xs
xsm
sm
md
lg

เอาชนะ "ภูมิแพ้"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดขึ้นเนื่องจากปฏิกิริยาของร่างกายต่อสิ่งแปลกปลอม หรือที่เรียกว่าสารก่อภูมิแพ้ที่ผ่านเข้าไปในร่างกาย ในคนปกติปฏิกิริยาจะเกิดขึ้นน้อยมาก และไม่มีอาการแต่อย่างใด แต่ในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ปฏิกิริยาของร่างกายต่อสารก่อภูมิแพ้จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ทำให้ผู้ป่วยมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

โรคภูมิแพ้สามารถแบ่งได้ตามอวัยวะที่เกิดโรคได้เป็น 4 โรค

1.โรคภูมิแพ้อากาศ หรือโรคภูมิแพ้จมูก มีอีกชื่อหนึ่งว่า โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เนื่องจากเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับเยื่อบุจมูก ซึ่งเยื่อบุจมูกของผู้ป่วยจะไวต่อสิ่งเร้า เช่น สภาพอากาศ ฝุ่นละออง ไรฝุ่น เกสรดอกไม้ เชื้อรา ขนสัตว์ หรือแม้กระทั้งกลิ่น และสิ่งระคายเคืองต่างๆ โดยอาการที่สามารถสังเกตผู้ป่วยจะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นตลอดปี หรือเพียงบางฤดูกาลก็ได้ โดยเฉพาะฤดูฝนหรือฤดูหนาว บางรายอาจมีอาการทางตาร่วมด้วย เช่น คันตา เคืองตา ตาบวม น้ำตาไหล

2. โรคตาอักเสบจากภูมิแพ้ เป็นโรคที่พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ หรือเขตชุมชนที่มีผู้คนอาศัยกันหนาแน่น เนื่องจากมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียและจากโรงานอุตสาหกรรม ละอองฝุ่นในอากาศ เป็นตัวกระตุ้นให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้ทั้งนั้น แต่เมื่อเกิดอาการภูมิแพ้ที่ตาควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง ควรปรึกษาแพทย์ เพราะดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิต ควรดูแลดวงตาให้เป็นอย่างดี

3.โรคหอบหืด เป็นโรคภูมิแพ้อีกชนิดหนึ่ง เพราะอาการของโรคนี้สารก่อภูมิแพ้จะก่อให้เกิดภาวะหลอดลมอักเสบอย่างเฉียบพลัน ส่งผลให้หลอดลมตีบตัน ซึ่งอาการมีหลายลักษณะ เช่น ไอ หอบไอ แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด หายใจสั้นและลำบาก อาการเหล่านี้จะรุนแรงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับสมรรถภาพของปอด หากไม่ได้รับยาทันทีจะทำให้อาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

4.โรคภูมิแพ้ผิวหนัง ผู้ป่วยมักจะมีโรคภูมิแพ้ร่วมด้วย เช่น โรคหอบหืด แพ้อากาศ สาเหตุของโรคไม่สามารถทราบได้โดยแน่ชัด แต่เชื่อว่ามักเกิดจากพันธุกรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น มักจะพบในเด็กประมาณร้อยละ 9 - 17 โรคนี้จะดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ส่วนของเด็กมักจะพบเกิดขึ้นที่ศีรษะ หน้า ผื่น ส่วนของผู้ใหญ่มักจะเกิดที่ ข้อศอก ข้อเข่า คอมือ เท้า

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้

1.ปัจจัยทางด้านพันธุกรรม ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้มักมีประวัติบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ โดยที่ผู้ป่วยอาจไม่ได้เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดเดียวกับที่บิดาหรือมารดาเป็น หรือไม่ได้แพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดเดียวกับที่บิดาหรือมารดาแพ้ได้ พบว่าผู้ป่วยที่บิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้ มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ร้อยละ 20 - 40 และมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้ร้อยละ 50 - 80 ในกรณีที่บิดาและมารดาเป็นโรคภูมิแพ้

2.ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อมมลพิษในอากาศ เช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ เป็นต้น รวมถึงการใช้ชีวิตของประชากรที่เปลี่ยนจากสังคมชนบทมาเป็นสังคมเมือง ทำให้มารดาไม่สามารถให้นมบุตรได้ในช่วงแรกคลอดหรือความเร่งด่วนในการดำเนินชีวิตประจำวัน ทำให้จำเป็นต้องรับประทานอาหารจานด่วนหรืออาหารสำเร็จรูป สิ่งเหล่านี้อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ เนื่องจากพบว่าผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ร้อยละ 15 ไม่ได้มีบิดาหรือมารดาเป็นโรคภูมิแพ้

วิธีป้องกันโรคภูมิแพ้

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคภูมิแพ้ คือการหลีกเลี่ยงและกำจัดสารก่อให้เกิดภูมิแพ้และสารที่จะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่างๆ โดยหากเป็นโรคภูมิแพ้อาหาร ก็ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือถ้าหากมีอาการของภูมิแพ้ขึ้นจมูกบ่อยๆ ก็ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดบริเวณที่อาศัยอยู่ให้สะอาดอยู่เสมอ โรคภูมิแพ้ เป็นอาการที่อยู่ใกล้ตัว บางครั้งอาจจะแสดงอาการมาเป็นในรูปแบบสภาวะแอบแฝง ทางที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ไม่เคยมีประวัติการแพ้ ควรจะหมั่นสังเกตอาการของตัวเอง แต่ถ้าหากเป็นผู้เป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว ควรดูแลตัวเอง และหลีกเลี่ยงจากสิ่งที่แพ้ให้ไกลที่สุด เพื่ออาการจะได้ไม่กำเริบ
_____________________________________________________
ข่าวโดย สุนิสา ศรีสุข

กำลังโหลดความคิดเห็น