ภายหลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 ก.ย.58 มีมติรับโอน พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (ผบ.นทพ.) กองบัญชาการกองทัพไทย มาดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แทน นายอนุสิษฐ คุณากร ที่จะเกษียณอายุราชการในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ปรากฏว่าในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ รองเลขาธิการ สมช. อาวุโสลำดับที่ 1 และยังเป็นภรรยา พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ อดีตรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นแคนดิเดต ก่อนหน้านี้ ได้ตัดสินใจยื่นหนังสือลาออกต่อ นายอนุสิษฐ ทั้งที่มีอายุราชการถึงปี 2559 แต่นายอนุสิษฐ ได้ระงับเอาไว้ก่อน เนื่องจากนางกนกทิพย์ ถือเป็นเสาหลักของ สมช. มีความอาวุโส และประสบการณ์มากที่สุดในองค์กร
ขณะเดียวกัน นายถวิล เปลี่ยนศรี และ นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ อดีตเลขาธิการ สมช. ยังช่วยโทรศัพท์มาเกลี้ยกล่อมให้อยู่ช่วยงาน สมช. ต่อไป โดยนางกนกทิพย์ อยู่ระหว่างตัดสินใจว่า ยืนยันในความตั้งใจเดิม หรือจะอยู่ช่วยงานสมช. ต่อ
รายงานข่าวแจ้งว่า การแต่งตั้งคนนอกข้ามห้วยมาเป็นเลขาธิการ สมช. ครั้งนี้ ทำลายขวัญกำลังใจบุคลากรในสมช. เป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่กรณีของ นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นต้นมา ต่างเชื่อว่าบุคลากรที่ทำงานเป็นลูกหม้อในองค์กรมาตลอด จะได้เติบโตตามสายงาน แต่กลับมีการโยกบุคคลอื่น มาเป็นแทนอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันมาตลอดว่าจะผลักดันคนในได้เติบโต
นอกจากนี้ การโยกย้ายนายทหารเข้ามาครั้งนี้ ไม่ใช่เหตุผลด้านความเหมาะสมเป็นหลัก แต่เป็นเพราะความไม่ลงตัวในการจัดทำโผบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหารประจำปี โดยในช่วงบ่ายวานนี้ (9 ก.ย.) บรรดาข้าราชการใน สมช.ได้นัดรวมตัวกันเพื่อเข้าให้กำลังใจนางกนกทิพย์ กันเป็นการภายใน ที่ตึกสำนักงาน สมช. ทำเนียบรัฐบาล
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การตั้ง พล.อ.ทวีป ไม่ใช่คนนอก ก็คนในระบบราชการ ทุกคนเป็นข้าราชการเหมือนกันหมดอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าสถานการณ์ความมั่นคงมันมีปัญหาอย่างไร ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่เก่ง แต่ด้วยสถานการณ์ วันนี้มันควรจะต้องมีบุคลากรที่มีความที่มันบุกบ่าฝ่าฟันได้ ทำนองนี้ เข้าใจไหม ไม่ใช่ท่านไม่เก่ง คือเราก็พร้อมดูแลอย่างอื่น ถ้ามันสามารถกระทำได้ ท่านก็ต้องอดทน แล้วท่านก็เพิ่งเป็นรองเลขาธิการ สมช. ได้ปีเดียวใช่ไหม ถึงแม้จะเป็นลูกหม้อใช่ไหม ก็เยอะแยะไป หลายกระทรวงหลายพื้นที่ เขาเป็นรองฯ เขาไม่เห็นได้เป็นเลย ไม่เช่นนั้นก็ต้องประท้วงกันหมด
เมื่อถามว่า นายกฯ จะยับยั้งการลาออกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า จะยับยั้งได้อย่างไร เป็นความสมัครใจ ผมไม่ได้บังคับให้เขาลาเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อถามอีกว่า นายกฯ จะมีการชี้แจงกรณีนี้ให้เป็นที่เข้าใจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ใครๆ ชี้แจง หน้าที่ใคร ใครเป็นผู้บังคับบัญชาเขา ใครเป็นคนย้ายมา ใครเป็นคนตั้งคน สมช.เป็นคนตั้ง เข้าใจหรือเปล่า เลขาธิการ สมช. เสนอขึ้นมา ถ้าเมื่อเขาพิจารณาแล้วไม่เหมาะสม เขาก็ต้องมีคนอื่นไปเทียบเคียง ความเหมาะสมไม่เหมาะสม คือ เหมาะสมกับสถานการณ์การปัจจุบัน มีมันก็ตัวเลือกเข้าไป ในเมื่อตัวเลือกพิจารณาขึ้นมา ตนก็เซ็นอนุมัติ แต่ความรับผิดชอบแน่นอน ตนเป็นคนเซ็น ไม่ใช่ว่ามีอำนาจซ้อนอำนาจ ตนไม่ใช่ ทุกอย่างที่ตั้งมาไม่ว่าใครมาจากไหนก็ตามต้องให้เขาพิจารณาจากข้างล่าง ไม่ใช่เอาไอ้นี่เป็น โน่นเป็นไม่ได้ เข้าใจไหมเล่า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถ้าท่านจะลาออก ก็เป็นความต้องการของท่าน แต่อยากให้เข้าใจว่า เป็นห้วงเวลาที่เราจำเป็น เพราะต้องใช้ทหารเพื่อดูแลความมั่นคงทั้งหมด แนวคิดคือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และไม่ได้เป็นการเลือกที่รัก มักที่ชัง ก็อยากให้เข้าใจตรงนี้ เพราะเราก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกัน นายถวิล เปลี่ยนศรี และ นายขจัดภัย บุรุษพัฒน์ อดีตเลขาธิการ สมช. ยังช่วยโทรศัพท์มาเกลี้ยกล่อมให้อยู่ช่วยงาน สมช. ต่อไป โดยนางกนกทิพย์ อยู่ระหว่างตัดสินใจว่า ยืนยันในความตั้งใจเดิม หรือจะอยู่ช่วยงานสมช. ต่อ
รายงานข่าวแจ้งว่า การแต่งตั้งคนนอกข้ามห้วยมาเป็นเลขาธิการ สมช. ครั้งนี้ ทำลายขวัญกำลังใจบุคลากรในสมช. เป็นอย่างมาก เพราะนับตั้งแต่กรณีของ นายถวิล เปลี่ยนศรี เป็นต้นมา ต่างเชื่อว่าบุคลากรที่ทำงานเป็นลูกหม้อในองค์กรมาตลอด จะได้เติบโตตามสายงาน แต่กลับมีการโยกบุคคลอื่น มาเป็นแทนอีกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันมาตลอดว่าจะผลักดันคนในได้เติบโต
นอกจากนี้ การโยกย้ายนายทหารเข้ามาครั้งนี้ ไม่ใช่เหตุผลด้านความเหมาะสมเป็นหลัก แต่เป็นเพราะความไม่ลงตัวในการจัดทำโผบัญชีรายชื่อโยกย้ายทหารประจำปี โดยในช่วงบ่ายวานนี้ (9 ก.ย.) บรรดาข้าราชการใน สมช.ได้นัดรวมตัวกันเพื่อเข้าให้กำลังใจนางกนกทิพย์ กันเป็นการภายใน ที่ตึกสำนักงาน สมช. ทำเนียบรัฐบาล
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การตั้ง พล.อ.ทวีป ไม่ใช่คนนอก ก็คนในระบบราชการ ทุกคนเป็นข้าราชการเหมือนกันหมดอยู่แล้ว ก็ต้องมาดูว่าสถานการณ์ความมั่นคงมันมีปัญหาอย่างไร ไม่ได้หมายความว่า เขาไม่เก่ง แต่ด้วยสถานการณ์ วันนี้มันควรจะต้องมีบุคลากรที่มีความที่มันบุกบ่าฝ่าฟันได้ ทำนองนี้ เข้าใจไหม ไม่ใช่ท่านไม่เก่ง คือเราก็พร้อมดูแลอย่างอื่น ถ้ามันสามารถกระทำได้ ท่านก็ต้องอดทน แล้วท่านก็เพิ่งเป็นรองเลขาธิการ สมช. ได้ปีเดียวใช่ไหม ถึงแม้จะเป็นลูกหม้อใช่ไหม ก็เยอะแยะไป หลายกระทรวงหลายพื้นที่ เขาเป็นรองฯ เขาไม่เห็นได้เป็นเลย ไม่เช่นนั้นก็ต้องประท้วงกันหมด
เมื่อถามว่า นายกฯ จะยับยั้งการลาออกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า จะยับยั้งได้อย่างไร เป็นความสมัครใจ ผมไม่ได้บังคับให้เขาลาเมื่อไหร่ล่ะ เมื่อถามอีกว่า นายกฯ จะมีการชี้แจงกรณีนี้ให้เป็นที่เข้าใจ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า ใครๆ ชี้แจง หน้าที่ใคร ใครเป็นผู้บังคับบัญชาเขา ใครเป็นคนย้ายมา ใครเป็นคนตั้งคน สมช.เป็นคนตั้ง เข้าใจหรือเปล่า เลขาธิการ สมช. เสนอขึ้นมา ถ้าเมื่อเขาพิจารณาแล้วไม่เหมาะสม เขาก็ต้องมีคนอื่นไปเทียบเคียง ความเหมาะสมไม่เหมาะสม คือ เหมาะสมกับสถานการณ์การปัจจุบัน มีมันก็ตัวเลือกเข้าไป ในเมื่อตัวเลือกพิจารณาขึ้นมา ตนก็เซ็นอนุมัติ แต่ความรับผิดชอบแน่นอน ตนเป็นคนเซ็น ไม่ใช่ว่ามีอำนาจซ้อนอำนาจ ตนไม่ใช่ ทุกอย่างที่ตั้งมาไม่ว่าใครมาจากไหนก็ตามต้องให้เขาพิจารณาจากข้างล่าง ไม่ใช่เอาไอ้นี่เป็น โน่นเป็นไม่ได้ เข้าใจไหมเล่า
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถ้าท่านจะลาออก ก็เป็นความต้องการของท่าน แต่อยากให้เข้าใจว่า เป็นห้วงเวลาที่เราจำเป็น เพราะต้องใช้ทหารเพื่อดูแลความมั่นคงทั้งหมด แนวคิดคือ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และไม่ได้เป็นการเลือกที่รัก มักที่ชัง ก็อยากให้เข้าใจตรงนี้ เพราะเราก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด