xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าความจริง ขนหมาเข้าปอด ถึงตาย?!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจาก thechart.blogs.cnn.com
สร้างความตกใจให้กับคนรักสัตว์ไม่น้อย หลังเกิดเหตุสลด เด็กหญิงวัย 13 ปี ชาว อ.นาโยง จ.ตรัง เสียชีวิตด้วยอาการปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง โดยแพทย์ตรวจสอบและวินิจฉัยโรคจึงพบว่า ในร่างกายของเด็กหญิงคนดังกล่าว มีขนสัตว์ติดอยู่ในช่องปอดทำให้ปอดอักเสบ

ทั้งนี้ พ่อแม่ของน้อง เปิดเผยว่า ลูกสาวคลุกคลีอยู่กับสุนัข 10 ตัวกับลิง 1 ตัว มาตั้งแต่อายุ 3 ขวบ ที่ผ่านมาก็ใช้ชีวิตตามปกติมากว่า 10 ปี จนกระทั่งเมื่อปี 2555 น้องเริ่มมีอาการไอและหอบผิดปกติ ผลตรวจจากแพทย์พบว่ามีอาการติดเชื้อในปิดและพบขนสุนัขได้เข้าไปทางลมหายใจ ทำให้ปอดมีอาการอักเสบ

ต่อมาเมื่อ 2 เดือนก่อน น้องมีอาการไอและตัวร้อนมาก จนต้องพาไปรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์ต้องวินิจฉัยใหม่อีกครั้งจนพบว่าปอดติดเชื้ออย่างรุนแรง ประกอบกับมีขนสุนัขติดอยู่ในปอดจำนวนมาก เนื่องจากเด็กหญิงมีพฤติกรรมติดสุนัขมาก ทั้งกอดและหอม จนส่งผลทำให้ติดเชื้อวัณโรคในปอด ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม การนำเสนอข่าวดังกล่าว ทำให้กลุ่มคนรักสัตว์มีความวิตกกังวลว่า อาจส่งผลให้ผู้เลี้ยงสัตว์หวาดกลัว จนถึงขั้นนำไปปล่อย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสุนัขหรือแมวจรจัดได้ ดังนั้น ทีมงาน ASTV ผู้จัดการ Live จึงขอเรียบเรียงข้อมูลมาชี้แจงแถลงไขว่า เป็นไปได้หรือไม่? ที่คนเราจะเสียชีวิตเพราะคลุกคลีกับสัตว์มากเกินไป

ในแง่ของวิทยาศาสตร์มีข้อมูลที่ระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่ขนสัตว์จะเข้าไปถึงปอด และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเอกซ์เรย์แล้วเห็นขนหมาในปอด เพราะรังสีมันจะทะลุขนไม่สะท้อนกลับมาบนฟิล์มทำให้มองไม่เห็น นอกจากนี้ ยังได้รับการยืนยันจากบทความของ น.สพ.ธีรภาพ มุสิกานนท์ ที่เคยเขียนถึงกรณี "พระเกจิดังนครสวรรค์โคม่า เอกซเรย์พบขนสุนัขเต็มปอด เห็บในจมูก-ใต้ผิวหนัง" ลงใน www.dogilike.com โดยระบุว่า เป็นไปได้ยากเพราะร่างกายมนุษย์มีกลไกป้องกันสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว

เรื่องขนสุนัขเข้าปอดคนนั้น เป็นไปได้ยากครับ เพราะอะไรก็ตามที่จะลงไปในปอดได้นั้น ต้องมีขนาดเล็กมากๆ และหากจะผ่านทางเดินหายใจไปถึงปอดได้ จะต้องผ่านกลไกการขับออกของร่างกาย เพราะปกติร่างกายก็จะมีการปฏิเสธสิ่งแปลกปลอมอยู่แล้ว เช่น จาม ไอ สร้างเมือก (เสมหะ) มาจับ หรือใช้ cilia (ซีเลีย) พัดโบกออกมา ขนาดของวัตถุที่จะเข้าไปในปอดได้นั้น ต้องมีขนาดเล็กกว่า 3-5 ไมครอนเท่านั้นซึ่งเล็กมากๆ”

ด้าน นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ (TCELS) ก็เผยข้อมูลไปในทิศทางเช่นเดียวว่า โอกาสที่ขนสุนัขเข้าไปในปอดนั้นเกิดขึ้นยากจริงๆ

“สำหรับข้อสันนิษฐานที่ว่า ขนสัตว์เข้าปอดนั้น ข้อนี้โอกาสยิ่งยากครับที่ขนสัตว์จะเข้าไปลึกล้ำถึงปอดที่ประกอบด้วยถุงลมขนาดเล็กและหลอดลมฝอยที่มีขนาดจิ๋วสุดๆ ถ้าจะจับขนหมาแมวยัดเข้าไปในปอดให้ได้ในปริมาณมากๆ ก็เหมือนกับการสนเข็ม เข้าไปในที่แคบแสนแคบครับ ท่านว่ามันจะเข้าไปได้มากแค่ไหน อีกทั้งในปาก, คอและจมูกของคนเรามีกลไกที่ป้องกันสิ่งแปลกปลอมจำพวกขนเหล่านี้อยู่ นอกจากนั้นในถุงลมเองก็มีเซลล์ที่คอยดักจับสิ่งแปลกปลอมอีกชั้นหนึ่งด้วย” นพ.กฤษดา กล่าว



ตามมา Follow Instagram และ Facebook Fanpage
"ASTV ผู้จัดการ Live" กันได้ที่นี่!!
**สามารถส่งข่าวสารและเรื่องราวร้องทุกข์ในสังคมมาได้: astvmanager.live.lite@gmail.com
หรือ โทร.0-2629-4488 ต่อ 1477, Fax 0-2629-4754


กำลังโหลดความคิดเห็น