เมืองแห่งอาชญากรรมในรัฐแคลิฟอร์เนีย เตรียมผ่อนผันลดโทษให้กับเครื่องเล่นเด้งลูกเหล็กภายในที่ประชุมแก้บทกฏหมายประจำเมืองเรื่องการพนันสัปดาห์นี้
แหล่งข่าวจากเว็บไซต์ San Francisco Chronicle รายงานระบุเมืองโอ็คแลนด์ กำลังจะกลายเป็นเมืองแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มประกาศยกเลิกกฏหมายแบนตู้พินบอลหลังถูกบังคับใช้มายาวนานกว่า 80 ปี หากเสียงในที่ประชุมเรื่องความปลอดภัยของสาธารณชนลงมติเป็นเอกฉันท์
โดยสาเหตุที่ทำให้หลายเมืองต่างๆในสหรัฐฯรวมทั้งโอ๊คแลนด์ ต้องแบนตู้พินบอลมาตั้งแต่ปีคศ. 1930 เรื่อยมา ก็เนื่องมาจากมันถูกมองว่าเป็นการพนัน เพราะในอดีตตู้พินบอลสมัยนั้นจะไม่มีครีบ (Flippers) ซ้ายขวาด้านล่างเอาไว้ตีลูกบอลเหล็กเด้งกลับขึ้นไป และจำเป็นต้องหยอดเหรียญเพื่อเล่นโดยที่ผู้เล่นไม่สามารถควบคุมอะไรได้คล้ายกับการเสี่ยงโชค
"ตู้พินบอลมันเป็นการใช้สกิลในแบบลวงตาที่เหมือนเกมวัดดวงส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ต่างจากการใช้เงินเล่นเกมตามงานเทศกาลต่างๆ เพราะสิ่งที่คุณทำได้มีเพียงแค่ดึงคันโยกและรอดูผลลัพธ์ว่าจะออกมาเป็นอย่างไรเท่านั้น" Michael Schiess ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ Pacific Pinball ในเมืองอาลาเมดา กล่าว
ทว่าต่อมาในยุคปี 1940 หลังจากที่มีการประดิษฐ์ครีบขึ้นมาใช้บังคับลูกเหล็ก ตู้พินบอลก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั้งๆที่กฏหมายแบนยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ จึงก่อให้เกิดคดีเป็นเรื่องเป็นราวมากมาย อย่างเช่นกรณีที่มีการประกาศสั่งปิดพิพิธภัณฑ์พินบอลและตู้อาร์เขตที่นิวยอร์กในปี 2010 ในขณะที่เจ้าของกิจการในซานฟรานซิสโกจำเป็นต้องมีใบทะเบียนในการมีตู้พินบอลเอาไว้ในครอบครอง หรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์ Pacific Pinball เองที่ต้องเอาช่องใส่เหรียญออกและเปิดให้ผู้ซื้อตั๋วเข้าชมเล่นได้ตลอด
ซึ่งการยกเลิกกฏหมายแบนในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแคมเปญใหญ่ในการอัพเดทแก้กฎหมายเกี่ยวกับการพนันของเมืองโอ๊คแลนด์ โดยจะมีประเด็นเรื่องการแบนพนันบนอินเตอร์เน็ตรวมอยู่ในนั้น ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาประชาชนชาวเมืองโอ๊คแลนด์จะเพิกเฉยต่อกฎหมายและมีการเล่นตู้พินบอลตามผับตามบาร์มาเนิ่นนานนับตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สองแล้วก็ตาม
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
sfgate
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*