ปัจจุบัน เทรนด์สุขภาพกำลังมาแรง ผู้คนต่างรักและห่วงใยในสุขภาพกันมากขึ้น มีการใส่ใจเรื่องการรับประทานเรื่องของอาหารอาหารเสริมหรือธัญพืชต่างๆ ขึ้นมามากมาย รวมไปถึงที่ธัญพืชที่กำลังมาแรงในขณะนี้ อย่างเมล็ดเจียหรือที่บางคนเรียกว่าเมล็ดเชีย ซึ่งเจ้าเมล็ดที่ว่านี้ถึงจะมีรูปร่างเล็กเหมือนเมล็ดแมงลักแต่คุณประโยชน์ไม่เล็กเลย อัดแน่นไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ ไฟเบอร์, กรดไขมันดีชนิดโอเมก้า-3 โอเมก้า-6, แคลเซียม, สารต้านอนุมูลอิสระ,โปรตีน และยังมีส่วนช่วยลดน้ำหนักได้
คุณค่าทางอาหารของเมล็ดเจีย
● - ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
● - ช่วยให้บาดแผลหายเร็ว ไม่ติดเชื้อจากบาดแผลง่ายๆ
● - ทำให้ห่างไกลจากโรคเบาหวานประเภท 2
● - ช่วยบำรุงสมองและความจำ
● - ป้องกันโรคกระดูกพรุน
● - ช่วยให้ระบบเผาผลาญพลังงานในร่างกายดีขึ้น
● - ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายให้เป็นปกติ
● - ช่วยให้ระบบย่อยทำงานได้ดีขึ้น พุงไม่ป่อง ท้องไม่ผูก
● - ช่วยให้อารมณ์ของเราดีขึ้น
● - ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย (ช่วยให้หน้าเด็ก)
แต่ถ้าคุณทานแบบผิดวิธีก็จะนำผลเสียมาสู่ร่างกายเลยทีเดียว เรามีวิธีมาแนะนำการรับประทานเมล็ดเจียกันอย่างถูกต้อง
วิธีทานเมล็ดเจีย
● ทานแบบเมล็ดแห้ง โรยบนสลัด หรือจะผสมในขนมปังอบ คุ๊กกี้ (ทานเพียงเล็กน้อย ถ้าทานเยอะไปจะท้องอืด)
● ทานแบบผสมน้ำ น้ำเปล่า น้ำผลไม้ นม น้ำเต้าหู้ ชา กาแฟ เป็นต้น (ในอัตราส่วนน้ำ 1 แก้ว เมล็ดเจีย 1 ช้อนโต๊ะ)
● ทานแบบ Chia Gel (เมล็ดเจียแช่น้ำได้เนื้อข้น) โรยหน้าโยเกิร์ตหรือผสมในสมูทตี้ก็เข้ากันดี
● สามารถทานได้ทั้งวัน ระหว่างมื้อ ก่อนอาหาร หรือทานเป็นมื้อเย็น แนะนำให้ทานเป็นประจำ
● ควรทานวันล่ะ 2 ช้อนโต๊ะ ช่วงควบคุมน้ำหนักทานได้ถึง 3 ช้อนโต๊ะ (เมล็ดแห้ง)
*สำหรับผู้ใหญ่ ควรบริโภคประมาณ 15 กรัม หรือ ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน
*สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ควรบริโภคแบบป่นประมาณ 33-41 กรัม ทุกๆ 3 เดือน
เมล็ดเจียไม่เหมาะกับบุคคลกลุ่มต่อไปนี้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในระบบกระเพาะอาหารและลำไส้
- ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคแพ้โปรตีนในธัญพืช (กลูเตน)
- ไม่เหมาะกับผู้ที่ทำศัลยกรรม และประวัติแพ้ยาแอสไพริน
- ในผู้ชาย หากรับประทานมากเกินไปอาจเสี่ยงต่อโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
- ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์
- ไม่ควรรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานาน
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตต่ำ เพราะอาจทำให้ช็อกหรือหมดสติไปได้
- ไม่ควรรับประทานร่วมกับวิตามินบี17 ติดต่อกันนานเกินไป เพราะอาจสะสมเป็นสารพิษขึ้นในร่างกาย ก่อเกิดโรคมะเร็งได้
กินเมล็ดเจียให้ได้ประโยชน์จัดเต็ม โดยไม่ต้องกังวลกับอาการท้องผูกและอาการท้องอืดอีกต่อไป เรื่องแบบนี้ต้องกินให้เป็น และควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายให้หลากหลายด้วย ไม่ใช่รับประทานเพียงแค่อย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเวลานาน จะได้สุขภาพดีอย่างแท้จริง
_________________________________________________________________
ข่าวโดย : อนงค์นาฏ ชนะกุล