คนส่วนใหญ่นิยมกินปลาและน้ำมันปลา โดยเฉพาะปลาจากทะเลน้ำลึก เพราะว่ามีน้ำมันโอเมก้า-3 เนื่องจากเป็นกรดไขมันจำเป็น และดีต่อระบบการทำงานของร่างกาย ได้แก่ ภูมิคุ้มกัน หลอดเลือด สมอง และประสาท ฯลฯ แต่หาได้ยาก เพราะมีราคาที่แพง มีรายงานพบว่า น้ำมันปลาอาจมีสารปนเปื้อนด้วยสารพิษและสารก่อมะเร็ง เช่น ปรอท , PCB ฯลฯ ในขณะที่เมล็ดพืชผักท้องถิ่นหลายชนิดมีน้ำมันโอเมก้า-3 มากกว่าหลายเท่า ดังนั้น คณะวิจัย มหาลัยวิทยาลัยพะเยา จึงสนใจศึกษาน้ำมันโอเมก้า-3 จากเมล็ดพืชต่างๆ และพบว่า
เมล็ดงาม้อน สามารถให้น้ำมันโอเมก้า-3 ได้มากที่สุด งาม้อนมีความเหมาะสม สำหรับนักมังสวิรัติ-เจ โดยไม่ต้องกังวลกินน้ำมันปลาและมีกลิ่นคาวปลาแรง น้ำมันงาขี้ม้อนมาจากพืช มีกลิ่นหอม รสจืด ไม่มีกลิ่นคาว ทำให้รู้สึกสบาย ไม่ลำบากในการกินอาหารมังสวิรัติ/เจ ที่ปราศจากเนื้อและน้ำมันสัตว์ใดๆ
งาขี้ม้อน หรืองาม้อน (Perilla frutescens) เป็นพืชสมุนไพรที่พบทั่วไปในแถบเอเซีย ในประเทศไทยพบปลูกอยู่ทั่วไปในเขตภาคเหนือของประเทศ เทมล็ดงาม้อนนิยมใช้ผสมในข้าวเหนียวนึ่งสุกใหม่ โรยหน้าขนมปัง และเป็นส่วนผสมในขนมต่างๆ หลากหลายชนิด ปัจจุบันงาม้อนเริ่มได้รับความสนใจนำมาศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพมากขึ้น เป็นที่น่าสนใจว่า เมล็ดงาม้อนมีน้ำมันในปริมาณสูงซึ่งพบว่ามีกรดไขมันจำเป็นชนิดกรดแอลฟา-ลิโนเลนิกซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวในกลุ่มของโอเมก้า-3 มากกว่ากรดไขมันชนิดอื่น คณะผู้วิจัย ได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างจาก 14 แหล่งเพาะปลูก ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ (น่าน แพร่ พะเยา ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน และลำพูน) พบว่า เมล็ดงาม้อนมีปริมาณน้ำมันรวมเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 25.8 + 2.8 และพบว่า เมล็ดงาม้อนจากแหล่งเพาะปลูกในจังหวัดแม่ฮ่องสอน และ เชียงราย ในน้ำมันงาม้อนมีปริมาณกรดไขมันแอลฟา-ลิโนเลนิกสูงมากถึง 82% จึงเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งว่า น้ำมันจากเมล็ดงาม้อนไทยสามารถเป็นแหล่งน้ำมันโอเมก้า-3 ทดแทนน้ำมันโอเมก้า-3 จากปลาทะเลน้ำลึกได้ และมุ่งหวังที่จะพัฒนาน้ำมันจากงาม้อนและจากพืชอื่นเพื่อใช้เป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพต่อไป
ข้อมูลจากหนังสือ : APVC & VegFest 2015