พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคเหนือ ระหว่างกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน และ บริษัท ขนส่งน้ำมันทางท่อ จำกัด (FTP) ว่า โครงการดังกล่าวจะขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อเดิมที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปยังภาคเหนือ โดยในแผนแบ่งการลงทุนเป็นสองระยะ คือ ระยะแรกบางปะอิน - กำแพงเพชร ระยะทาง 350 กิโลเมตร ระยะที่สอง กำแพงเพชร - ลำปาง 220 กิโลเมตร ซึ่งจะมีคลังน้ำมันปลายทางที่จังหวัดพิจิตรและลำปาง พร้อมคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในโครงการ 7,500 ล้านบาท รวมถึงการก่อสร้างท่อและคลังน้ำมันจะแล้วเสร็จในปี 2561 หากโครงการแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถส่งน้ำมันเพื่อรองรับความต้องการใช้ในพื้นที่ภาคหนือได้กว่า 2,000 ล้านลิตรต่อปี และช่วยทำให้ราคาน้ำมันลดลง 30 - 40 สตางค์ต่อลิตร ลดปัญหามลพิษและลดการเกิดอุบัติเหตุจากการขนส่งทางถนน รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับประเทศเพื่อมุ่งเป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของภูมิภาค
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังมีแผนการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก จ.สระบุรี ไปยัง จ.นครราชสีมา และขอนแก่น ระยะทาง 340 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายน 2559 และเปิดใช้บริการได้ต้นปี 2562 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 13,000 ล้านบาท ขณะที่ทั้งสองโครงการจะใช้เงินลงทุน 20,600 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนความคืบหน้าการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันกระทรวงพลังงานยังจะคงเดินหน้าพิจารณาพระราชบัญญัติปิโตรเลียมที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ และหากในอนาคตราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมหรือไม่
นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังมีแผนการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อในเส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จาก จ.สระบุรี ไปยัง จ.นครราชสีมา และขอนแก่น ระยะทาง 340 กิโลเมตร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในเดือนมิถุนายน 2559 และเปิดใช้บริการได้ต้นปี 2562 ซึ่งจะใช้เงินลงทุนประมาณ 13,000 ล้านบาท ขณะที่ทั้งสองโครงการจะใช้เงินลงทุน 20,600 ล้านบาท
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนความคืบหน้าการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้หลายฝ่ายได้วิเคราะห์ว่าราคาน้ำมันยังมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันกระทรวงพลังงานยังจะคงเดินหน้าพิจารณาพระราชบัญญัติปิโตรเลียมที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานประเทศ และหากในอนาคตราคาน้ำมันยังอยู่ในระดับต่ำจะพิจารณาอีกครั้งว่าจะมีการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมหรือไม่