เอพี/MGRออนไลน์ - ตำรวจโปรตุเกสแถลงวันนี้ (4 ส.ค.) สามารถจับกุมชาวต่างชาติวัย 18 ปี คนหนึ่งในขณะที่กำลังขนยาอีล็อตใหญ่ถึง 40,000 เม็ด ในระหว่างอยู่ในท่าอากาศนานาชาติลิสบอน
เอพีรายงานวันนี้ (4 ส.ค.) ว่า ชื่อและสัญชาติของผู้ต้องหาชาวต่างชาติอายุ 18 ปี ที่ถูกจับกุมนี้ยังไม่ได้รับการเปิดเผยจากทางเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ทั้งนี้ ในแถลงการณ์ของตำรวจโปรตุเกสในวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ระบุว่า การจับยาอีที่ท่าอากาศนานาชาติลิสบอน ถือเป็นการจับที่มีของกลางจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยจับมาได้ที่ท่าอากาศยานแห่งนี้ในช่วงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา
โดยพบว่า ยาอีล็อตใหญ่นี้มีน้ำหนักราว 17 กก. หรือราว 40,000 เม็ด
เอพีรายงานต่อว่า และในการปรากฏตัวต่อศาลโปรตุเกส พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว ทั้งนี้ สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหภาพยุโรป (The European Union drug agency) ได้ออกแถลงเมื่อต้นปีนี้ว่า พบว่า ยาอี หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า ยาเลิฟกลับมาเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกองควบคุมวัตถุเสพติด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ของกระทรวงสาธารณสุขไทย พบว่า ยาเสพติดประเภทนี้มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Ecstasy เป็นสารสังเคราะห์ ที่ออกฤทธิ์ทั้งกระตุ้นประสาท (amphetamine - like) และหลอนประสาท (LSD - like) จัดอยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษของไทย พ.ศ. 2522
ยาอี (Ecstasy) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ 3, 4 methylenedioxy methamphetamine หรือ MDMA ส่วนยาเลิฟ มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ คือ 3, 4-Methylenedioxy amphetamine หรือ MDA ซึ่งมีสูตรโครงสร้างคล้ายกับ เมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า แต่มีฤทธิ์ที่รุนแรงกว่าประมาณ 10 เท่า โดยออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท และ ทำลายเซลล์สมองที่เกี่ยวข้องกับความคิดและความจำเช่นเดียวกัน
และสำหรับบทลงโทษของไทย พบว่า บทกำหนดโทษ ผู้ใดผลิต นำเข้า หรือส่งออก ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งล้านบาท ถึงห้าล้านบาท ในขณะที่ผู้เสพ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 10,000 - 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ