•พันธกิจหนึ่งที่ไทยออยล์ มุ่งมั่น ยึดมั่น คือการมีธรรมาภิบาล หรือ Corporate Governance (CG) ในการดำเนินกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยให้พนักงานทุกระดับเป็นกลไกขับเคลื่อนก้าวไปสู่เป้าหมาย
•ล่าสุดการันตีผลลัพธ์ “กิจการที่ดี มีธรรมาภิบาล” จากการประกาศของ RobecoSAM 2016 , การได้รับรางวัล Best Corporate Governance 2015, รางวัล The Asset Corporate Awards - Platinum Award และรางวัล TOP 50 ASEAN PLCs ซึ่งไทยออยล์ติด 1 ใน 50 บริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดี
อธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าสิ่งสำคัญที่นำไทยออยล์ก้าวไปสู่จุดหมายตามวิสัยทัศน์ “มุ่งที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจเชิงบูรณาการด้านการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีที่ต่อเนื่องอย่างครบวงจรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” นอกเหนือจากองค์กรจะต้องมีระบบ Corporate Governance (CG) ที่ดี และยึดมั่นในหลักการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใสและคำนึงถึงผลประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมกันแล้ว “บุคลากรที่มีคุณภาพ” ซึ่งหมายถึงคนดีและคนเก่ง ตั้งแต่ผู้นำระดับสูงไปจนถึงพนักงานทุกระดับก็เป็นอีกองค์ประกอบขับเคลื่อนสำคัญ
ส่วนปัจจัยที่เรานำมาใช้ตัดสินว่าได้บรรลุเป้าหมายได้หรือไม่ ไทยออยล์ใช้การพิจารณาจากผลการดำเนินการด้านธุรกิจ และความยั่งยืนของกิจการควบคู่กัน เพราะปัจจุบันธุรกิจจะมองแต่กำไรประการเดียวไม่ได้ แต่ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดกับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในด้านสังคมสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการยึดมั่นในหลักธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจและมีการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ สิ่งเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จและการเจริญเติบโตที่ยั่งยืน
“ถึงแม้ธุรกิจต้องเน้นถึงผลการดำเนินงานที่มีกำไรจากการประกอบการตามเป้าหมายพื้นฐานขององค์กรโดยทั่วไป แต่การได้มาซึ่งกำไร จำเป็นต้องเกิดจากการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มอย่างเป็นธรรม ไม่ใช่เอาเปรียบสังคม หรือไปสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม”
หนุนพัฒนาบุคลากรทุกระดับสู่แนวปฏิบัติ CG
อธิคม กล่าวถึงการเข้าร่วมรับการประเมินจากสถาบันหรือองค์กรชั้นนำต่างๆ ซึ่งล่าสุดไทยออยล์สามารถคว้ามาถึง 4 รางวัล ว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของไทยออยล์สำหรับการ “เรียนรู้ตัวเอง” เพื่อเปรียบเทียบกับองค์กรชั้นนำ ทั้งที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันและต่างอุตสาหกรรมซึ่งมีทั้งจุดอ่อนจุดแข็ง และต้องนำจุดอ่อนมาปรับปรุง และเสริมจุดแข็งให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ส่วนรางวัลที่ได้รับก็เป็นผลพลอยได้ที่นำความภาคภูมิใจมาให้กับไทยออยล์ และเป็นเครื่องหมายยืนยันถึงความมุ่งมั่นพัฒนาขององค์กรให้สังคมภายนอกได้รับรู้
ทุกวันนี้ด้านนโยบายและแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีของไทยออยล์มีความชัดเจน จึงทำให้ไทยออยล์มีกระบวนการทำงานทุกขั้นตอนโดยมีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพด้วยการตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance)
ทุกการตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติงานของหน่วยงานต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการและมาตรฐานทางจริยธรรมที่ดี โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ได้แก่ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า ชุมชน สังคมสิ่งแวดล้อม รวมถึงหน่วยงานหรือองค์กรกำกับดูแลของภาครัฐที่มีกรอบมาตรการกำกับดูแลกิจการที่ดี
อธิคม บอกว่าสิ่งสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้องค์กรประสบความสำเร็จได้นั้น นอกจากการมีระบบที่ดี นโยบายที่ดีแล้ว ในทางปฏิบัตินั้น จะต้องมุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากรไปพร้อมๆ กัน ซึ่งที่ไทยออยล์มีการดำเนินการที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับคณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารระดับสูง จะต้องยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีและจริยธรรมของไทยออยล์ เพื่อเป็นแบบอย่างให้พนักงาน ส่วนพนักงานเครือไทยออยล์ทุกคนนั้นได้รับการปลูกฝัง ให้ความสำคัญ และยึดถือปฏิบัติ จนเป็นค่านิยมและวัฒนธรรมขององค์กร โดยใช้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดในการประเมินผลงานประจำปี
เดินหน้าสู่แนวปฏิบัติ CG ที่ครบเครื่อง
แนวการปฏิบัติมุ่งสู่กิจการที่มี CG ซึ่งมองเห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็คือไทยออยล์ จัดทำคู่มือการกํากับดูแลกิจการเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดเจน ตั้งแต่ปี 2544 และมีการปรับปรุงอยู่เสมอ (ปรับปรุงไปแล้ว 4 ครั้ง ครั้งล่าสุด ในปี 2557) เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ และกฏเกณฑ์ หลักเกณฑ์ และมาตรฐานต่างๆ ทั้งภายในประเทศและมาตรฐานสากลต่างๆ เช่น หลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี สําหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2555 โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) หลักเกณฑ์การประเมินการกํากับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียน (CGR) สมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) และการประเมิน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) เป็นต้น
สาระสําคัญในคู่มือดังกล่าวที่มีการปรับปรุง เช่น การเพิ่มนโยบายการต่อต้านคอร์รัปชั่น โดยประกาศให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนยึดถือและปฏิบัติ และยังส่งเสริมและสนับสนุนบริษัทในเครือไทยออยล์ ที่ไม่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ นําคู่มือการกํากับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจฉบับนี้ไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อการดําเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรม สุจริต โปร่งใส ตามหลักการกํากับดูแลกิจการอันเป็นสากล และใช้เป็นคุณค่าพื้นฐานขององค์กรชั้นนํา
“บริษัทฯ จัดทำระบบการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ด้านการกำกับดูแลกิจการ (CG e-learning) ให้พนักงานทุกระดับของบริษัทฯ และบริษัทในเครือไทยออยล์ เพื่อให้สามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้หลักการกำกับดูแลกิจการและจรรยาบรรณธุรกิจ โดยมีการจัดทำครั้งแรกในปี 2550 มีการปรับปรุงครั้งที่ 1 เมื่อปี 2553 และครั้งที่ 2 ในปี 2558 ซึ่งเป็นการพัฒนาและยกระดับสื่อการเรียนรู้ฯ จาก CG e-learning เป็น CG Interactive โดยใช้เกมส์เป็นสื่อในการเรียนรู้ และมีเนื้อหาครอบคลุมด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่น นอกเหนือจากด้านการกำกับดูแลกิจการ และจรรยาบรรณธุรกิจที่มีอยู่”
นอกจากนี้ ยังจัดทำจดหมายถึงลูกค้าและคู่ค้าเพื่อแจ้งการจัดทํานโยบายการต่อต้านคอร์รัปชั่น สร้างช่องทางเพื่อการร้องเรียน รวมถึงจัดทําจดหมายขอความร่วมมืองดให้ของขวัญปีใหม่ ของกํานัลที่มีมูลค่าสูง ตลอดจนการจัดงานเลี้ยงรับรองแก่พนักงานทุกระดับของบริษัทฯ ตลอดจนการเผยแพร่คู่มือดังกล่าวแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องของบริษัทฯ ทั้งหมด ไม่ว่าคู่ค้า ลูกค้า ผู้ร่วมทุน และผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ผ่านทาง เว็บไซต์ของบริษัทฯ เพื่อนําข้อคิดเห็นไปประยุกต์ใช้ในการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ ให้มีความสอดคล้องกับหลักการกํากับดูแลกิจการและจริยธรรมในการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งอยู่ภายใต้แผนในการทบทวนนโยบายและแนวปฏิบัติ ด้านการกํากับดูแลกิจการเป็นประจําทุกปี นั่นทำให้ไทยออยล์มีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ใหม่ๆ และสถานการณ์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อการดําเนินธุรกิจของบริษัทฯ
พร้อมกันนี้ ไทยออยล์มีการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้พนักงานได้ตระหนักว่า CG เป็นนโยบายสำคัญที่พนักงานเครือไทยออยล์ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่วันแรกของการเป็นพนักงาน พนักงานจะได้รับการปฐมนิเทศเรื่อง CG และจริยธรรมธุรกิจ ตลอดจนการบรรจุเรื่อง CG เป็นหนึ่งในหัวข้ออบรมหลักสูตรอบรมสำหรับผู้บริหารระดับกลาง เพื่อเตรียมความพร้อมในการเป็นผู้บริหารระดับสูงที่ต้องมีบทบาทหน้าที่ในการยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารองค์กรต่อไป
ยังมีการจัดกิจกรรมส่งเสริม CG เน้นการปลูกฝังและเปิดโอกาสให้พนักงานได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์แนวทางการทำงานที่มีคุณธรรมและจริยธรรมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการนำระบบฝึกอบรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือที่เรียกว่า CG E-learning มาใช้ในการฝึกอบรมที่ส่งเสริมให้พนักงานเกิดการเรียนรู้และสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่อง CG อย่างต่อเนื่อง การจัดทำระบบรายงานความขัดแย้งทางผลประโยชน์ (Conflict of Interest Disclosure Report) เป็นต้น
สำหรับด้านการต่อต้านคอร์รัปชั่น ในปี 2557 ไทยออยล์ ได้รับการรับรองเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริต (CAC) และในปีถัดมาได้รับการประเมินจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งร่วมกับสถาบันไทยพัฒน์ ในโครงการประเมินการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนในเรื่องการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น (Anti-Corruption Progress Indicators) ในระดับสูงสุด ระดับ 5 (Extended) ซึ่งสะท้อนให้เห็นการผลักดันการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบโดยขยายไปสู่หุ้นส่วนธุรกิจ ที่ปรึกษา ตัวกลางตลอดจนลูกค้าและคู่ค้าในสายโซ่อุปทานอย่างชัดเจน”
ขณะเดียวกัน ไทยออยล์ก็มีกิจกรรมสำหรับผู้มีส่วนได้เสีย เช่น การจัดทำรายงานประจำปี การจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น การกำหนดมาตรการการร้องเรียน การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของบริษัทฯ ผ่านทางเว็ปไซต์ หรือ e-newsletter กิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) เป็นต้น
“ด้วยกระบวนการบริหารที่มี CG จึงสะท้อนถึงการดำเนินธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรมและโปร่งใส ทำให้เกิดเชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์น้ำมันที่กลั่นของไทยออยล์ มีคุณภาพแน่นอน สม่ำเสมอ และเชื่อถือได้” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฯ ไทยออยล์ กล่าว
4 รางวัล การันตีกิจการที่ดี เป็นธรรม
เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ได้รับการประกาศจาก RobecoSAM 2016 ผู้ทำการประเมินความยั่งยืนให้แก่ DJSI ให้เป็นที่หนึ่งด้านความยั่งยืนในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซของโลก เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทจดทะเบียนในอุตสาหรรมดังกล่าวทั่วโลก โดยในการประเมินในครั้งนี้ยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในอันดับ Gold Class ติดต่อกันเป็นปีที่สามอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ไทยออยล์ ได้รับการคัดเลือกจาก World Finance Magazine นิตยสารชั้นนำด้านธุรกิจและการเงินของประเทศอังกฤษ ให้รับรางวัล Best Corporate Governance 2015, Thailand โดยไทยออยล์นั้นเป็นเพียงบริษัทเดียวในประเทศไทยที่ได้รับ โดยรางวัลนี้สะท้อนว่าเป็นองค์กรที่มีความแข็งแกร่งในด้านความโปร่งใส และมีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องในการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี
ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ไทยออยล์ยังได้รับรางวัล TOP 50 ASEAN PLCs โดยติด 1 ใน 50 บริษัทจดทะเบียนในภูมิภาคอาเซียนที่มีการกำกับดูแลกิจการที่ดีเป็นที่ยอมรับในระดับภูมิภาคอาเซียน
รวมถึงคว้ารางวัล The Asset Corporate Awards - Platinum Award เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน รางวัลนี้มอบให้กับบริษัทที่มีความโดดเด่น (All-Round Excellence) ด้านการจัดการ การกำกับดูแลกิจการ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และการบริหารงานด้านนักลงทุนสัมพันธ์ ในโครงการ The Asset Excellence in Management and Corporate Governance Awards 2015 จาก The Asset นิตยสารการเงินชั้นนำแห่งเอเชีย
ดังกล่าวถือว่าเป็นผลลัพธ์สืบเนื่องจากการบริหารจัดการธุรกิจของไทยออยล์โดยยึดถือหลักการกำกับดูแลกิจการและจริยธรรมธุรกิจ มีความสุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และให้ความเป็นธรรมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย รวมถึงผลประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค