การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งเครื่องตอบโจทย์การเดินทางทุกเส้นทางทั่วไทย โดยมีเป้าหมายสนับสนุนประเทศไทยให้เข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Society) ซึ่งการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) นั้นมีทั้งในภาคอุตสาหกรรม และภาคขนส่ง
สำหรับภาคขนส่ง กฟผ. มุ่งสร้างระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV Ecosystem ด้วยการลงทุนพัฒนาสาธารณูปโภคด้านไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ EV โดยพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging Station) ให้ครอบคลุมทุกการเดินทางของผู้ใช้ EV ภายใต้แบรนด์ EleX by EGAT
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่า กฟผ. กล่าวว่า หลังจากเริ่มเปิดให้บริการสถานี EV Charging Station ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา พบว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้รถ EV และช่วยลดการปล่อย CO2 ทดแทนการใช้รถเครื่องยนต์สันดาปได้กว่า 10 ตันคาร์บอน “กฟผ. จึงวางแผนในระยะต่อไปที่จะขยายจำนวน EV Charging Station เพิ่มขึ้น ทั้งในพื้นที่โรงไฟฟ้า หรือเขื่อนของ กฟผ.เอง และพื้นที่พันธมิตรต่างๆ เช่น สถานีบริการน้ำมัน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงพยาบาล ฯลฯ ซึ่งจะสนับสนุนการใช้งาน EV และการเดินทางในเส้นทางหลักทั่วประเทศ
“หากว่าเป็นไปตามแผนการดังกล่าว คาดว่า กฟผ. จะสามารถขยายสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถ EV เป็น 23 แห่ง ภายในปี 2564 นี้ และขยายเป็น 120 แห่ง ในปี 2565”
สำหรับแผนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับสถานี EleX ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ได้แก่
-สถานี EleX by EGAT ที่ดำเนินการร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน PT ในเฟสที่ 2 ในช่วงไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้นอีก 6 สถานี และเฟส 3 ในช่วงไตรมาส 1/65 อีก 24 สถานี
-สถานี EleX by EGAT ที่มีความร่วมมือกับโรงพยาบาลกรุงเทพ-พัทยา (BDMS) จะเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 64
-สถานี EleX by EGAT ที่เป็นความร่วมมือกับค่ายรถยนต์พันธมิตร ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งจะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2564
-และจากความร่วมมือจัดตั้งสถานี EleX by EGAT กับพันธมิตรอื่นๆ เช่น ห้างสรรพสินค้า สนามกอล์ฟ ร้านอาหาร และพื้นที่จุดเชื่อมต่อการเดินทาง อีกกว่า 40 สถานี ในช่วงปี 2564 – 2565
หนุนตอบโจทย์การเดินทางและการขนส่งทุกเส้นทาง
ในการปักธงจัดตั้งสถานี EleX by EGAT สำหรับการใช้ EV ของ กฟผ. นั้น มุ่งตอบโจทย์ใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่
1. การใช้ EV เดินทางระหว่างจังหวัด (Highway) ด้วยสถานี EleX by EGAT ในพื้นที่ กฟผ. (จำนวน 7 สถานีในปัจจุบัน) และโปรเจค EleX by EGAT max ร่วมกับสถานีบริการน้ำมัน PT (จำนวน 5 สถานี ในปัจจุบัน)
2. การใช้ชีวิตด้วย EV ในเมือง (Intown) ด้วยสถานี EleX ที่อยู่ในเขต กทม. และเมืองใหญ่ โดยในปัจจุบันมีสถานีในพื้นที่ กฟผ. สำนักงานใหญ่ และที่ศูนย์การเรียนรู้พระราม 7 รวมถึงสถานี Partner ในสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช. จ.เชียงใหม่
3. การขนส่งเชิงพาณิชย์ด้วย EV Transportation / EV Logistic Fleets โดยจะเป็นการสนับสนุนภาครัฐและเอกชน ให้มีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ในการขนส่งมากยิ่งขึ้น เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน fossil และลด CO2 ในภาคขนส่ง รวมถึงสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนเชื้อเพลิงให้กับผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้ โครงการอยู่ระหว่างการพัฒนา
ชูแอพฯ “EleXA” อำนวยความสะดวกผู้ใช้ EV
กฟผ. ยังพัฒนา Application ภายใต้แบรนด์ “EleXA” เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เป็นเสมือนผู้ช่วยในทุกการเดินทางด้วยรถ EV ที่จะทำให้การค้นหาสถานี การชาร์จ การจอง และจ่ายเงินของผู้ใช้รถ EV เป็นเรื่องง่าย และยังมีระบบส่งเสริมการขาย โดยการสะสมแต้มแลกสิทธิพิเศษต่างๆ ครอบคลุมทุกความต้องการใน Application เดียว ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งสามารถดาวโหลดใช้งานได้ทั้งในระบบ App Store และ Play Store
นอกจากนี้ Application EleXA ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา Function ใหม่ๆ โดยรวบรวมความต้องการของผู้ใช้ EV มาพัฒนา เช่น ระบบวางแผนการเดินทาง (Trip Planner) ระบบจองจุดจอดรถอัจฉริยะในเมือง ระบบการแลกแต้มเพื่อเป็นส่วนลดในผลิตภัณฑ์ของ กฟผ. และพันธมิตรธุรกิจ เป็นต้น โดยจะมีการ Update feature ใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก
ทั้งนี้กฟผ. ประกาศพร้อมเปิดรับพันธมิตรทุกราย ที่ต้องการมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีมาตรฐาน มีระบบบริหารจัดการสถานีอัดประจุไฟฟ้า ด้วยทีมงานหลังบ้านที่มีความพร้อมทั้งประสบการณ์และความรู้ ให้บริการอย่างใส่ใจและมีมาตรฐาน โดย กฟผ. พร้อมจะสนับสนุนในทุก Solutions เพื่อส่งเสริมให้เกิดการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วย
เตรียมตั้งบริษัทใหม่ขับเคลื่อนธุรกิจ EV
ผู้ว่า กฟผ. กล่าวอีกว่าขณะนี้ กฟผ. อยู่ในขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อมาดำเนินธุรกิจภายใต้ EGAT EV Business Solutions ทั้ง 4 ผลิตภัณฑ์และบริการ ไม่ว่าจะเป็น 1. สถานีอัดประจุไฟฟ้า “EleX by EGAT” 2. Mobiile Application Platform “EleXA” 3. ตู้อัดประจุไฟฟ้า “EGAT Wallbox และ EGAT DC Quick Charger” และ 4. ระบบบริหารจัดการ เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “BackEN หรือ Backend EGAT Network Operator Platform
"เพราะกฟผ.มองว่ายานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในอนาคตจะมีการใช้งานในประเทศไทยเยอะมาก เพราะราคารถ EV มีแนวโน้มปรับลดลง โดยเฉพาะรถ EV จากประเทศจีน ที่เริ่มเข้ามาทำตลาดแล้ว แต่ประเด็นสำคัญคือจะทำอย่างไรให้สถานีชาร์จไฟฟ้ารถ EV มีครอบคลุมทุกการเดินทาง เพราะถ้าซื้อรถมาใช้วิ่งเฉพาะในเมืองอาจจะยังไม่ค่อยคุ้มค่า และยังไม่ตอบโจทย์กับคนส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าที่กระทรวงพลังงานวางแผนไว้ ก็น่าจะมีรถ EV ประมาณ 7 แสนถึง 1 ล้านคัน ถ้าถึงเวลานั้นก็จะได้เห็นการใช้งาน EV แพร่หลายมากขึ้นบนท้องถนน”
"𝟏𝟎.𝟏𝟎𝐂𝐇𝐀𝐑𝐆𝐈𝐍𝐆𝐓𝐎𝐓𝐇𝐄𝐌𝐀𝐗" โปรโมชัน ชวนชาร์จ ที่สถานี EleX by EGAT ทุกสาขา
EleX by EGATแจกต่อเนื่อง10 วันยาวๆ เพียงแค่ชาร์จขั้นต่ำ
150 บาท ที่ EleX by EGATทุกสาขา ได้สะสม to the max 2 ต่อ ต่อที่
1 ได้รับ100 𝐸𝑙𝑒𝑋𝐴𝑝𝑜𝑖𝑛𝑡𝑠 ต่อที่
2 ได้รับ100 𝐸𝑙𝑒𝑋𝐴𝐸𝑋𝑃 และยังสามารถใช้ร่วมกับคูปองส่งเสริมการขายอื่นๆ ของ
EleXAได้ด้วย ระยะเวลาแคมเปญ :8-17 ตุลาคม 2564
.
.