หลังจากลูกช้างพลัดหลงทับลานล้มแล้ว (เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 08.40 น. เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา) แฟนเพจเฟซบุ๊ค ผ้าขาวม้าติ่งป่า ที่ติดตามอัปเดทลูกช้างน้อยทุกวัน ล้วนแล้วแต่อึ้ง ตกใจที่น้องจากไปแบบกระทันหัน และร่วมแสดงความเสียใจ คอยให้กำลังใจทีมสัตวแพทย์ผู้ดูแล ซึ่งต่อมาสัตวแพทย์ดูแลน้องทับลานได้ชี้แจงผ่านเพจให้ทุกคนทราบข้อเท็จจริงที่ว่า “ลูกช้างพลัดหลงไม่มีอยู่จริง” เธอบอกว่า
“ป้าไม่ได้ตอบเมนท์แสดงความเสียใจที่น้องล้ม เพราะทุกคนคงรู้สึกไม่ต่างกัน
แต่อดไม่ได้ที่จะตอบเม้นท์เรื่องแม่รับ และพลัดหลง"
ทุกคนคะ...ลูกช้างพลัดหลงไม่มีอยู่จริงค่ะ เป็นเพียงวลีที่ช่วยให้รู้สึกดีกว่าถูกโขลงทิ้งเท่านั้น เพราะลูกช้างปกติทุกตัวจะได้รับการดูแลปกป้องหลายชั้นทั้งจากแม่, พี่เลี้ยง, ครอบครัว, แม่แปรก, ชุดคุ้มครองและจ่าโขลง ไม่มีโอกาสพลัดหลงค่ะ กรณีที่จะเกิดขึ้นได้จึงมีแค่ 2 อย่าง คือ 1.อุบัติเหตุ เช่น ชบาแก้ว และ 2.โขลงทิ้งเช่นลูกช้างป่าที่ทับลาน ลูกน้อยร้อยกว่าโลของเรานี่เอง
ทำไมถูกโขลงทิ้ง?
เพราะเค้าพบความผิดปกติในร่างกายลูกช้างและพิจารณากันแล้วว่าไม่รอด ซึ่งลูกช้างที่ถูกทิ้งก็จะอยู่ในห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติของสัตว์ผู้ล่าในป่านั้น...แต่ เมื่อคนพบเห็นกระบวนการแทรกแซงธรรมชาติจึงเกิดขึ้น ด้วยความเมตตา ปรารถนาดี แต่ต้องเผื่อใจไว้ว่าเรามีความรู้เกี่ยวกับโรคภัยของสัตว์ป่าน้อยมาก ปาฏิหาริย์จึงมักไม่เกิดขึ้น
ส่วนเรื่องแม่รับ ความเห็นส่วนตัวของป้า มันคือวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ไม่ใช่ดีที่สุด เพราะแม่รับรักษาความเจ็บป่วยไม่ได้ นมช้างไม่ใช่ยาวิเศษ แม่รับให้ความเป็นช้าง(เลี้ยง)ได้เท่านั้น การส่งต่อให้แม่รับจึงต้องรอให้การรักษาสำเร็จก่อน จะเตรียมไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอก็ไม่ได้ช่วยอะไร (กรณีทับลานคือเตรียมล่วงหน้าก่อนทับเสลาด้วยซ้ำ)
ดังนั้น...เราควรทำความเข้าใจ และเรียนรู้ปัญหานี้กันก่อน จากนั้นมาช่วยกันแก้ไขค่ะ
ป้าดีใจมากที่การโหวตมรดกของน้อง พ่อจ๋าแม่จ๋าส่วนใหญ่รับทราบและเข้าใจปัญหาดีทีเดียว ป้านั่งอ่านทุกคอมเม้นท์แหละ
ส่วนการสนับสนุนให้ทางเพจระดมทุนเพื่อทำโครงการช่วยเหลือช้างป่าอย่างต่อเนื่อง ป้าขอลองรับการสนับสนุนนะคะ มากน้อยยังไงก็จะพยายามให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยเราร่วมกันพิจารณาค่ะ
ซึ่งตั้งชื่อตามลูกช้าง พลายน้อยทับลาน "กองทุนน้องทับลาน" สำหรับนำไปใช้จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์จำเป็นในการลาดตระเวณและป้องกันปัญหาช้างป่าเข้ามารบกวนพื้นที่เกษตรกรรมรอบผืนป่าทับลาน ซึ่งปัญหานี้ได้รับการดูแลและทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่ จึงยังไม่เกิดความรุนแรงระหว่างคนและช้าง แต่วัสดุสิ้นเปลืองและอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อผลักดันช้างให้กลับเข้าป่าก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
ส่วนนมที่รับบริจาคของน้องทับลาน จำนวน 66,575 กรัม ได้ส่งต่อลูกช้างห้วยขาแข้งแล้ว (ทับเสลา) เช่นเดียวกับเงินบริจาคของน้องทับลานซึ่งได้ให้แฟนเพจร่วมโหวต ผลโหวตให้นำเงินไปใช้ในการสร้างแหล่งอาหารให้ช้างป่า เพื่อลดปัญหาทุพโภชนาการในพื้นที่ทับลาน (ขาดอาหารและสารอาหาร) อันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกช้างเกิดมาอ่อนแอจนต้องถูกโขลงทิ้ง รวมถึงได้ช่วยลูกช้างตัวอื่นๆ ที่ตอนนี้ก็ต้องหาแหล่งอาหารเพิ่มเติมจนมารบกวนพื้นที่เกษตรกรรมรอบผืนป่าอยู่ด้วย (จะนำเงินไปซื้อวัสดุปลูก-เพาะกล้าไม้อาหารช้างเพื่อนำไปทำแปลงพืชอาหาร) ผู้ที่ต้องการสมทบกองทุน ดูรายละเอียดที่เพจ #ผ้าขาวม้าติ่งป่า