xs
xsm
sm
md
lg

'ดีป้า' ดัน 400 ธุรกิจใช้ดิจิทัลลดคาร์บอนสู่ Net Zero

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ดีป้า' เปิดตัวโครงการ Digital Grow Green ผนึกอบก. หนุน 400 ธุรกิจใช้แพลตฟอร์มบันทึกคาร์บอนฟุตพรินต์ เดินหน้าสู่เป้าหมายปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2065

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า ได้ร่วมมือกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เปิดตัวโครงการ Digital Grow Green อย่างเป็นทางการ เพื่อส่งเสริมให้ภาคธุรกิจไทยเริ่มนำดิจิทัลโซลูชันมาบริหารจัดการคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า ดีป้า เล็งเห็นว่า การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการลดก๊าซเรือนกระจก ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ เพราะนอกจากจะช่วยสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการวางรากฐานสู่เป้าหมายใหญ่ของประเทศ คือ การบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี 2065 ตามที่ประเทศไทยได้ประกาศไว้ในการประชุม COP26 ณ เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร

โครงการ Digital Grow Green ไม่ได้คาดหวังให้ผู้ประกอบการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทันที หากแต่ต้องการสร้างความเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เพราะทุกธุรกิจย่อมมีการปล่อยคาร์บอนอยู่แล้วในกระบวนการดำเนินงาน เช่น การผลิต การขนส่ง หรือแม้แต่การใช้พลังงานในออฟฟิศ ซึ่งล้วนแล้วแต่ส่งผลต่อคาร์บอนฟุตพรินต์โดยตรง

ดีป้า จึงเริ่มต้นโครงการโดยมุ่งเป้าให้ผู้ประกอบการ 400 ราย เรียนรู้การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลในการบันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลคาร์บอนฟุตพรินต์ เพื่อให้รู้ว่าธุรกิจของตนเองปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระดับใด และมีจุดใดที่สามารถลดได้บ้าง จากนั้นจึงจะต่อยอดไปสู่การบริหารจัดการเพื่อลดการปล่อยจริงในระยะต่อไป โดยการสนับสนุนครั้งนี้ ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมให้กับสตาร์ทอัพที่พัฒนาโซลูชันด้านสิ่งแวดล้อมให้สามารถเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรกับผู้ประกอบการรายต่างๆ ได้ด้วย

"ดีป้า ไม่ได้ทำเพียงแค่สนับสนุนผู้ใช้ แต่ยังมองเห็นโอกาสในการสนับสนุนผู้พัฒนาโซลูชันด้วยเช่นกัน เหมือนกับที่เราเคยทำกับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วย AI ที่เลือกสตาร์ทอัพคุณภาพมาจับคู่กับองค์กร ซึ่งกรณีนี้ก็จะคัดเลือกสตาร์ทอัพที่ขึ้นทะเบียนไว้กับดีป้าแล้วมาเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจ เพื่อให้ระบบการลดคาร์บอนเกิดขึ้นได้จริงในเชิงปฏิบัติ" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว


สำหรับหน่วยงานรัฐเอง โครงการนี้ยังขยายผลไปยัง 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ขอนแก่น พระนครศรีอยุธยา และชลบุรี โดยดีป้าจะสนับสนุน National Platform ให้ใช้งานได้ฟรี เพื่อจดบันทึกข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรในแต่ละพื้นที่ ก่อนจะนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์และบูรณาการเป็นนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมระดับท้องถิ่นและระดับประเทศต่อไป

ดีป้า คาดการณ์ว่า โครงการ Digital Grow Green จะก่อให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมรวมไม่ต่ำกว่า 42.4 ล้านบาท และสามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในภาพรวมไม่น้อยกว่า 675 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่ได้เป็นเพียงภาระ แต่คือโอกาสทางเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่จับต้องได้

ภายในงานแถลงข่าว ยังมีการบรรยายพิเศษโดย นายธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ อบก. ในหัวข้อ Carbon Footprint: จุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนธุรกิจสีเขียว และการเสวนาหัวข้อ Sustainable Future is Coming, Are You Ready? โดย ดร.จิรวัฒน์ ตั้งปณิธานนท์ นักฟิสิกส์ควอนตั้ม และ นายณพวุฒิ ขุนพินิจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านโรงงาน บริษัท ยูเนี่ยน เคมีคอล แอนด์ อีควิปเม้นท์ จำกัด

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Digital Grow Green ได้แล้ว วันนี้ถึงวันที่ 28 ก.พ.69 หรือจนกว่าจะครบตามจำนวนที่กำหนดผ่าน LINE OA: @depaThailand และศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.depa.or.th




กำลังโหลดความคิดเห็น