xs
xsm
sm
md
lg

กิจการ CSR สู่ความยั่งยืน 15 บริษัทไทย จ่อคิว DJSI /สุวัฒน์ ทองธนากุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

น่าสังเกตุนะครับที่แนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR(Corporate Social Responsibility) มีแนวโน้มที่ดีในวงการบริหารกิจการที่จะต่อยอดวิสัยทัศน์องค์กรไปสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับหลัก CSR ที่เป็นแก่นของการขับเคลื่อนในกระบวนการทางธุรกิจ (CSR-in-process)
ถ้าจับความเคลื่อนไหวไปที่ตลาดทุนซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจจะเห็นว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยยุคนี้มุ่งมั่นในการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม หรือ CSR (Corporate Social Responsibility)อย่างคึกคัก และเป็นบริบทการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืนของกิจการซึ่งสอดคล้องกับความตื่นตัวของกระแสโลกในปัจจุบัน

จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกกับผมว่าทุกวันนี้นักลงทุนสถาบันระดับโลกมีความเห็นว่าข้อมูลทางการเงินหรือตัวเลขผลประกอบการซึ่งเป็นข้อมูลเชิงปริมาณยังไม่เพียงพอที่จะใช้ตัดสินใจ เขาต้องการข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยนั่นคือข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจการพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน
จึงเกิดแนวคิด“การลงทุนอย่างยั่งยืน” (Sustainability Investment)นั่นเป็นแนวทางการจัดการความเสี่ยงในการลงทุนที่สำคัญวิธีหนึ่ง
เพราะการส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมี CSR ย่อมหมายถึงมีแนวปฏิบัติการทุกขั้นตอนด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ชุมชน และสิ่งแวดล้อมพร้อมกับยึดหลักบรรษัทภิบาลที่ดี (Good Corporate Governance) โดยกำกับดูแลกิจการให้ดีและมีการจัดทำรายงานการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR Report) หรือรายงานข้อมูลความยั่งยืน (Sustainability Report) เปิดเผยต่อสังคม
เมื่อการบริหารกิจการเป็นไปอย่างถูกต้อง เป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ รวมถึงการไม่ให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่นการดำเนินงานก็จะเกิดคุณภาพ ประสิทธิภาพ และคุณธรรม จึงได้รับความเชื่อถือและยอมรับของผู้เกี่ยวข้องอันจะนำไปสู่ความมั่นคงยั่งยืนแน่นอน
ขณะเดียวกันตลาดหลักทรัพย์ก็ส่งเสริมให้ผู้ลงทุนรู้ทันข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนเกี่ยวกับการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม (Environment) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) หรือที่เรียกว่าESGเพื่อพิจารณาคุณลักษณะ “ความดี” ควบคู่กับการดูข้อมูลการเงินจากผลประกอบการ “ความเก่ง”
นี่คือแนวคิดเรื่องการลงทุนอย่างมีความรับผิดชอบ ซึ่งนักลงทุนสถาบันทั่วโลกให้ความสำคัญเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ เพราะการลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เก่งและดีย่อมมีความยั่งยืนหรือลดความเสี่ยงในการลงทุนโดยยืนยันด้วยข้อมูลการรายงานความยั่งยืนของกิจการ
ตลาดหุ้นระดับโลกอย่างในสหรัฐอเมริกามีการจัดทำดัชนีมากมายหลายประเภท ซึ่งมีทั้งระดับเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ อย่างดัชนี DJSI (Dow Jones Sustainability Index) ที่เน้นกิจการที่ยั่งยืน
ทุกปีจะมีกิจการกว่า 2,500 บริษัทยักษ์ใหญ่จากทุกอุตสาหกรรมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำที่มีการจัดทำรายงานความยั่งยืนเพื่อคัดเลือกและเชิญให้เข้าร่วมประเมินความยั่งยืน และพิจารณาเข้าไปคำนวณในกลุ่มดัชนี DJSI
ในปีนี้ปี 2556 S&P ร่วมกับ Dow Jones และ RobecoSAM ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดทำดัชนี DJSI ได้ประกาศรายชื่อบริษัทที่ผ่านการพิจารณา ปรากฎว่ามีบริษัทจดทะเบียนไทยที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนเพื่อเข้าไปคำนวณอยู่ในกลุ่มดัชนี DJSI โดยมีบริษัทจดทะเบียนรวม 14 แห่ง และบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์อีก 1 บริษัทไทย คือ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
ในจำนวนนี้มี 2 องค์กร ที่ติดอยู่ในรายชื่อของดัชนีความยั่งยืนระดับโลก DJSI (Dow Jones Sustainability Index)อยู่ก่อนหน้าแล้ว คือ ปตท. และเอสซีจี ยิ่งกว่านั้นยังมี 15 บริษัทชั้นนำของไทยที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประเมินความยั่งยืนเพื่อไปคำนวณอยู่ในกลุ่มดัชนี DJSI
น่ายินดีที่ 10 องค์กรที่ได้รับรางวัล CSR Award ปีล่าสุดส่วนใหญ่ก็ติดกลุ่มได้รับเชิญดังกล่าว และขึ้นอยู่กับความสมัครใจของแต่ละองค์กรที่จะกรอกข้อมูลตามเกณฑ์การประเมินของDJSIหรือไม่ และนี่คือก้าวต่อไปของกิจการที่ขับเคลื่อนด้วยแนวทาง CSR และมีพัฒนาการสู่ความยั่งยืน

บริษัทไทยที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมประเมินความยั่งยืน (DJSI)
1.บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์เซอร์วิส (ADVANC)
2.บมจ.ธนาคารกรุงเทพ (BBL)
3.บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY)
4.บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC)
5.บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ (BIGC)
6.บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF)
7.บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL)
8.บมจ.ธนาคารกสิกรไทย(KBANK)
9.บมจ.ธนาคารกรุงไทย (KTB)
10.บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)
11.บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC)
12.บมจ.ปตท. (PTT)
13.บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC)
14.บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)
15บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)
                            หมายเหตุ ลำดับที่ 1-14 เป็นบริษัทจดทะเบียน

ข้อคิด...
ปรากฎการณ์ความผันผวนของราคาการซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ไทยและในเอเชียที่มีการปรับตัวค่อนข้างมากในช่วง 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่เดือนแรกของปีนี้ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก จนมีการคาดคะเนว่าดัชนีราคาหุ้นไทยน่าจะไต่ขึ้นไปได้เรื่อยๆ
แต่แล้วความไม่แน่นอนก็เป็นสัจธรรมเสมอ เนื่องจากมีเหตุปัจจัยทางเศรษฐกิจและการขายทำกำไรโดยเฉพาะจากพลังการขายจากนักลงทุนต่างชาติที่กังวลกับความไม่แน่นอน นโยบายธนาคารกลางทำให้คนที่เล็งแต่ทางบวกมีอันต้องผิดหวังและขาดทุนเป็นธรรมดา
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงพร่ำเตือนด้วยวลีที่เราคุ้นเคยว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ” แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นประเภทนักเก็งกำไรที่พอใจกับความเสี่ยงที่หวังผลระยะสั้น
ขณะที่นักลงทุนสถาบันต้องการและผลักดันให้มีเครื่องมือบ่งบอกศักยภาพการพัฒนาสู่ความยั่งยืน
ขณะเดียวกันแนวคิดการลงทุนแบบมุ่งเน้นคุณค่า (Value Investing) อย่างที่ วอเรน บัฟเฟต เป็นแบบอย่างของการลงทุนแนวนี้อย่างได้ผล เขาแนะว่าการเลือกซื้อหุ้นให้พิจารณาแบบจะซื้อกิจการ
ดังนั้น กิจการที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ย่อมเป็นแนวทางพัฒนาสู่ความยั่งยืน และจะเป็นคำตอบในการเลือกลงทุนที่ยั่งยืนในระยะยาวแม้ภาวะตลาดในระยะสั้นจะผันผวนอย่างไรก็ตาม กิจการที่เก่งและดีย่อมมั่นคงยั่งยืนในระยะยาว
suwatmgr@gmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น