การแข่งขัน Free Fire World Series (FFWS) Global Finals 2025 ศึก Free Fire ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งปี 12 ทีมพร้อมลงสนามช่วงชิงความยิ่งใหญ่ ณ Indonesia Arena กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 15 พฤศจิกายนนี้
หลังจากผ่านศึกดวลเดือดและการคัมแบ็กอันน่าทึ่งตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมเหล่านี้ได้ก้าวผ่านรอบ Knockout Stage มาได้สำเร็จ พร้อมการันตีที่นั่งในศึก Battle Royale Grand Final ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 15 พฤศจิกายน นี้ ก่อนถึงวันตัดสินแชมป์โลก แฟน ๆ จะได้รับชมความมันระอุในศึก Clash Squad Grand Final ในวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่จะเปิดเวทีด้วยการปะทะกันของ 4 ทีมชั้นนำ เพื่อชิงตำแหน่ง Clash Squad Champion อย่างดุเดือด
สิ่งที่แฟน ๆ ห้ามพลาดในสุดสัปดาห์นี้
Clash Squad Grand Final – วันที่ 14 พฤศจิกายน (เริ่มถ่ายทอดสดเวลา 17.00 น.)
สี่ทีมระดับท็อปจะลงสนามดวลกันในรูปแบบ Single Elimination เพื่อวัดทั้งความแม่นยำ ความเป็นทีมและสติในเกมสุดเข้มข้นที่ต้องใช้ทั้งความเร็วและกลยุทธ์ขั้นสูง
สี่ทีมระดับท็อป Fluxo จากบราซิล, All Gamers Global จากประเทศไทย, Heavy จากเวียดนาม และ Movistar R7 จากเม็กซิโก เตรียมลงสนามดวลกันในรูปแบบ Single Elimination เพื่อวัดความพร้อม ความแม่นยำ และการประสานงานในแมตช์สุดเข้มข้นที่ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์และสติในทุกวินาที
พิธีเปิดการแข่งขัน – วันที่ 15 พฤศจิกายน (เริ่มเวลา 17.00 น.)
พิธีเปิดการแข่งขันในปีนี้จะถ่ายทอดพลังแห่งเสียง แสง สี และวัฒนธรรมอย่างตระการตา พร้อมเปิดตัวเพลง “CRUSH DOUBTS” เพลงธีมประจำการแข่งขันประจำปีนี้ ที่สื่อถึงความกล้า ความมุ่งมั่น และจิตวิญญาณนักสู้ของเหล่าผู้เข้าแข่งขัน Free Fire ทั่วโลก
ศิลปินชื่อดังมากมายเตรียมปรากฏตัวในพิธีเปิดสุดยิ่งใหญ่ อาทิ Warren Hue ศิลปินชาวอินโดนีเซียภายใต้สังกัด 88rising, Weird Genius กลุ่มโปรดิวเซอร์อิเล็กทรอนิกส์อันดับหนึ่งของอินโดนีเซีย, JKT48 เกิร์ลกรุ๊ปขวัญใจชาวอินโดนีเซียและแบรนด์แอมบาสเดอร์ของ Free Fire ในอินโดนีเซีย รวมถึง Mick Gordon คอมโพสเซอร์และมือกีตาร์ระดับตำนานจากออสเตรเลีย
ทั้งหมดจะมาร่วมสร้างโชว์สุดอลังการด้วยเอฟเฟกต์ LED แบบไดนามิก ภาพ CGI สุดตระการตา และท่าเต้นที่เปี่ยมไปด้วยพลัง พร้อมเปิดฉากศึก Grand Finals สุดสัปดาห์นี้ในสไตล์ของ Free Fire อย่างแท้จริง โดยเนื้อเพลง “CRUSH DOUBTS” ยังถ่ายทอดเรื่องราวของการต่อสู้ ฝ่าฟัน และชัยชนะของเหล่านักแข่งมืออาชีพบนเส้นทางสู่เวทีระดับโลกอีกด้วย
Battle Royale Grand Final – วันที่ 15 พฤศจิกายน (เริ่มเวลา 17:00 น.)
ในศึก Battle Royale Grand Final เหล่าทีมชั้นนำจะดวลกันภายใต้รูปแบบการแข่งขัน Champion Rush โดยทีมที่สามารถทำ Booyah! ได้ก่อนหลังจากทำคะแนนครบ 80 แต้ม หรือทีมที่มีคะแนนรวมสูงสุดหลังจบ 10 แมตช์อันดุเดือด จะได้ครองตำแหน่ง แชมป์โลก Free Fire อย่างเป็นทางการ
12 ทีมสุดแกร่งที่ผ่านเข้าสู่รอบ Battle Royale Grand Final ได้แก่
ทีมจากประเทศไทย: Buriram United Esports, All Gamers Global, และ Team Falcons
ทีมจากประเทศอินโดนีเซีย: RRQ Kazu และ EVOS Divine
ทีมจากประเทศบราซิล: Fluxo, Team Solid, และ E1 Sports
ทีมจากประเทศเม็กซิโก: Movistar R7
ทีมจากประเทศเวียดนาม: P Esports, Heavy, และ GOW Esports
ทั้งหมดพร้อมลงสนามเพื่อตัดสินว่าใครจะขึ้นครองบัลลังก์ แชมป์โลก Free Fire ปี 2025
กิจกรรมออฟไลน์และ Watch Party รับชมถ่ายทอดสดทั่วโลก – วันที่ 15 พฤศจิกายน
แฟน ๆ ในจาการ์ตาและทั่วโลกสามารถรวมตัวกันในงาน Watch Party และกิจกรรมของคอมมูนิตี้อย่างเป็นทางการ เพื่อร่วมสัมผัสความตื่นเต้นของศึก Global Finals ไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นโซนรับชมถ่ายทอดสด บูธกิจกรรม Free Fire สุดอินเทอร์แอ็กทีฟ หรือกิจกรรมสำหรับแฟน ๆ มากมายที่จัดขึ้นทั่วโลก เพื่อเฉลิมฉลองพลังของการแข่งขันไปพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
เตรียมพบความร่วมมือ Free Fire × Digimon Adventure 17 ถึง 30 พฤศจิกายนนี้!
ในระหว่างนี้ Free Fire ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความร่วมมือกับ Digimon Adventure โดยตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน นี้ ผู้เล่นจะได้ย้อนไปสัมผัสเสน่ห์ความเป็นอมตะของแอนิเมชันภาคแรกในซีรีส์ Digimon เรื่อง "Digimon Adventure" และสามารถรับของรางวัลฟรีสุดพิเศษโดยการทำมิชชั่นในเกม เช่น หมวกของทาเครุและปาตามอน ระเบิด - พลังแห่งธรณี และไอเทมธีม Digimon อื่น ๆ
นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถค้นหา Digitama และเก็บเหรียญที่ตกแต่งในธีมอากูมอนและเก็บไข่อากูมอนได้บนแผนที่ อากูมอนและพันธมิตรที่ทุกคนรักรอคอยผู้เล่นทั่วโลกให้ร่วมออกผจญภัยครั้งใหม่สุดตื่นเต้นด้วยกัน!
FFWS Global Finals 2025: เส้นทางสู่ศึกชิงแชมป์โลก
รอบ Knockout Stage ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เต็มไปด้วยการประชันฝีมือและความแกร่งจิตใจในระดับสูงสุด ทีมอย่าง All Gamers Global, Buriram United Esports และ E1 Sports โชว์ฟอร์มเหนือชั้นในโหมด Battle Royale ด้วยกลยุทธ์สุดแม่นยำ ขณะที่ Fluxo และ All Gamers Global ต่างก็สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการแข่งขันในโหมด Clash Squad อีกครั้ง
แชมป์เก่า Fluxo ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งสุดแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น RRQ Kazu จากอินโดนีเซีย และทีมร่วมชาติอย่าง E1 Sports ที่ต่างมุ่งมั่นจะจารึกชื่อของพวกเขาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของ Free Fire
บัดนี้ เหลือเพียงสุดยอดทีมเท่านั้นที่ยังยืนอยู่บนเส้นทางแห่งเกียรติยศ ทุก Booyah! ที่ได้มา คืออีกหนึ่งก้าวที่พาพวกเขาเข้าใกล้ตำแหน่ง แชมป์โลก Free Fire มากยิ่งขึ้น
แฟน ๆ ทั่วโลกสามารถรับชมทุกจังหวะสุดระทึกได้ผ่านการถ่ายทอดสดอย่างเป็นทางการของ Free Fire ในวันที่ 14 และ 15 พฤศจิกายน ทาง YouTube, Facebook และ TikTok พร้อมคำบรรยายหลายภาษา ทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาไทย และภาษาอื่น ๆ อีกมากมาย
ติดตามข่าวสารและอัปเดตสุดพิเศษได้ทางช่องทางทางการของ Free Fire:
Website: Garena Free Fire
YouTube: Free Fire Esports TH
Facebook: Free Fire Esports TH
Instagram: Free Fire Esports TH
TikTok: FreeFireEsportsTH
สามารถดาวน์โหลด Free Fire ได้ ทาง Apple iOS App และ Google Play
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับข่าวสารวงการเกมครับ*
