xs
xsm
sm
md
lg

“S.O.S. เสียงร้องของโลกรวน” เมื่อคาร์บอนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไม่ว่าคุณจะกินข้าว อาบน้ำ เปิดแอร์ หรือเลื่อนมือถืออยู่ ทุกกิจกรรมล้วนสร้างคาร์บอน งานนิทรรศการ “S.O.S. เป็น “ผู้มีส่วนร่วม” ในวิกฤตโลกรวน และสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขได้– Sound of Scorched Earth”

ระหว่างวันที่ 28 กันยายน – 4 ตุลาคมที่ผ่านมา ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC) ได้เปิดพื้นที่จัดนิทรรศการ “S.O.S. – Sound of Scorched Earth: เสียงร้องของโลกรวน” หนึ่งในกิจกรรมหลักของ Bangkok Climate Action Week 2025 พร้อมชวนทุกคนหันไปมองโลกใหม่ ผ่านประสบการณ์ที่ผสมผสาน ศิลปะ – วิทยาศาสตร์ – มัลติมีเดีย เข้าด้วยกัน บอกเล่าวิกฤตภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นจริงรอบตัวเรา

นิทรรศการพาผู้เข้าชมดำดิ่งไปใน “4 ธาตุของโลก” ถูกสะท้อนผลกระทบจากภาวะโลกรวนอย่างชัดเจน


ดิน : ผลงานศิลปะสะท้อนคลื่นความร้อนที่สะสมในผืนดิน ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพของคนทำงานกลางแจ้ง งานวิจัยคาดการณ์ว่า อัตราการเสียชีวิตจากความร้อนในอาเซียนอาจเพิ่มขึ้นถึง 691% ภายในปี 2050


น้ำ : การติดตั้งศาลพระภูมิจำลองที่จมอยู่ใต้น้ำ สะท้อนภาพเมืองใหญ่ที่เผชิญความเสี่ยงจากน้ำท่วมและระดับน้ำทะเลสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรุงเทพฯ ซึ่งถูกจัดให้อยู่ใน 10 เมืองเสี่ยงจมน้ำของโลก


ลม : ผู้ชมจะได้เห็นภาพจริงของ อนุภาคฝุ่นจิ๋ว PM2.5 ที่ปกติไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่กลับเข้าสู่ร่างกายทุกครั้งที่หายใจ พร้อมข้อมูลว่า คนไทยกว่า 31,000 คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในแต่ละปีจากมลพิษทางอากาศ


ไฟฟ้า : ตู้มิเตอร์พลังงานที่รวมศูนย์เหมือนถูก “ผูกขาด” ทำให้ผู้เข้าชมตั้งคำถามกับการเข้าถึงพลังงานสะอาด ทั้งที่เทคโนโลยีหมุนเวียนอย่างโซลาร์และลมพร้อมใช้งานแล้ว แต่การเปลี่ยนผ่านยังไม่เกิดขึ้นจริง


นอกจาก 4 ธาตุหลักแล้ว นิทรรศการยังเต็มไปด้วยกิจกรรมที่ทำให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วม เช่น

Climate Action Wall พื้นที่ให้ทุกคนฝากข้อความ ความหวัง หรือคำถามถึงโลกใบนี้

Voices Across Borders ถ่ายทอดเรื่องราวจริงของผู้คนจากอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ที่เผชิญผลกระทบสภาพอากาศสุดขั้ว ตั้งแต่น้ำทะเลหนุนสูงจนบ้านเรือนหายไป ไปจนถึงเกษตรกรที่ไม่สามารถเพาะปลูกได้อีกต่อไป

เวิร์กช็อปและเกมเชิงโต้ตอบ ที่ชี้ให้เห็นว่าแค่การ “เปิดไฟหนึ่งดวง” หรือ “เลื่อนมือถือไม่กี่นาที” ก็สร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ขึ้นมาแล้ว

เบื้องหลังนิทรรศการครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลจากโครงการ CASE – พลังงานสะอาด เข้าถึงได้และมั่นคงสำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, สถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาฯ (ERI) และ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่ช่วยเติมเต็มมุมมองเชิงวิทยาศาสตร์และตัวเลขจริง เพื่อให้ผู้ชมตระหนักว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่าห่างไกล แต่เป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นแล้ว

นิทรรศการ “S.O.S. เสียงร้องของโลกรวน” จึงไม่ได้เพียงแค่ตั้งคำถามต่อปัญหาภูมิอากาศ แต่ยังปลุกให้คนเมืองเห็นว่าทุกคนเกี่ยวข้องกับคาร์บอน และทุกคนมีพลังที่จะร่วมกันเปลี่ยนอนาคต ก่อนที่เสียงร้องของโลกจะเงียบลงไปจริงๆ


กำลังโหลดความคิดเห็น