xs
xsm
sm
md
lg

โจ๋แชตผ่านเฟซบุ๊กลวงสาวพาณิชย์มอมเหล้าผสมยาปลุกเซ็กซ์ข่มขืนยับดับคาเตียง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - 4 โจ๋แชตเฟซบุ๊กล่อลวงสาวพาณิชย์มาพบ ก่อนวางแผนลงมือมอมเหล้าผสมยาปลุกเซ็กซ์ อุ้มเข้าโรงแรมภายในซอยพหลโยธิน 11 ผลัดกันข่มขืนจนช็อกเสียชีวิตคาเตียง

จากกรณีเกิดเหตุพบศพนักเรียนสาวพาณิชย์ภายในโรงแรมย่านบางซื่อ ถูกเพื่อนชายมอมเหล้าแล้วรุมโทรมจนช็อกและเสียชีวิตคาเตียง ตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดพบเข้าพักพร้อมชายวัยรุ่น 4 คน

ล่าสุด วันนี้ (5 ส.ค.) ที่ สน.บางซื่อ เมื่อเวลา 11.00 น. มารดาของ น.ส.เอ (นามสมมติ) เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงคดีดังกล่าวแต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์เนื่องจากยังทำใจไม่ได้

ด้าน พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ เพื่อสอบปากคำและตรวจสอบความเรียบร้อยของคดีดังกล่าว พร้อมเปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายส่งไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่ามา โดยเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนเชิงลึกและตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุพบว่าผู้ต้องหาได้นัดผู้ตายไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเวลาประมาณ 05.44 น.ผู้ต้องหาบางส่วนได้เดินทางออกมาเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งในซอยพหลโยธิน 11 (เสนาเพลส) แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.เพื่อใช้ในการก่อเหตุ หลังจากนั้นได้กลับมารับผู้ตายไปที่โรงแรมดังกล่าว

จากการสังเกตพบว่าผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมาไม่ได้สติ โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายต้องช่วยกันพยุงเข้าไปในห้องเกิดเหตุ จากกล้องวงจรปิดนั้นเป็นที่ชี้ชัดว่าผู้ตายถูกล่อลวงมาก่อเหตุ อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยผู้ตายนั้นรู้จักกับหนึ่งในกลุ่มคนร้ายเมื่อประมาณวันที่ 1 สิงหาคม ก่อนจะนัดมาเจอกันและลงมือก่อเหตุ จนต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 3 สิงหาคม หนึ่งในผู้ที่ก่อเหตุอ้างว่าเป็นแฟนผู้ตายได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิให้เข้าไปช่วยปั๊มหัวใจให้ผู้ตาย พร้อมกับบอกว่าผู้ตายนั้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนผู้ต้องอีก 3 คนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ตรวจสอบกล้องจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด ในช่วงค่ำของวันที่ 3 วันเดียวกัน แต่ทั้งหมดยังในการปฏิเสธจนมารับสารภาพในที่สุดในวันที่ 4 สิงหาคม เพราะทั้งหมดจำนนต่อหลักฐาน

พล.ต.ต.เจริญกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายนั้นรู้จักเพียง 1 ใน 4 ของคนร้ายเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าการก่อเหตุทั้งหมดเป็นการวางแผนของผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย ส่วนยาที่พบในปากของผู้ตายและการตรวจหาสารเสพติดในร่ายกายของผู้ต้องหานั้นต้องรอผลตรวจจากแพทย์ก่อนว่าเป็นสารอะไร

ด้านผู้ปกครองของผู้ตายนั้นติดใจแค่ว่าผู้ตายนั้นไม่ได้เสียชีวิตด้วยตัวเอง หรือเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ แค่ในส่วนของคดีความนั้นก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้อยากจะฝากไปยังผู้ปกครองและวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิงเนื่องจากในปัจจุบันการสื่อสารนั่นถือว่าเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะในโลกโซเชียลควรจะระวังคนแปลกหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย

ทั้งนี้ มีรายงานว่า น.ส.เอ (นามสมมติ) รู้จักกับนายคณากรผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และได้ติดต่อกันทางมือถือ เฟซบุ๊ก และไลน์ จนมาถึงวันเกิดเหตุ (3 สิงหาคม) นายคณากรได้นัดผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊กให้มาเจอกันที่ซอยอินทามระ 7 หลังจากนั้น นายคณากรได้พาผู้ตายไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อปากซอยอินทามระ 9 เมื่อซื้อของเสร็จได้พาผู้ตายไปนั่งดื่มสุราที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งอยู่ในซอยอินทามระ 7 โดยมีนายธวัชชัย และนายเขตตะวันนั่งกินอยู่ก่อนแล้ว ส่วนนายนายคงกระพันนั้นได้ตามมาทีหลังซึ่งสืบทราบภายหลังว่านายคงกระพันได้ไปเปิดห้องพักในโรงแรมที่เกิดเหตุก่อนจะมานั่งกินร่วมกัน ต่อมาเวลา 06.00 น.ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มผู้ต้องหาใช้จักรยานยนต์ 2 คันขับขี่ไปที่โรงแรมที่เกิดเหตุ โดยมีนายธวัชชัยเป็นผู้ขับ ผู้ตายนั่งตรงกลางและมีนายคงกระพันนั่งซ้อนท้าย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คนใช้จักรยานยนต์อีก 1 คันขับตามกันไป เมื่อถึงโรงแรมที่เกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดช่วยกันนำร่างไม่ได้สติของผู้ตายเข้าไปภายในห้องที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลา 07.30 น. พบว่าผู้ต้องหา 3 คนได้ออกมาจากห้องก่อนเหลือเพียงนายคณากร กับผู้ตายอยู่ในห้องเพียง 2 คนเท่านั้น จากนั้นเวลา 15.00 น.นายคณากรได้ปลุกผู้ตายแต่ไม่ตื่นและพบว่าร่างกายของผู้ตายนั้นเริ่มแข็งแล้วจึงแจ้งมูลนิธิเข้าช่วยเหลือ จากการตรวจสอบพบสารเสพติดในร่างกายผู้ต้องหาทั้ง 4 คน พบสารเสพติดในร่างการประเภทกัญชา รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่าสารที่อยู่ในปากผู้ตายนั้นเป็นยาปลุกเซ็กซ์ประเภทยาเลิฟที่ช่วยให้เกิดอารมณ์ทางเพศ
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น