคณะทหาร พลเอกอาวุโสตานฉ่วย (Than Shwe)
การเดินทางเยือนพม่าของเลขาธิการ UN ก่อนหน้านี้ มีขึ้นในปี 1964 โดย นายอู ถั่น (U Thant) ซึ่งเป็นเลขาธิการองค์การสหประชาชาติชาวพม่า ครั้งเมื่อยังใช้ชื่อประเทศว่า Burma
ตำรวจได้วางกำลังตามเส้นทางที่มุ่งออกจากสนามบิน ในขณะที่ทหารจำนวนมากกำลังเก็บกวาดสิ่งกีดขวางบนท้องถนนสำหรับการเดินทางมาเยือนของเลขาธิการ UN
นายบัน ได้รับการต้อนรับจาก นายเนียน วิน (Nyan Win) รัฐมนตรีต่างประเทศพม่าขณะที่เดินทางถึงยังสนามบินนานาชาติกรุงย่างกุ้ง จากนั้นจึงออกเดินทางต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศเพื่อพูดคุยกันเป็นครั้งแรกของการเดินทางเยือนในครั้งนี้
หลังจากที่ได้มีการหารือกันกับ นายเนียน วิน เลขาธิการ UN ได้เดินทางไปนมัสการเจดีย์ชเวดากอง ซึ่งเป็นปูชนียสถานทางศาสนาที่สำคัญของพม่า ก่อนที่จะเดินทางต่อตามกำหนดการอื่นๆ
นายบัน ยังได้พบกับ พลเอกเต็ง เส่ง (Thein Sein) นายกรัฐมนตรีของพม่าที่กรุงย่างกุ้ง ก่อนที่จะออกเดินทางไปตรวจดูสถานการณ์บริเวณที่ราบปากแม่น้ำซึ่งเป็นบริเวณที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทั้งนี้ เป็นรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี
วัตถุประสงค์ของการเดินทางของ นายบัน คี-มูน ครั้งนี้ เพื่อโน้มน้าวให้คณะปกครองทหารพม่ายอมรับความช่วยเหลือจากต่างชาติให้สามารถเข้าไปช่วยผู้รอดชีวิตกว่า 2 ล้านคนที่กำลังต้องการอาหาร ที่พักและยารักษาโรค
องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่ามีผู้ประสบภัยเพียง 25% เท่านั้นที่ได้รับความช่วยเหลือที่ส่งไปจากนานาชาติ
พม่ายังคงยืนยันว่าสามารถส่งความช่วยเหลือให้แก่เหยื่อพายุได้ด้วยตัวเอง แต่ผู้รอดชีวิตในหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บริเวณที่ราบปากแม่น้ำกล่าวกับผู้สื่อข่าวเอเอฟพีว่า ยังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วนใดๆ จากรัฐบาล ทั้งที่เหตุภัยพิบัตินี้เกิดขึ้นมาเป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์แล้ว
ขณะที่รัฐบาลทหารพม่ายังคงยืนยันที่จะจัดให้มีการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญรอบสองในพื้นที่ต่างๆ ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ (24 พ.ค.) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องเลื่อนออกไปเนื่องจากได้รับความเสียหายจากเหตุกาณ์พายุพัดถล่มเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
นับตั้งแต่เกิดภัยพิบัติเมื่อต้นเดือน พ.ค.เลขาฯ ยูเอ็นได้เพียรพยายามต่อโทรศัพท์ถึงผู้นำพม่าหลายครั้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้.