•ขณะนี้เนสท์เล่ เร่งสร้างเครือข่ายโรงเรียนนำร่อง เพื่อให้สื่อการสอน “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” จาก “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี”กระจายออกไปสู่ทั่วทั้งประเทศ
•เชื่อว่าถ้าบรรจุในหลักสูตรเรียน จะเป็นบันไดไต่ถึงโมเดล CSV ระดับโลกของเนสท์เล่
เมื่อเร็วๆ นี้ เนสท์เล่ได้ส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินผลโครงการเด็กไทยสุขภาพดี (กิจกรรมพิชิตสุขภาพดีใน 8 สัปดาห์) เพื่อขอบรรจุหลักสูตรนี้กับกระทรวงศึกษาธิการ เนื่องจากเห็นว่าจะกระจายองค์ความรู้ไปสู่การปฏิบัติจริง และเกิดผลดีต่อสุขภาพของเด็กไทยโดยรวมมากที่สุด
เป้าหมายในฝัน
“หลักสูตรการเรียนการสอนของเนสท์เล่ที่ยื่นรายงานฉบับสมบูรณ์ไปนั้น หากได้บรรจุเป็นหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการก็จะเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จ จากนั้นเชื่อว่าโครงการเด็กไทยสุขภาพดียังมีโอกาสเป็นโมเดลต้นแบบโครงการเด็กสุขภาพดีของเนสท์เล่ทั่วโลก (GLOBAL NESTLE HEALTHY KIDS PROGRAMME) ตามวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ที่ส่งเสริมโภชนาการสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี แก่นักเรียนทั่วโลก” กนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร และประชาสัมพันธ์ บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าว
“โครงการเด็กไทยสุขภาพดี ไม่ใช่สิ่งที่เนสท์เล่ จัดทำขึ้นเพื่อหวังแต่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร แต่เราคิดว่าต้องเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องโภชนาการให้มีความชัดเจน เห็นผลจริง และถ้าสื่อการเรียนการสอนนี้ถูกบรรจุเป็นหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการจริงๆ ยิ่งจะเหมือนฝันที่เป็นจริง เพราะพิสูจน์ให้เห็นถึงแนวคิดที่เราทุ่มเทลงไปเกิดเป็นผลลัพธ์ที่สัมผัสได้จริง และยังจะถูกส่งต่อไปทั่วประเทศตามเป้าหมายสูงสุดของเนสท์เล่ คือ ให้โรงเรียนนำสื่อใดสื่อหนึ่งของเราไปใช้ จนสามารถทำให้ปริมาณเด็กลดความเสี่ยงเกิดโรคอ้วน และโรคร้ายแรงอื่นๆ ที่ตามมาด้วย”
โรงเรียนต้นแบบสร้างเครือข่ายที่ยั่งยืน
ทศวรรษที่ผ่านมา เนสท์เล่มองหาสิ่งที่ควรจะต้องปรับปรุง เพื่อนำมาแก้ไขและขยายผลออกไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จึงได้ร่วมมือกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มาช่วยตรวจสอบโปรแกรม “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” เพื่อหาข้อสรุปว่าสื่อการเรียนการสอนจะสามารถมีผลต่อการพัฒนาชีวิตเด็กได้จริง และเขียนรายงานเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขอบรรจุลงหลักสูตรการเรียน
กนกทิพย์ กล่าวว่า “เราได้รับความร่วมมือจากอาจารย์สถาบันโภชนาการของ ม.มหิดล เข้ามาดูโปรแกรม “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” และทำออกมาเป็นรายงานว่าสุดท้ายแล้วโปรแกรมนี้มีผลต่อการพัฒนาในการใช้ชีวิตประจำวันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้หรือไม่ พร้อมเขียนถึงกระบวนการออกแบบว่าเราทำอย่างไรในการสร้างโรงเรียนนำร่อง วันเด็กไทยสุขภาพดี เราจัดกิจกรรมอะไรบ้าง ก่อนหน้านี้เด็กเคยบริโภคอะไร เด็กออกกำลังกาย และอ่านฉลากหรือไม่ รวมถึงเมื่อจบ 8 สัปดาห์แล้วสื่อการเรียนการสอน ทัศนคติของเด็ก ครู และผู้ปกครองเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง”
คนเนสท์เล่ภูมิใจมากเมื่อวัดผลออกมาแล้วมันเกิดผลตรงตามคาดหวังจริงๆ สามารถเปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนพฤติกรรม ในอนาคตเรายังจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลและกระทรวงศึกษาธิการต่อไป เพื่อสานต่อโครงการฯ โดยตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เนสท์เล่พยายามให้โรงเรียนต้นแบบที่สร้างไว้ ไปขยายเครือข่ายกับโรงเรียนอื่นๆ ผ่านแนวทางต่างๆ ที่จะทำให้ทุกโรงเรียนนำสื่อการสอนไปปฏิบัติอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ ซึ่งในปีที่ผ่านมา เนสท์เล่เริ่มร่วมกับโรงเรียนนำร่อง สร้างเครือข่ายกระจายการเรียนรู้จริง พร้อมมอบสื่อการสอนไปแล้วทั้งหมดกว่า 13,000 โรงเรียนทั่วประเทศ
“เนสท์เล่ เป็นหนึ่งในเรื่องการผลักดันด้านโภชนาการ เนื่องจากความชัดเจนของธุรกิจ และได้ทำให้เกิดผลจริงในสิ่งที่พัฒนามาตลอดระยะเวลายาวนาน ส่วนรูปแบบการสร้างคุณค่าร่วม CSV (Creating Shared Value) ที่กล่าวถึงนั้นเรามีทั้งกระบวนการคิด การทำงานในทุกขั้นตอน ซึ่งทำให้ผู้มีส่วนได้เสียได้รับประโยชน์ร่วมกัน”
“เรามุ่งเน้นในการสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมใน 3 เรื่องหลัก คือ การพัฒนาด้านโภชนาการเพื่อผู้บริโภค การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการ-พัฒนาชุมชนซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องที่มีความสำคัญยิ่งต่อผู้คนในท้องถิ่นที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ การสร้างคุณค่าร่วมกับสังคมในมุมมองของเนสท์เล่ไม่ได้แสดงออกด้วยการให้เงินบริจาคแต่อย่างใด หากแต่เป็นการยกระดับการดำเนินธุรกิจขององค์กรเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายที่มีส่วนเกี่ยวข้องในธุรกิจให้ดีขึ้นไปพร้อมๆ กัน” กนกทิพย์ กล่าวในที่สุด
11 ปี ยกระดับคุณภาพชีวิตเด็กไทย
การดำเนินงานของ “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี” ผ่านมาแล้วกว่า 11 ปี มีการดำเนินกิจกรรมไปมากมายที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กไทยให้กินเป็นอยู่ดี
ตัวอย่างเช่น กิจกรรมค่ายและการประกวดเครือข่ายยุวทูตสุขภาพดี กิจกรรม “เด็กไทยสุขภาพดีสัญจร”กับ“รถปฏิบัติการเด็กไทยสุขภาพดี”กิจกรรมประกวดสื่อการเรียนการสอนหัวข้อ “โภชนาการที่สมดุลและการออกกำลังกาย” กิจกรรม “เปิดบ้าน เลเล่ เพื่อนบ้านมหัศจรรย์” รวมถึงกิจกรรม“วันเด็กไทยสุขภาพดี” ที่มาพร้อมการเดินหน้าแจกสื่อการเรียนการสอน และสาธิตวิธีการใช้อย่างถูกวิธีโดยนักโภชนาการ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ประโยชน์ที่ได้รับสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและวิชาการเรียนต่างๆ ภายใต้ความรู้บัญญัติเด็กไทยสุขภาพดี 4 ประการ คือ กินหลากหลาย เพิ่มผักผลไม้ กินหวาน มัน เค็มแต่พอดี กินเท่าไหร่ ใช้ให้หมด ฉลากโภชนาการอ่านเป็นกินเป็น หรือ หลักการ อ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน รวมถึงความรู้หลัก 6 อ. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย อนามัยสิ่งแวดล้อม อโรคยา และอบายมุข มาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดี“มีการจัดทำกิจกรรมหลายอย่าง เช่น เกมกินหลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เราจัดทำเป็นเกมบันไดงู ทอยเต๋า และมีคำถามเกี่ยวกับอาหารหลัก 5 หมู่ สมมติถ้ากินผักมากก็จะได้ไต่งูขึ้นไปสูงขึ้น เพื่อให้เด็กเข้ามาร่วมสนุกกัน และที่กำลังนิยมสุดๆ ตอนนี้น่าจะเป็นเพลงเด็กไทยสุขภาพดี เนสท์เล่ฟิตแอนด์เฟิร์ม (Healthy Kids...Fit & Firm)
ทั้งนี้ เนสท์เล่ ประสานความร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผ่าน “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี” กับโรงเรียนระดับประถมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมมุ่งแจกสื่อการเรียน ให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา