ตลาดหลักทรัพย์ฯ สนับสนุนสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ขนาดกลางและเล็ก ผ่านการเลือกใช้ข้อมูลจาก S&P Capital IQ
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลการซื้อขายหลักทรัพย์ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2555 จนถึงสิ้นเดือนเมษายนปีนี้ สัดส่วนและมูลค่าซื้อขายหุ้นที่มี Market Cap ขนาดกลางและขนาดเล็กเพิ่มสูงขึ้นมาก โดยมีมูลค่าซื้อขายประมาณ 45% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งตลาด เทียบกับช่วงก่อนหน้าที่มีสัดส่วนประมาณ 34%
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงให้ความสนับสนุนแก่สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเพื่อให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์หุ้นจำนวนมากขึ้น โดยเน้นบริษัทจดทะเบียนที่มี Market Cap ตั้งแต่อันดับ 101-250 รวม 150 บริษัท และหวังว่าการสนับสนุนครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพของตลาดทุนไทย ทั้งผู้ลงทุนและบริษัทหลักทรัพย์ โดยช่วยให้นักวิเคราะห์มีเครื่องมือที่ใช้จัดทำบทวิเคราะห์เต็มรูปแบบได้ในระยะเวลาอันสั้น ทำให้ผู้ลงทุนมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจได้ทันต่อความต้องการ ขณะที่บริษัทหลักทรัพย์ ก็จะมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำลงจากการให้ความสนับสนุนดังกล่าว ตามนโยบายของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ต้องการเพิ่มจำนวนบทวิเคราะห์ให้ครอบคลุมหลักทรัพย์ที่มีปริมาณการซื้อขายค่อนข้างสูง โดยจะให้การสนับสนุนสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทยเป็นเวลา 3 ปี
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (ASCO) กล่าวว่า สมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และจากบริษัทสมาชิกที่สนใจ โดยได้พิจารณาคัดเลือกบริษัท S&P Capital IQ บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการให้บริการข้อมูลเพื่อจัดทำบทวิเคราะห์ ซึ่งใช้หลักการ และเกณฑ์การจัดทำข้อมูลที่เป็นมาตรฐานเดียวกับบริษัทจดทะเบียนทั่วโลก ทำให้สามารถเปรียบเทียบบริษัทไทยกับบริษัทที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันในประเทศอื่นได้ด้วย ข้อมูลที่บริษัทหลักทรัพย์จะได้รับประกอบด้วยข้อมูลทางการเงิน พัฒนาการของบริษัท และข้อมูลอื่นๆ ที่มีคุณภาพในการจัดทำบทวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้านปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
“เราคาดว่าบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าร่วมโครงการจะสามารถเริ่มให้ข้อมูลหลักทรัพย์ขนาดกลาง และเล็กได้ทันที และจะพัฒนาเป็นบทวิเคราะห์สำหรับหลักทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในการลงทุนภายในระยะเวลาอันใกล้”
