•เผยพฤติกรรมในการบริโภคของเด็กไทย ผ่านรายงานฉบับสมบูรณ์ จะต้องเร่งปรับเปลี่ยนให้เด็กรู้ทัน ฉลาดกิน ออกกำลังกายเป็น ผ่าน“ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์”
•สถาบันโภชฯ ม.มหิดล ยืนยันสื่อการสอนสามารถใช้พัฒนาพฤติกรรมเด็กให้มีสุขภาวะที่ดีได้จริง
ปัจจุบันเนสท์เล่พยายามสร้างเครือข่ายจากโรงเรียนนำร่อง เพื่อให้สื่อการเรียนการสอน “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” จาก “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี”ให้กระจายออกไปสู่ทั่วทั้งประเทศ และเมื่อเร็วๆ นี้ได้ส่งรายงานฉบับสมบูรณ์ การประเมินผลโครงการเด็กไทยสุขภาพดี (กิจกรรมพิชิตสุขภาพดีใน 8 สัปดาห์) เพื่อขอบรรจุหลักสูตรนี้กับกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยเห็นว่าจะกระจายองค์ความรู้นี้ไปสู่การปฏิบัติจริงและเกิดผลดีต่อสุขภาพของเด็กไทยโดยรวมมากที่สุด
เนื่องจากทุกวันนี้เด็กไทยเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น หากดูจากเกณฑ์น้ำหนักที่เกิน ล้วนแต่มีสาเหตุจากการไม่ค่อยออกกำลังกาย และพฤติกรรมในการรับประทานที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่ได้ใส่ใจเรื่องฉลากและโภชนาการ ถึงแม้จะมีการเรียนรู้เกี่ยวกับอาหาร 5 หมู่ แต่เด็กก็เลือกที่จะรับประทานตามใจปาก
ด้วยเหตุผลดังกล่าวเนสท์เล่จึงเลือกที่จะพัฒนาสื่อการเรียนการสอนของเด็กโดยเริ่มตั้งแต่การปูพื้นฐานสุขอนามัยและโภชนาการที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก เพื่อทำให้เกิดเป็นนิสัยและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ สื่อความรู้ยังทำให้เด็กสนุกสนานและสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในโรงเรียน และที่บ้าน สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างบ้านและโรงเรียน
เนสท์เล่ ประสานความร่วมมือกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผ่าน “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี” กับโรงเรียนระดับประถมศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร พร้อมมุ่งแจกสื่อการเรียน ให้ครอบคลุมทุกโรงเรียนทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา
เริ่มจาก อ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน
เนื่องจากพฤติกรรมการกิน เป็นอีกสาเหตุสำคัญที่ทำให้เด็กเสี่ยงต่อการเป็นโรค “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี” ได้พัฒนาสื่อการเรียนการสอนที่เน้น 4 หัวข้อหลัก คือ อ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน
อ่าน คือ อ่านฉลากโภชนาการ เพื่อให้เด็กรู้ถึงพลังงาน หวาน มัน เค็ม ที่อยู่บนฉลาก ซึ่งทำเพื่อให้เด็กเริ่มชินจนติดเป็นนิสัย เพราะเมื่อถ้าเด็กโตแล้วอาจแก้ไม่ทัน
ปรับ คือ ปรับมากินผักและผลไม้บ้าง เด็กมีความรู้เรื่องอาหารหลัก 5 หมู่ แต่ผักเป็นสิ่งที่เด็กเขี่ยทิ้งมาตลอดเช่นกัน
ขยับ คือ ต้องควบคุมการกินให้ได้แคลอรีเท่าที่ควรเมื่อกินแล้วต้องออกกำลังกายเพื่อให้ร่างกายมีความสมดุล
เปลี่ยน คือ พวกเด็กตระหนักและฉุกคิดถึงเรื่องการกิน การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย เป็นสำคัญ
กนกทิพย์ ปริญญานุสสรณ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร และประชาสัมพัธ์ บริษัทเนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์ เราได้เข้าไปสอนเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จากนั้นเราให้โรงเรียนต่อยอดเอง และเมื่อทำเป็นกิจวัตรไปแล้ว หวังว่าเด็กจะสานต่อจากที่โรงเรียน แล้วนำกลับไปทำที่บ้านด้วย และแต่ละสัปดาห์คุณครูจะต้องมาบันทึกลงในบอร์ดที่เราจัดไว้ ส่วนนักเรียนก็จะมีเล่มพาสปอร์ตเพื่อให้พวกเขานำกลับไปให้ผู้ปกครองดูว่าพวกเขาทำไปได้กี่ครั้งแล้วในการอ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน สุดท้ายแล้วจะให้เขาประเมินตัวเองว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปอย่าง เรื่องไหนมากที่สุด ด้านคุณครูได้นำความรู้ไปประยุกต์ใช้แนะนำให้สร้างแปลงปลูกผักให้เด็กมาปลูกแข่งกัน เมื่อผักโตแล้วจะนำไปทำเป็นอาหารกลางวัน ให้เด็ก พวกเขาจะเกิดพฤติกรรมอยากกินผัก เพราะว่าปลูกเองกับมือและไม่เขี่ยทิ้ง ซึ่งนำไปสู่การเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นนำผักเข้าบ้าน”
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งก้าวที่ประสบความสำเร็จ หากสื่อการเรียนการสอนจะทำให้เด็กหันมาดูแลใส่ใจกับสุขภาพและเกิดประสิทธิผลขึ้นจริง
“การทำโครงการแบบนี้ไม่มีอะไรน่าชื่นใจเท่ากับตอนเห็นผลแล้วได้ถูกนำไปใช้จริงได้เห็นผลจริง พาสปอร์ตที่เราให้แล้วพวกเด็กๆ เขานำไปทำตาม จนมีบางคนบอกว่าเขาลดขนมจาก 5 ถุง เหลือ 3 ถุงแล้ว และจากไม่เคยออกกำลังกายวันนี้เขาออกไปวิ่งมา 10 นาทีแล้วนะ” กนกทิพย์ กล่าว
สร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมทั้งประเทศอย่างยั่งยืน
ทศวรรษที่ผ่านมา เนสท์เล่เริ่มมองหาสิ่งที่ควรจะต้องปรับปรุง เพื่อนำมาแก้ไขและขยายผลออกไปให้ครอบคลุมทั่วประเทศตามเป้าหมาย จึงร่วมมือกับสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มาช่วยตรวจสอบโปรแกรม “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” เพื่อหาข้อสรุปว่าสื่อการเรียนการสอนจะสามารถมีผลต่อการพัฒนาชีวิตเด็กได้จริง และเขียนรีพอร์ทนำเสนอต่อกระทรวงศึกษาธิการเพื่อขอบรรจุลงหลักสูตรการเรียน
“เราได้รับความร่วมมือจากอาจารย์สถาบันโภชนาการของ ม.มหิดล เข้ามาดูโปรแกรม “ภารกิจพิชิตสุขภาพดี 8 สัปดาห์” และทำออกมาเป็นรีพอร์ท ว่าสุดท้ายแล้วโปรแกรมนี้มีผลต่อการพัฒนาในการใช้ชีวิตประจำวันและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ไหม และจะเขียนมาเลยว่ากระบวนการออกแบบเราทำอย่างไรในการสร้างโรงเรียนนำร่อง วันเด็กไทยสุขภาพดี เราจัดอะไรบ้าง เดิมเด็กกินอะไรอยู่ เด็กออกกำลังกายไหม อ่านฉลากไหม แล้ว 8 สัปดาห์ที่ใช้สื่อการเรียนการสอน ทัศนคติของเด็ก ครู ผู้ปกครองเปลี่ยนไปอย่างไร”
“เราภูมิใจว่า เมื่อวัดผลออกมาแล้วมันเกิดผลตรงนั้นจริงๆ เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนพฤติกรรม เกิดขึ้นจริง และในอนาคตต่อไป เรายังจับมือกับทางมหาวิทยาลัยมหิดลและกระทรวงศึกษาธิการต่อไป เพื่อสานต่อโครงการฯ และตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปเราพยายามให้โรงเรียนต้นแบบที่สร้างไว้ ไปขยายเครือข่ายโรงเรียนอื่นต่อ หรือทำอย่างไรให้ทุกโรงเรียนนำสื่อการสอนไปปฏิบัติตามได้อย่างทั่วถึงทั้งประเทศ”
โดยในปีที่ผ่านมาทางเนสท์เล่ร่วมกับโรงเรียนนำร่อง สร้างเครือข่ายกระจายการเรียนรู้จริง มอบสื่อการสอนไปแล้วทั้งหมดกว่า 13,000 โรงเรียนทั่วประเทศ
กิจกรรมที่หลากหลายสามารถสร้างการเรียนรู้ได้
การดำเนินงานของ “โครงการเด็กไทยสุขภาพดี” ผ่านมาแล้วกว่า 11 ปี มีการดำเนินกิจกรรมไปอย่างมากมาย เพื่อสนับสนุนให้เกิดสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในโรงเรียน นับเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กไทยให้กินดีอยู่ดี
ตัวอย่างเช่น กิจกรรมค่ายและการประกวดเครือข่ายยุวทูตสุขภาพดี กิจกรรม “เด็กไทยสุขภาพดีสัญจร”กับ“รถปฏิบัติการเด็กไทยสุขภาพดี”กิจกรรมประกวดสื่อการเรียนการสอนหัวข้อ “โภชนาการที่สมดุลและการออกกำลังกาย” กิจกรรม “เปิดบ้าน เลเล่ เพื่อนบ้านมหัศจรรย์” รวมถึงกิจกรรม“วันเด็กไทยสุขภาพดี” ที่มาพร้อมการเดินหน้าแจกสื่อการเรียนการสอน และสาธิตวิธีการใช้อย่างถูกวิธีโดยนักโภชนาการ และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
ดังนั้นประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรมในโครงการเด็กไทยสุขภาพดี สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตและวิชาการเรียนต่างๆ ภายใต้ความรู้บัญญัติเด็กไทยสุขภาพดี 4 ประการ คือ กินหลากหลาย เพิ่มผักผลไม้ กินหวาน มัน เค็มแต่พอดี กินเท่าไหร่ ใช้ให้หมด ฉลากโภชนาการอ่านเป็นกินเป็น หรือ หลักการ อ่าน ปรับ ขยับ เปลี่ยน รวมถึงความรู้หลัก 6 อ. คือ อาหาร อารมณ์ ออกกำลังกาย อนามัยสิ่งแวดล้อม อโรคยา และอบายมุข มาใช้ในการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีให้กับตนเองด้วย
“เรามีการจัดทำกิจกรรมขึ้นหลายอย่าง เช่น เกมกินหลากหลายเพิ่มผักผลไม้ เราจัดทำเป็นเกมบันไดงู ทอยเต๋า และมีคำถามเกี่ยวกับอาหารหลัก 5 หมู่ สมมติถ้ากินผักมากก็จะได้ไต่งูขึ้นไปสูงขึ้น เพื่อให้เด็กเข้ามาร่วมสนุกกัน และที่กำลังนิยมสุดๆ ตอนนี้น่าจะเป็นเพลงเด็กไทยสุขภาพดี เนสท์เล่ฟิตแอนด์เฟิร์ม (Healthy Kids...Fit & Firm) และเมื่อเราไปเยี่ยมที่โรงเรียนเขาจะเปิดเพลงนี้ให้เด็กนักเรียนเต้นออกกำลังกายที่หน้าเสาธง ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง”
เป้าหมายสูงสุดของเนสท์เล่
หลักสูตรการเรียนการสอนของเนสท์เล่ที่ยื่นรายงานฉบับสมบูรณ์ไปนั้น หากได้บรรจุเป็นหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ นับเป็นอีกหนึ่งก้าวความสำเร็จ และนอกจากนี้โครงการเด็กไทยสุขภาพดียังได้เป็นโมเดลต้นแบบโครงการเด็กสุขภาพดีของเนสท์เล่ทั่วโลก (GLOBAL NESTLE HEALTHY KIDS PROGRAMME) ที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมโภชนาการสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี แก่นักเรียนทั่วโลก
“โครงการเด็กไทยสุขภาพดีไม่ใช่สิ่งที่เนสท์เล่ จัดทำขึ้นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร เพียงแต่เราคิดว่าต้องเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเรื่องโภชนาการให้มีความชัดเจน เห็นผลจริง และถ้าสื่อการเรียนการสอนนี้ถูกบรรจุเป็นหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการจริงๆ จะเป็นฝันอีกก้าวหนึ่งของเราและทำให้เรารู้สึกได้ว่าแรงที่เราลงไปหรือความคิดที่เราใส่ลงไป สิ่งที่เราได้ทำการทดลองนี้ถูกกระจายสู่ทั่วประเทศแล้ว หรือหากทางโรงเรียนได้นำสื่อใดสื่อหนึ่งของเราไปใช้ จนสามารถทำให้ลดปริมาณเด็กที่เสี่ยงเป็นโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานลงไปได้ นี่คือฝันสูงสุดของเนสท์เล่” กนกทิพย์ กล่าวปิดท้าย