ผู้จัดการรายวัน-- ปี 2550 ก็เช่นเดียวกันกับทุกปีก่อนหน้านั้น การเก็บ "ภาษีบาป" จากกาสิโน ซึ่งเป็นธุรกิจที่เฟื่องฟูในกัมพูชาได้สร้างความกังขาให้แก่หลายนฝ่าย
ทางการกัมพูชาคาดว่าปี 2551 นี้รายได้ภาษีจากสถานกาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมายเกือบ 30 แห่งทั่วประเทศ จะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านดอลลาร์ ขณะที่ยังมี "ภาษีบาป" อื่นๆ อีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นภาษีสรรพสามิตที่เก็บจากบุหรี่ สุรา เบียร์กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อื่นๆ "โต๊ะแทงบอล" หรือ แหล่งเล่นการพนันทายผลฟุตบอล และสลากกินแบ่งรัฐบาล
ตัวเลขภาษีกาสิโนนี้นับว่าต่ำมาก หากเทียบกับจำนวนสถานการพนันที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งได้ทำให้เกิดคำถามซ้ำอีกว่า เรื่องนี้เกิดจากรัฐบาลจัดเก็บภาษีกาสิโนไม่รัดกุม ไม่ถูกวิธี หรือว่าเกิดการรั่วไหล เงินจำนวนมหาศาลได้ผ่านช่องทางลับไปสู่มือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ เนื่องจากหลายฝ่ายประเมินว่าเงินที่สะพัดตามบ่อนกาสิโนกัมพูชา เป็นจำนวนนับพันล้านดอลลาร์ในแต่ละปี
ปี 2550 มีสถานกาสิโนเปิดใหม่อีก 5 แห่งทำให้จำนวนทั้งหมดเพิ่มขึ้นเป็น 29 ตั้งแต่ชายแดนติดกับไทยถึงชายแดนเวียดนาม รวมทั้งในกรุงพนมเปญกับเมืองสีหนุวิลล์ด้วย ทั้งนี้เป็นรายงานของหนังสือพิมพ์กัมพูชาเดลีซึ่งอ้างการเอกสารสถิติของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง
รัฐบาลกัมพูชาคิดคำนวณจัดเก็บภาษีจากสถานกาสิโนแห่งตามๆ ตามจำนวนโต๊ะหรือเครื่องจักรที่เปิดให้บริการลูกค้า ไม่ได้จัดเก็บจากเงินรายได้ของแหล่งกาสิโนแห่งต่างๆ ซึ่งทำให้สาธารณชนไม่ได้เห็นตัวเลขรายได้ที่แท้จริงของสถานประกอบการแต่ละแห่งซึ่งล้วนแต่หรูหรา เช่นเดียวกันกับกลุ่มลูกค้าขาประจำ
ตามตัวเลขของกระทรวงเศรษฐกิจฯ ระบุว่า ปี 2550 ทางการจัดเก็บภาษีจากกาสิโนได้ 18 ล้านดอลลาร์ เทียบกับ 16 ล้านดอลลาร์ในปี 2549 และ 12 ล้านดอลลาร์ในปี 2548
ไม่เฉพาะสถานกาสิโนใหญ่ในเขตเมืองปอยเปตใกล้กับชายแดนไทยเท่านั้น ที่ด่านบาเว็ต (Ba Vet) ชายแดนเวียดนามด้าน จ.สวายเรียง (Svay Rieng) เปิดทำการปีแรกการเงินก็สะพัดไม่แพ้กัน
ตัวเลขนี้ได้เปิดเผยให้เห็นแนวโน้มใหม่ว่า ธุรกิจกาสิโนในกัมพูชากำลังมุ่งหน้าลงใต้ยังเขตท่องเที่ยวชายทะเล และ ชายแดนติดเวียดนาม ขณะที่ชายแดนไทยเริ่มอิ่มตัว
ตามสถิติของทางการปัจจุบันมีสถานกาสิโนที่ถูกกฎหมายจำนวน 15 แห่ง ตั้งอยู่ตามจุดสำคัญต่างๆ ตามแนวชายแดนติดกับไทย กับอีก 10 แห่งที่ชายแดนกับเวียดนาม อีก 1 แห่งในกรุงพนมเปญกับอีก 3 แห่งที่เมืองสีหนุวิลล์ เมืองท่องเที่ยวชายทะเลในอ่าวไทย แต่เป็นที่ทราบกันดีว่ายังมีแหล่งการพนันที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายอีกจำนวนมาก
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสถานกาสิโนใหญ่แต่ละแห่งอาจจะมีรายได้ปีละหลายรอยล้านดอลลาร์ ซึ่งถ้าหากรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีจากสถานกาสิโนแห่งต่างๆ ได้เฉลี่ยเพียงแห่งละ 1 ล้านดอลลาร์ ปีที่แล้วเงินภาษีบาปที่เข้าท้องพระคลังหลวงก็ยังจะเป็น 29 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำให้ประเทศได้ประโยชน์อย่างมหาศาล
สถานกาสิโนที่ถูกกฎหมายได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมากมายจาก 19 แห่งเมื่อต้นปี 2550 เป็น 29 แห่งเมื่อต้นปีนี้ เจ้าหน้าที่กัมพูชากล่าวในเดือน ม.ค.ปีที่แล้วว่า ทางการได้ออกใบอนุญาตอีก 11 แห่งเป็นสถานกาสิโนที่จะทยอยผุดขึ้นในกรุงพนมเปญตลอดหลายปีข้างหน้านี้
หากเป็นไปตามตัวเลขดังกล่าว อักไม่นานกัมพูชาก็จะมีสถานกาสิโนที่ถูกกฎหมาย 40-50 แห่ง ขณะที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศนี้เพิ่มมากขึ้นทุกปี จนทะลุถึง 2 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว คิดเป็นอัตราเพิ่ม 22%
อย่างไรก็ตามตัวเลขรายได้ภาษีจากสถานกาสิโนในช่วงปีใกล้ๆ นี้ ยังขัดกัน ซึ่งอาจจะเกิดจากฐานการจัดเก็บหรือการคิดคำนวณภาษีตามสถานกาสิโนแหล่งต่างๆ ที่ต่างกันออกไป
เจ้าหน้าระดับรองอธิบดีกรมคนหนึ่งของกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง ยอมรับในการให้สัมภาษณ์เดือน ม.ค.2550 ว่า ทางการยังไม่มีหลักการที่ตายตัวว่า ควรจะจัดเก็บจากสถานกาสิโนแห่งใดเป็นอัตราเท่าไร แต่พิจารณาเป็นกรณีไปโดยใช้หลักอ้างอิงๆ ต่างๆ เช่น จำนวนโต๊ะที่ตั้งเครื่องเล่นการพนันสำหรับลูกค้า
นายเมยวัน (Mey Vann) เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งกล่าวว่า ในปี 2549 สถานกาสิโนของกลุ่มนากาคอร์ป (Naka Corporation) ในกรุงพนมเปญ เสียภาษีให้รัฐมากที่สุด คือ 2.4 ล้านดอลลาร์ สถานกาสิโนขนาดเล็กกว่าจะจ่ายภาษีตามขนาดให้บริการ ซึ่ง “ไม่มีรายละเอียดที่แน่ชัด”
บริษัทนากาคอร์ปจากมาเลเซีย ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2549 หุ้นของบริษัทถูกกว้านซื้อหมดในพริบตา หลังนำออกเสนอขาย และมูลค่าทะยานสูงกว่าราคาเสนอออกจำหน่ายหลายเท่าตัว
กล่าวได้ว่าความสำเร็จจากธุรกิจกาสิโนทำให้ นากาคอร์ปหันไประดมทุนเพื่อขยายโครงการในกรุงพนมเปญ และพัฒนาต่อยอดธุรกิจซึ่งปัจจุบันกำลังมีการก่อสร้างศูนย์การค้าและสถานบริการประเภทอื่นๆ ขึ้นในอาคารที่ตั้งสถานกาสิโนเดิมที่อยู่ติดกับกระทรวงการต่างประเทศและสมาคมพุทธศาสนา
ตามรายงานของนากาคอร์ปที่แถลงก่อนจะนำหุ้นออกให้จองนั้น บริษัทเป็นผู้ได้รับสัมปทานธุรกิจกาสิโนแต่เพียงผู้เดียวในกรุงพนมเปญ กับรัศมีโดยรอบระยะทาง 200 กิโลเมตร โดยมีอายุสัมปทานนานถึง 25 ปี จึงยังไม่ราบรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับสถานกาสิโนอีก 11 แห่งที่ได้รับใบอนุญาตไปในช่วงหลัง
นายทีม สมีธ (Tim Smyth) กรรมการอำนวยการ ของบริษัทวิจัยอินโดจีน (Indochina Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยการตลาดแห่งหนึ่ง กล่าวว่าเป็นการยากที่จะประเมินตัวเลขภาษีที่พึงได้จากกาสิโน เนื่องจากธุรกิจพนันยังขาดความโปร่งใสมาก สถานกาสิโนก็ไม่ได้ดีกว่าหรือว่าเลวร้ายไปกว่า ธุรกิจประเภทอื่นๆ ในประเทศนี้ ในเรื่องของความโปร่งใส
ในกัมพูชายังมีการประกอบการเชิงการพนันอื่นๆ อีกมาก ซึ่งมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นคนท้องถิ่นโดยตรง เช่น หวยรัฐบาล ตู้สล๊อตแมชีน ตู้ม้าไฟฟ้า และเครื่องเล่นอิเล็กทรอนิกส์ ที่เล่นเป็นเกมส์การพนันประเภทอื่นๆ นอกจากนั้นก็ยังมีร้าน CamboSix ที่เปิดให้ประชาชนเล่นพนันทายผลฟุตบอล บริษัทนี้มีสาขามากมาย ทั้งในกรุงพนมเปญและเมืองใหญ่อื่นๆ
อย่างไรก็ตามในกฎหมายงบประมาณปี 2549 ของรัฐบาล ได้ประเมินตัวเลขภาษีเงินได้จากสลากกินแบ่ง และ ธุรกิจการพนันประเภทต่างๆ เอาไว้เพียง 653,750 ดอลลาร์
เจ้าหน้าที่กระทรวงการเงินกล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องออกใบอนุญาตให้สถานการพนันต่างๆ เพื่อให้สามารถกำกับดูแลและควบคุมได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดสถานการพนันเถื่อนขึ้นมาสร้างปัญหาแก่สังคม และที่สำคัญยังสร้างรายได้แก่รัฐด้วย
ที่ผ่านมากัมพูชายังไม่ยอมให้เปิดกาสิโนขึ้นในเสียมราฐอันเป็นปลายทางท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ในวงในกล่าวว่าที่นั่นเป็นที่ตั้งของปราสาทนครวัด อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของประเทศ
แต่ก็เชื่อว่านโยบายนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงในไม่ช้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวระดับบนเดินทางไปที่นั่นมากขึ้นทุกปีๆ ดังจะเห็นได้จากการผุดโรงแรมหรูเพิ่มอีกหลายแห่ง และ รัฐบาลได้ใช้สนามกอล์ฟใหญ่ที่นั่นจัดแข่งระดับนานาชาติเป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว
ในปี 2550 มีการเปิดสถานกาสิโนอีกอย่างน้อย 2 แห่งในเมืองไพลิน (Pailin) ถิ่นของอดีตผู้นำเขมรแดงที่อยู่ติดชายแดน ทำให้การเงินที่นั่นสะพัด มีสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ ผุดขึ้นหลายแห่ง ที่นั่นยังมีแผนการจะเปิดอีกหลายแห่ง
กลุ่มบริษัทโรงแรมสุขา (Sokha Hotel Group) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจและบริการที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาลได้รับอนุญาตให้เข้าลงทุนฟื้นสถานกาสิโนและโรงแรมบนเขาโบกอร์ จ.กัมโป้ท (Kampot) ขึ้นมาให้ใช้การได้อีกครั้งหนึ่งเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว ชาวฝรั่งเศสไปสร้างที่นั่นเมื่อเกือบ 100 ปีก่อน ให้เป็นที่พักตากอากาศหนีไอร้อน
โฮเตล-กาสิโน “โบกอร์พาเลซ”(Bokor Palace) เคยรุ่งเรืองสุดขีดในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 ก่อนสงครามเวียดนาม
ตามรายงานของสื่อในกัมพูชาก่อนหน้านี้ ทางการประกาศนโยบายจะพัฒนาสนามบินเมืองสีหนุวิลล์ให้เป็นสนามบินใหญ่ที่สุดในประเทศ ใหญ่กว่าท่าอากาศยานโปเจินตง (Pochentong) กรุงพนมเปญ เครื่องบินโดยสารขนาดกลางระดับโบอิ้ง 737 กับแอร์บัส A320 จะลงจอดที่สีหนุวิลล์ได้ในเดือน มี.ค.นี้ และ เครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ระดับโบอิ้ง 747 จะลงได้ในปี 2553
ทางการกัมพูชาจะพัฒนาให้เมืองท่าชายทะเลแห่งนี้เป็นศูนย์การกลางการบิน การค้า อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว ของประเทศ ซึ่งจะทำให้บริการต่างๆ รวมทั้งโรงแรมและกาสิโนเพิ่มจำนวนมากขึ้นอีกในอนาคต.