xs
xsm
sm
md
lg

เตือนภัยผู้หญิง ระวัง!! ยาเสียสาวแบบใหม่ อันตรายถึงตาย!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โลกออนไลน์มีอะไรให้ดูตลอดเวลา ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ใช้ชื่อว่า Achara Paisanteerajit โพสต์แจ้งเตือนเหล่าพ่อแม่ทั้งหลายที่ปล่อยลูกๆออกไปเที่ยวสถานบันเทิงในยามค่ำคืน โดยเฉพาะสาวๆยิ่งน่าเป็นห่วง ล่าสุดมีการพบสารเสพติดที่มาในรูปแบบใหม่ คล้ายยาพารา เม็ดกลมสีฟ้า มีสัญลักษณ์รูปอักษรคล้ายชื่อย่อสินค้าแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง เสพติดได้ง่าย จากการผสมในเครื่องดื่ม หรือการเคี้ยว ผู้ใช้เฟสบุ๊ครายนี้ระบุว่า

"น่าห่วงมั๊ย..เยาวชนไทย..ลูกไปเที่ยวผับ ผู้หญิงก็เสียตัว"
 
"ขนม" - ยาอี,ยาเลิฟ (Ecstasy) ดูลูกหลานให้ดี เที่ยวกลางคืนตามผับ บาร์ มีเม็ดยาแบบนี้ตกหล่นจากกระเป๋า ลองถามดูว่า ยาอะไร .?. คงไม่ใช่ยานอนหลับหรือลดความอ้วน มันคือ ยาเสพติด -ออกฤทธิ์ ทั้งกระตัุน ทั้งหลอนประสาท ตึ้ดได้ทั้งคืน พวกสายย่อทั้งหลายนิยมนัก

- สนนราคาเม็ดละ300-1,000 บาท แล้วแต่หายาก ง่าย
 
- แหล่งขายก็สถานบริการที่เที่ยวนั้นเอง
 
- วิธีติดยา ก็แค่มาเคี้ยวๆแล้วกระดกน้ำเป้บซี่,เบียร์,เหล้าตามไป หรือจะใส่แก้วรอละลายยกดื่ม ก็ออกฤทธิ์หลอนได้ทั้งคืน จากภาพเป็น รุ่นล่าสุดสีออกฟ้า ประทับตรา LV แบบ หลุยส์วิตตอง"

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองควบคุมวัถตุเสพติด ระบุไว้ว่า ยาอี หรือยาเลิฟ จะเสพโดยการรับประทาน มีอยู่ในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล โดยลักษระทั่วไปจะเป็นเม็ดกลมแบน ด้านหนึ่งนูนหรือเรียบ หรือมีขีดแบ่งครึ่ง อีกด้านจะพิมพ์รูปภาพหรือสัญลักษณ์อักษรต่างๆ เช่น ลวดลายการ์ตูน อักษร adam , love เป็นต้น ดังนั้นเมื่อร่างกายได้รับสารตัวนี้เข้าไป จะทำให้ระบบประสาทส่วนกลางถูกกระตุ้นอย่างแรง ผู้เสพจะรู้สึกสนุกสนาน มีความสุข และมีอาการประสาทหลอน เช่น เห็นภาพผิดปกติ ได้ยินเสียงผิดธรรมชาติ ความคิดสับสน หวาดวิตก ระแวง

นอกจากนี้อาการทางกายที่จะเห็นได้คือ หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ อุณหถูมิของร่างกายสูงขึ้น หายใจเร็ว นอนไม่หลับ กล้ามเนื้อกระตุก อยู่ไม่สุข ซึมเศร้า อาเจียน ตาพร่ามัว เหงื่อออกมาก โดยยาจะเริ่มออกฤทธิ์หลังจากเสพเข้าไปภายในระยะเวลา 30-45 นาที จะมีฤทธิ์อยู่ในร่างกายได้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง แล้วจะถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อ และปัสสาวะ หมดภายในประมาณ 72 ชั่วโมง หรือ 3 วัน

หากได้รับยาชนิดนี้เกินขนาด จะมีอาการหัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง กล้ามเนื้อเกร็งตัว ตื่นตกใจกลัว ในรายที่อาการรุนแรงอาจจะชักและหมดสติ ระบบหายใจล้มเหลว และนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด
ข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค Achara Paisanteerajit และ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กองควบคุมวัถตุเสพติด
ข่าวโดย : นงนุช พุดขาว

กำลังโหลดความคิดเห็น