เผยอุตสาหกรรมกรีน ผู้บริโภคยังไม่เชื่อว่าเอาจริง

อุตสาหกรรมกรีน ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับโลกตะวันตกอีกต่อไป เฉพาะในสหรัฐฯ กิจการชั้นนำของโลกที่ชื่อคุ้นหูอย่าง วอลล์-มาร์ท แมคโดนัลด์ โคคา-โคลา เคเอฟซี เชลล์ เชส ฟอร์ด สแตปเพิลส์ มีความพยายามก้าวเข้าสู่มาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐานสปรินท์ ซีวีเอส และยังมีอีกหลายแบรนด์พากันเข้าคิวสู่ความเป็นอุตสาหกรรมกรีน



แต่จากผลการสำรวจล่าสุดของ Jared Brick ผู้เชี่ยวชาญที่จบการศึกษา MBA ด้าน Sustainable Management จาก ThePresidio Graduate School พบว่าอุตสาหกรรมกรีนยังไปไม่ถึงไหนในการสร้างความตระหนักและการรับรู้ในคุณค่าด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมกรีนจากผู้บริโภค
การศึกษาพบว่า บริษัทที่เป็นอุตสาหกรรมกรีนในสหรัฐฯ 10 อันดับแรกของประเทศ ได้ทำกิจกรรมตามกรอบแนวทางในการบริหารความยั่งยืนของสังคมและสิ่งแวดล้อมจนครบ 100% ของเงื่อนไขอุตสาหกรรมกรีนไปแล้ว
โดยบางกิจการได้ปรับปรุงการประหยัดพลังงาน บางรายก็ลดปริมาณน้ำทิ้ง น้ำเสียที่เกิดในกระบวนการดำเนินงาน ขณะที่บางรายบริหารขยะจากสินค้าที่หมดประโยชน์การใช้จากผู้บริโภคแล้ว และบางรายยังพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองต่อความต้องการและความคาดหวังของผู้บริโภคที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
นักวิเคราะห์รายนี้ระบุว่า สิ่งที่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกรีนเหล่านี้ยังทำไม่ได้ คือ การสร้างความเชื่อใจและความศรัทธาในการใช้สินค้าจากอุตสาหกรรมกรีน
ทั้งนี้ เพราะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกรีนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่จุดเริ่มต้นของความเป็นอุตสาหกรรมกรีน คือ เน้นที่การประหยัดน้ำในกระบวนการผลิต แต่การพัฒนาความตระหนักในเรื่องที่ใหญ่และต่อเนื่องกว่า คือ การพัฒนากลยุทธ์ของกิจการที่เน้นความยั่งยืน และ ความรับผิดชอบต่อสังคมของธุรกิจ (CSR) ที่เป็นที่ประทับใจของผู้บริโภคกลับยังไม่ชัดเจน เรื่องนี้ยังเป็นแนวโน้มในการปฏิรูปทางโครงสร้างธุรกิจที่สำคัญในอนาคต ซึ่งหากเปรียบเทียบกัน ก็คงต้องทำให้เหมือนกับการเปลี่ยนเทคโนโลยีจากระบบอนาล็อกมาสู่ระบบดิจิตอล ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนยุคสมัยอย่างแท้จริง

ขณะนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังไม่เชื่อว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกรีนมีความซื่อสัตย์ จริงใจ และมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องที่จะดำเนินธุรกิจโดยไม่เกิดผลกระทบทางลบเพิ่มเติมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทำให้ผู้บริโภคไม่มั่นใจว่าในฐานะของผู้ซื้อจะต้องใส่ใจอย่างจริงจัง หรือควรจะไปชอปปิ้งเหมือนเดิมต่อไป
อีกทั้งผู้บริโภคยังมองไมเห็นหรือไม่ตระหนักว่า พื้นฐานของผลิตภัณฑ์หรือธุรกิจหลักของกิจการมีความเป็นอุตสาหกรรมกรีนจริงๆ จึงเชื่อว่าการเป็นอุตสาหกรรมกรีนของกิจการเหล่านี้ยังไม่มีผลต่อสังคมและสภาพแวดล้อม หรือช่วยโลกให้ดีขึ้นได้จริง ยิ่งกว่านั้น มีรายงานการศึกษา วิดีโอที่มาแหล่งอินไซต์ และกลุ่มต่อต้านที่ออกมาเรียกร้องให้ผู้บริโภคหยุดการสนับสนุนกิจการที่ระบุว่าตนเองเป็นอุตสาหกรรมกรีน หากไม่ใช่การดำเนินงานด้วยความจริงใจ
สิ่งที่เป็นข้อพิสูจน์ของผู้ประกอบการชั้นนำในกลุ่มอุตสาหกรรมกรีนของสหรัฐฯ ที่พยายามปรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ผ่านมา ประกอบด้วยการดำเนินงานที่ผ่านเกณฑ์ เงื่อนไข หรือมาตรฐานของการเป็นอุตสาหกรรมกรีนที่มีความแตกต่างกัน เช่น
-มาตรฐาน CVS เป็นรางวัลที่มอบให้กับผู้บริโภคที่นำถุงใส่ของที่ได้ป้าย Green bag tag มาใช้ซ้ำแบบ reuse
-มาตรฐาน Sprint เป็นมาตรฐานใหม่ที่เพิ่งออกมาเพื่อให้การรับรองกับมือถือที่ออกแบบให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลง
-มาตรฐานของรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกมาเพื่อเป็นพลังงานทดแทนน้ำมันเชื้อเพลิง