ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมผลักดันบริษัทจดทะเบียนไทยเข้าดัชนี DJSI เพิ่มจากปัจจุบันมีแค่ ปตท. และเครือซิเมนต์ไทย คาดมีเพิ่มอีก 4-5 แห่ง หลังหลายหน่วยงานให้ความสำคัญด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมเพิ่ม ล่าสุด ก.ล.ต.เตรียมให้ทุก บจ. ส่งรายงานเชิง CSR เพิ่มเติมจากรายงานผลดำเนินงาน
นายบดินทร์ อูนากูล รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานบริหาร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึงแผนงานด้านการพัฒนาตลาดทุนระยะยาว หรือ CMDF ประจำปี 2556 ว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ให้เป็นที่สนใจในการลงทุน และสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยใช้มิติด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และหลักธรรมาภิบาลเป็นกลไกขับเคลื่อน ซึ่งในเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะเริ่มประกาศให้บริษัทจดทะเบียนส่งรายงานเชิง CSR เพิ่มเติมเข้ามา นอกเหนือจากรายงานในด้านผลดำเนินงานปกติ ซึ่งกองทุนพัฒนาตลาดทุนจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการจัดทำรายงานดังกล่าวแก่บริษัทจดทะเบียน
ทั้งนี้ เพื่อให้บริษัทจดทะเบียนไทยมีความพร้อมเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกใน Dow Jones Sustainability Index (DJSI) ซึ่งปัจจุบันมีบริษัทไทยเพียง 2 รายที่อยู่ในดัชนีดังกล่าว นั่นคือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) และเครือซิเมนต์ไทย (SCG) โดยยังมีอีก 12 บริษัทที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ และเชื่อว่าจะมีโอกาสเข้าไปอยู่ในดัชนีนี้เพิ่มขึ้นอีก 4-5 ราย
โดยทางศูนย์พัฒนาธุรกิจตลาดทุน และศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุนจึงได้แจ้งไปยังประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทของเหล่านั้น และพร้อมให้ความช่วยเหลือหากสนใจที่จะปรับรูปแบบรายงานการประชุมเข้าสู่ระดับ DJSI โดยขณะนี้มี บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบ และคาดว่าจะเข้าสู่มาตรฐานนี้ในปี 2557
สำหรับดัชนี DJSI เป็นหลักทรัพย์ที่จัดทำโดย Dow Jones เพื่อประเมินผลบริษัทที่เป็นกลุ่มผู้นำในด้านธุรกิจอย่างยังยืน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดบสากล ซึ่งในปี 2556 มีบริษัทไทยอยู่ในกลุ่ม Eligible DJSI World Universe ถึง 15 ราย และอยู่ในกลุ่ม Emerging Markets Universe ของบรรดาประเทศกำลังพัฒนาอีก 35 ราย
ดร.กฤษฎา เสกตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุน (TSI) กล่าวถึงแผนดำเนินงานของศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาความรู้ตลาดทุนในปีนี้ ว่า TSI มีเป้าหมายพัฒนา และยกระดับความรู้ความสามารถทั้งในส่วนของผู้ประกอบการวิชาชีพในอุตสาหกรรม และบุคลากรในตลาดทุน รวมทั้งด้านการพัฒนาความรู้ของผู้ลงทุน และขยายฐานผู้ลงทุนอย่างยั่งยืน
โดยจากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และดัชนีหลักทรัพย์มีความผันผวน ทำให้คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ พิจารณาให้ TSI ขยายฐานการให้ความรู้แก่ผู้มีศักยภาพการลงทุน เพื่อสนับสนุนการขยายฐานของผู้ลงทุน เป็น 20,000 รายในปีนี้ จากปี 55 ที่มี 5,000 ราย ผ่านโครงการ Save in Stocks @ Nationwide หรือการขยายการให้ความรู้ไปสู่ผู้มีเงินออมในภูมิภาค
ขณะที่โครงการพัฒนา TSI เป็น Online Investment Knowledge Portal ให้ความรู้แก่กลุ่มคนรุ่นใหม่ช่องทางออนไลน์ ก็ปรับเพิ่มเป้าหมายในปีนี้เป็น 6.9 ล้านเพจวิว จาก 2.55 ล้านเพจวิวในปีก่อน