xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ลุยสอบ 4 โจ๋รุมโทรมสาวพาณิชย์ดับคาโรงแรมย่านบางซื่อ ระบุโดนลวงเข้า รร.มอมยาเลิฟ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


MGR Online - ผบก.น.2 ลุยสอบ 4 โจ๋รุมโทรมสาวพาณิชย์ ดับอนาถคาโรงแรมย่านบางซื่อ เผยเพิ่งรู้จักเหยื่อผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ก่อนนัดมากินเหล้าด้วยกันจนผู้ตายเมาไม่ได้สติ ซ้ำโดนมอมยาเลิฟ จากภาพวงจรปิดเชื่อถูกลวงเข้าโรงแรม

จากกรณีเหตุสลด 4 วัยรุ่นจัดปาร์ตี้รุมโทรมสาวพาณิชย์แห่งหนึ่ง อายุ 19 ปี ดับอนาถคาโรงแรมย่านบางซื่อ แพทย์ระบุหัวใจล้มเหลว ขณะที่วัยรุ่นอีก 2 คนรอมอบตัว ตำรวจตามรวบอีก 2 รับรุมโทรมแต่ไม่ได้ข่มขืนแล้วฆ่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา

วันนี้ (5 ส.ค.) มารดาของ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงคดีดังกล่าว แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนสัมภาษณ์เนื่องจากยังทำใจไม่ได้ ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.เจริญ ศรีศศลักษณ์ ผบก.น.2 เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ เพื่อสอบปากคำ 4 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย นายคณากร หรือมาร์ค ทองเอม อายุ 19 ปี และนายเขตตะวัน หรือฟลุ๊ค วิวัฒนานนท์ อายุ 21 ปี นายคงกระพัน หรือเค้ก สังข์มีน้อย อายุ 21 ปี และนายธวัชชัย หรือวัช บุบผามะตะนัง อายุ 28 ปี พร้อมตรวจสอบความเรียบร้อยของคดีดังกล่าว

พล.ต.ต.เจริญเปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 รายส่งไปฝากขักที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อช่วงเช้าที่ผ่ามา โดยเจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรผิดทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุพบว่าก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาได้นัดผู้ตายไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเวลาประมาณ 05.44 น.ผู้ต้องหาบางส่วนได้เดินทางออกมาเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งในซอย พหลโยธิน 11 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.เพื่อใช้ในการก่อเหตุ หลังจากนั้นได้กลับมารับผู้ตายไปที่โรงแรมดังกล่าว

จากการสังเกตพบกว่าผู้ตายอยู่ในอาการมึนเมาไม่ได้สติ โดยผู้ต้องหาทั้ง 4 รายต้องช่วยกันพยุงเข้าไปในห้องเกิดเหตุ จากกล้องวงจรปิดนั้นเป็นที่ชี้ชัดว่าผู้ตายถูกล่อลวงมาก่อเหตุ อยู่ในสภาพที่ไม่สามารถขัดขืนได้ โดยผู้ตายนั้นรู้จักกับหนึ่งในกลุ่มคนร้ายเมื่อประมาณวันที่ 1 สิงหาคม ก่อนจะนัดมาเจอกันและลงมือก่อเหตุ

จนต่อมาเวลาประมาณ 15.00 น.วันที่ 3 สิงหาคม หนึ่งในผู้ที่ก่อเหตุอ้างว่าเป็นแฟนผู้ตายได้แจ้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิให้เข้าไปช่วยปั๊มหัวใจให้ผู้ตาย พร้อมกับบอกว่าผู้ตายนั้นตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คนไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไล่ตรวจสอบกล้องจนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมดในช่วงค่ำของวันที่ 3 ส.ค. แต่ทั้งหมดยังในการปฏิเสธ จนมารับสารภาพในที่สุดในวันต่อมาเพราะทั้งหมดจำนนต่อหลักฐาน

พล.ต.ต.เจริญกล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายนั้นรู้จักเพียง 1 ใน 4 คนร้ายเท่านั้น ทั้งนี้เชื่อว่าการก่อเหตุทั้งหมดเป็นการว่างแผนของผู้ต้องหาทั้งหมด ไม่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย ส่วนยาที่พบในปากของผู้ตายและการตรวจหาสารเสพติดในร่ายกายของผู้ต้องหานั้นต้องรอผลตรวจจากแพทย์ก่อนว่าเป็นสารอะไร ส่วนผู้ปกครองของผู้ตายนั้นติดใจแค่ว่าผู้ตายนั้นไม่ได้เสียชีวิตด้วยตัวเอง หรือเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ แต่ในส่วนของคดีความนั้นก็ให้เป็นไปตามกระบวนการ ทั้งนี้อยากจะฝากไปยังผู้ปกครองและวัยรุ่นโดยเฉพาะผู้หญิงเนื่องจากในปัจจุบันการสื่อสารนั่นถือว่าเป็นเรื่องง่าย โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดียควรจะระวังคนแปลกหน้าที่เข้ามาพูดคุยด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า น.ส.เอ รู้จักกับนายคณากร ผ่านทางเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม และได้ติดต่อกันทางมือถือ เฟซบุ๊ก และไลน์ จนมาถึงวันเกิดเหตุ (3 ส.ค.) นายคณากรได้นัดผู้ตายผ่านทางเฟซบุ๊กให้มาเจอกันที่ซอยอินทามะระ 7 หลังจากนั้นนายคณากรได้พาผู้ตายไปซื้อของที่เซเว่นฯ ปากซอยอินทามระ 9 เมื่อซื้อเสร็จได้พาผู้ตายไปนั่งกินสุราที่บริเวณหน้าบ้านซึ่งอยู่ในซอยอินทามระ 7 โดยมีนายธวัชชัยและนายเขตตะวันนั่งกินอยู่ก่อนแล้ว ส่วนนายนายคงกระพันนั้นได้ตามมาทีหลังซึ่งสืบทราบภายหลังว่านายคงกระพันได้ไปเปิดห้องพักในโรงแรงที่เกิดเหตุก่อนจะมานั่งกินร่วมกัน

ต่อมาเวลา 06.00 น. กล้องวงจรปิดจับภาพกลุ่มผู้ต้องหาใช้จักรยานยนต์ 2 คันขับขี่ไปที่โรงแรมที่เกิดเหตุโดยมีนายธวัชชัยเป็นผู้ขับ ส่วนผู้ตายนั่งตรงกลางและมีนายคงกระพันนั่งซ้อนท้าย ส่วนผู้ต้องหาอีก 2 คน ใช้จักรยานยนต์อีก 1 คันขับตามกันไป เมื่อถึงโรงแรมที่เกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดช่วยกันนำร่างไม่ได้สติของผู้ตายเข้าไปภายในห้องที่เกิดเหตุ ต่อมาเวลา 07.30 น. พบว่าผู้ต้องหา 3 คนได้ออกมาจากห้องก่อน เหลือเพียงนายคณากรกับผู้ตายอยู่ในห้องเพียง 2 คนเท่านั้น จากนั้นเวลา 15.00 น.นายคณากรได้ปลุกผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ตื่นและพบว่าร่างกายของผู้ตายนั้นเริ่มแข็งแล้วจึงแจ้งมูลนิธิเข้าช่วยเหลือ จากการตรวจสอบพบสารเสพติดในร่างการผู้ต้องหาทั้ง 4 คน เป็นสารเสพติดประเภทกัญชา

รายงานข่าวยังแจ้งอีกว่า ส่วนสารที่อยู่ในปากผู้ตายนั้นเป็นยาปลุกเซ็กซ์ประเภทยาเลิฟที่ช่วยให้เกิดอารมณ์ทางเพศ



กำลังโหลดความคิดเห็น