เปิดแผนซีเอสอาร์สู่ความยั่งยืน ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ที่ซีพีเอฟยึดมั่นเสมอมา เผยผลการดำเนินงานด้าน CSR ผ่านรายงานความยั่งยืน (Sustainability Report) ปี 2556 ภายใต้เแนวคิด “Food Security to Enrich Life: อาหารมั่นคง เติมชีวิตที่ดี” พร้อมกลยุทธ์องค์กรภายใต้ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และ ดินน้ำป่าคงอยู่ โดยผลักดันแผน CSR สู่ Supply Chain ตลอดห่วงโซ่การผลิต
ตามหลักปรัชญา 3 ประโยชน์ของซีพีเอฟ ซึ่งยึดมั่นตลอดมา คือ ต้องเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน และ บริษัท มาในปีนี้ได้กำหนดเป็นแผน CSR สู่ Supply Chain โดยสร้างเส้นทางการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความยั่งยืนตลอดห่วงโซ่การผลิตพร้อมส่งต่อไปถึงผู้บริโภค
ปีที่แล้ว วางรากฐานตามกลยุทธ์ 3 เสาหลัก
วุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ซีพีเอฟ ได้ทุ่มเทพัฒนาการดำเนินงาน CSR ให้สอดคล้องกับทิศทางกลยุทธ์ 3 เสาหลักสู่ความยั่งยืน” ตอบรับกับวิสัยทัศน์ “ครัวของโลก” ตามแผนใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้มีการพัฒนาในเส้นทางความสมดุลสู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน
“ถือว่าซีพีเอฟสามารถพัฒนาเส้นทางอาหารมั่นคงผ่านการดำเนินงาน ที่โดดเด่น เช่น การส่งเสริมคุณภาพความปลอดภัยอาหารและสุขอนามัยของผู้บริโภค โดยบริษัทมีศูนย์วิจัยและพัฒนา (R&D Center) ด้านอาหารสัตว์ การเลี้ยงและสายพันธุ์สัตว์ รวมถึงอาหารเพื่อการบริโภคจำนวน 79 แห่ง พร้อมศูนย์การเรียนรู้รวมกว่า 40 แห่ง ควบคู่ไปกับการดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งช่วยให้นักเรียนกว่า 96,000 คน จาก 480 โรงเรียนทั่วประเทศ ได้มีภาวะโภชนาการที่ดี
นอกจากนี้ ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างศักยภาพแก่เกษตรกรรายย่อยกว่า 5,000 ครอบครัว ผ่านโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) เพื่อช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ ตลอดจนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยการนำร่องในผลิตภัณฑ์ไก่สดและไก่ปรุงสุก และการจัดหาอย่างยั่งยืนที่นำร่องในวัตถุดิบหลักอย่างปลาป่น ผ่านแผนดำเนินการ 10 ประการตามแนวทางสนับสนุนการประมงอย่างยั่งยืน (CPF Fish Fight Ten-Point Plan) โดยที่บริษัทได้สนับสนุนเงินพิเศษรวมแล้วกว่า 48 ล้านบาท”
วุฒิชัย ย้ำว่า “หัวใจหลักที่ช่วยขับเคลื่อนองค์กรเดินหน้าแผน CSR อย่างมั่นคงและแข็งแรง คือ บุคลากร ทุกคนต่างมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรม CSR ด้านต่างๆ ร่วมกับองค์กร ที่ผ่านมาเราได้แต่งตั้งและพัฒนา “CSR Leader” จากทุกสายธุรกิจทั้งหมด 78 คน ให้เป็นตัวแทนองค์กรในการสร้างความรู้ความเข้าใจด้าน CSR ไปสู่เพื่อนพนักงานคนอื่นๆ โดยตั้งเป้าให้ CSR Leader เป็นตัวแทนดำเนินกิจกรรมให้เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ ทั้งยังมีการนำแนวคิด 4 ด้านมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างมีส่วนร่วม ได้แก่ ขีด-คิด-ร่วม-ข่าย”
ปีนี้ เดินหน้า CSR in Supply Chain
ทิศทาง CSR ในปีนี้ ซีพีเอฟ เดินหน้าแผนส่งเสริมความรู้ สร้างความเข้าใจในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมต่อการดำเนินธุรกิจแก่คู่ค้าธุรกิจ หรือ CSR in Supply Chain ตามนโยบายและแนวปฏิบัติด้านการจัดหาอย่างยั่งยืนจากการที่ได้พัฒนาขึ้นมาในปี 2556 พร้อมกำหนดนำร่องกับผู้ส่งมอบวัตถุดิบหลักทางการเกษตรและเครื่องปรุงรส ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสัมพันธ์โดยตรงต่อคุณภาพความปลอดภัยอาหาร ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการสานต่อการดำเนินงานสำคัญอื่นๆ
“การบริหารจัดการสู่ความยั่งยืน จำเป็นต้องดำเนินการอย่างเป็นระบบตลอดทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จึงไม่สามารถจำกัดขอบเขตเพียงแค่ซีพีเอฟหรือคู่ค้าธุรกิจ สิ่งสำคัญคือการก้าวไปด้วยกัน โดย คู่ค้าธุรกิจ ถือเป็นห่วงโซ่สำคัญของความสำเร็จในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ” วุฒิชัย กล่าว
ซีพีเอฟ มีพัฒนาการด้านซีเอสอาร์มาตั้งแต่ปี 2555 ไม่เพียงนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่ภายในองค์กรที่ทำให้การดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคมสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนมีความชัดเจนขึ้น แต่ยังได้รวบรวมผลการดำเนินงานในด้านต่างๆ จัดทำเป็นรายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainability Report) มาตั้งแต่ปี 2554-2556 รวม 3 เล่ม ส่งผลให้การดำเนินงานความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเป็นที่ยอมรับจากสาธารณะ โดยเฉพาะรางวัล CSR Award ดีเด่นจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ รางวัลด้าน CSR อื่นๆ อีก รวม 4 รางวัลจากทั้งในประเทศและต่างประเทศเมื่อปี 2556 รางวัลทั้งหมดเป็นสิ่งยืนยันได้ว่า ซีพีเอฟมีการดำเนินงานความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง