xs
xsm
sm
md
lg

EGA เชื่อภายใน 3 ปีทุกหน่วยงานภาครัฐใช้คลาวด์ทั้งหมด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA
ไอซีทีและสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (EGA) ดันคลาวด์ภาครัฐเต็มตัว ติดตั้งระบบงานรองรับหน่วยงานราชการกว่า 1,000 ระบบ พร้อมเสริมระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ เตรียมตั้งไซต์สำรองเพิ่ม แก้ระเบียบจัดซื้อเซิร์ฟเวอร์ภาครัฐใหม่ ลดซ้ำซ้อน

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทด ผู้อำนวยการ สำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA กล่าวว่า ระบบคลาวด์ภาครัฐหรือ G-Cloud ที่เปิดให้บริการเมื่อ 2 ปีก่อนมีความเติบโตต่อเนื่องตลอดเวลา ปัจจุบันรองรับการทำงานไม่น้อยกว่า 600 virtual machine หรือระบบเสมือนจริงบนคลาวด์ โดยมีระบบของหน่วยงานราชการกว่า 400 ระบบ และภายในปี 2558 จะมีระบบสะสมในคลาวด์คอมพิวติ้งภาครัฐอยู่ถึง 1,000 ระบบ

'รูปแบบการใช้งานคลาวด์ของภาครัฐในปีหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปจากปัจจุบัน จากช่วงเริ่มต้นหน่วยงานรัฐทั้งหลายจะมีระบบไอทีเป็นของตนเอง และยังคงใช้ระบบงบประมาณการใช้จ่ายไอทีแบบเดิม คือ จัดซื้อจัดจ้าง เพื่อเป็นเจ้าของ และระบบไอทีที่นำมาทดลองลงในระบบคลาวด์ภาครัฐมักจะเป็นระบบสำรอง เช่น การแบ็กอัพข้อมูล เริ่มจากข้อมูลในเว็บไซต์และค่อยขยายไปสู่ข้อมูลทั่วไป นอกจากนั้นก็จะเป็นการนำเว็บไซต์ที่มีแอปพลิเคชันบางส่วนมาติดตั้ง หรือนำระบบการบริหารงานที่ไม่จำเป็นบางส่วนมาทดลองระบบ'

แนวโน้มนี้มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาหลังจากที่หน่วยงานได้ทดลองใช้ระบบคลาวด์ภาครัฐ ซึ่งพบว่าการที่ EGA มี SLA หรือข้อตกลงการบริการที่มีมาตรฐาน และสามารถใช้งานระบบได้ทันทีที่ขอใช้งานมา อีกทั้งระบบสร้างความพึงพอใจและมีการรักษาความปลอดภัยที่ยอมรับได้ ทำให้ปริมาณการขอใช้งานเพิ่มขึ้นตลอดเวลา รูปแบบการใช้งานก็มีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น โดยเริ่มมีการนำระบบการทำงานที่มีความสำคัญของหน่วยงานภาครัฐมาลงมากขึ้น มีการนำระบบบริการใหม่ๆ ที่เป็น e-service มาใช้งานมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันใหม่ๆ ทั้งระบบโมบายล์และเว็บเบสแอปพลิเคชันที่มีความซับซ้อนก็เพิ่มเติมเข้ามาตลอดเวลา ตรงตามเป้าหมายที่ EGA ตั้งใจไว้

ดร.ศักดิ์กล่าวว่า สิ่งที่เห็นการเปลี่ยนแปลงในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาคือ หน่วยงานรัฐขนาดใหญ่จะไม่สามารถขยายระบบไอทีของตนเองออกไป ระบบใหม่จะมาอยู่บนคลาวด์ภาครัฐ ขณะเดียวกันก็จะลดค่าใช้จ่ายในด้านการดำเนินงานบริหารระบบไอทีของตนเองลง สุดท้ายก็จะปรับเปลี่ยนระบบเดิมของตนเองมาอยู่บนคลาวด์ และหันไปทำหน้าที่ด้านการพัฒนาแอปพลิเคชันอย่างจริงจังแทน ขณะที่หน่วยงานเล็กๆ ที่ไม่เคยมีระบบไอทีมาก่อน ก็สามารถดำเนินการระบบไอทีของตนเองได้ทันที และแนวโน้มการใช้งานจะขยายเพิ่มเติมมากขึ้น ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มตามไปด้วย ซึ่งทั้งหมดจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีภาครัฐลงประมาณ 300 ล้านบาท ในขณะที่มี 30% ของหน่วยงานที่ใช้งานระบบคลาวด์ภาครัฐ และเชื่อว่าภายใน 3 ปีทุกหน่วยงานต้องใช้คลาวด์ทั้งหมด

ในส่วนของงบประมาณของการจัดทำระบบคลาวด์ภาครัฐ ปีแรกอยู่ที่ 100 ล้านบาท ปีที่ 2คือ 300 ล้านบาท ปีหน้าจะอยู่ที่ 600-700 ล้านบาท ซึ่งจะเพิ่มตามปริมาณการใช้งานจริง และคาดว่าจะทำให้ประหยัดงบประมาณภาครัฐในอัตราเท่าตัวจากงบประมาณที่ใช้ และจะทำให้บริการภาครัฐสู่ประชาชนมีมากขึ้น หลากหลายขึ้น เร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สำหรับแนวทางการพัฒนาระบบคลาวด์ภาครัฐในส่วนของเทคโนโลยีนั้น ทาง EGA จะมุ่งเน้นสร้างระบบให้มีความปลอดภัยที่สุด เนื่องจากคลาวด์เป็นระบบใหม่ มาตรฐานการจัดการยังไม่มีองค์กรรองรับมากนัก ขณะเดียวกันทาง EGA ได้ก่อตั้ง CSA ประเทศไทยขึ้นมา และฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยเป็นรายแรกของประเทศไทย ดังนั้นจึงมีความจำเป็นที่คลาวด์ภาครัฐของ EGA จะต้องเป็นต้นแบบทางด้านนี้เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรมคลาวด์ทั้งระบบ

ในปลายปีนี้ EGA จะเริ่มลดความเสี่ยงด้านภัยคุกคามโดยใช้ระบบรักษาความปลอดภัยแบบใหม่ นั่นคือ 1. ระบบ two factor authentication ซึ่งจะเป็นการล็อกอินโดยการใช้รหัสผ่าน 2 ชั้น เช่นเดียวกับที่ธนาคารใช้อยู่ในปัจจุบัน จากเดิมที่เป็นการใช้รหัสผ่านชั้นเดียว หลังจากนั้นจะพัฒนาเป็นระบบ One Time Password หรือใช้รหัสผ่านเดียว ทำให้การจะเข้ามาจัดการเครื่องบนคลาวด์ของหน่วยงานภาครัฐทั้งหมดจะต้องเข้าผ่านช่องทาง OTP เท่านั้น ถือเป็นการลดช่องทางที่แฮกเกอร์เข้ามาเจาะระบบได้ และเป็นการยืนยันตัวบุคคลของผู้ดูแลระบบ หรือแอดมินจริงๆ โดยใช้โทรศัพท์มือถือเป็นตัวแสดงตัวตน (authen) ซึ่งในช่วงต้นจะมีผลกระทบต่อหน่วยงานเดิมที่เข้ามาใช้บริการ เพราะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ แต่จะสร้างความมั่นคงและปลอดภัยมากขึ้น

ระบบที่ 2 encryption storage service เนื่องจากการใช้ระบบคลาวด์ในปัจจุบันเป็นการแบ่งปันพื้นที่ ในเซิร์ฟเวอร์หนึ่งตัวอาจมีหลายบริการของภาครัฐอยู่ด้วยกัน โอกาสที่ผู้ดูแลระบบ หรือแอดมินของแต่ละแห่งสามารถเห็นข้อมูลของบริการนั้นๆ ยังเป็นไปได้อยู่ ดังนั้นทาง EGA จะทำการเข้ารหัสอีกรอบ ซึ่งขณะนี้ระบบคลาวด์ปกติจะยังไม่ทำวิธีการนี้เพราะสิ้นเปลืองงบประมาณ แต่จากเทคโนโลยีใหม่และบุคลากรของ EGA จะทำให้นำระบบนี้มาใช้ได้อย่างสร้างความเชื่อมั่น นำไปสู่การเข้ารหัสทั้งสตอเรจ ซึ่งต้องใช้พลังงานจำนวนมากมารองรับ

เรื่องที่ 3 คือ จัดทำ Certificate ร่วมกับ CSA ให้ชื่อว่า Cloud Star โดยจะเป็นการสอบใบประกาศของกลุ่ม CSA ซึ่งจะมีพื้นฐานมาตรฐานมารองรับหลายชนิด ครอบคลุมทุกด้านของผู้ให้บริการ ทั้งเทคนิค, กฎหมาย, จริยธรรม, SLA, การมอนิเตอริ่ง หรือการเฝ้าระวัง ต่างจากมาตรฐาน ISO อื่นๆ ที่จะเน้นเฉพาะด้านใดด้านหนึ่ง ตำแหน่งของมาตรฐาน Cloud Star จะถูกจัดวางให้เหนือกว่านั้น เพราะครอบคลุมทั้งหมด

สำหรับแนวทางในอนาคตของระบบคลาวด์ภาครัฐคือ การจัดตั้งระบบคลาวด์สำรอง หรือ DR site (Disaster recovery) ซึ่ง EGA จะคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการรับมือความเสี่ยงภัยในทุกรูปแบบ ทั้งตัวพื้นที่ที่มีลักษณะภูมิประเทศที่แข็งแรง มีภัยธรรมชาติน้อย และปลอดการเมือง โดยทาง EGA จะจัดกลุ่มลูกค้า หรือหน่วยงานภาครัฐที่มีเงื่อนไขด้านความปลอดภัยสูง ตั้งแต่การใช้ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก และห้ามพลาดหรือเป็นระบบที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ ฯลฯ ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดสร้างอีกระยะหนึ่ง

การดำเนินการด้านนี้จะทำให้ Asia Cloud Computing Association หรือ ACCA ซึ่งจัดทำสำรวจ Cloud Readiness Index ทุกปี ต้องประเมินสถานภาพคลาวด์ประเทศไทยใหม่อีกครั้ง หลังจากล่าสุดมีการสำรวจประจำปี 2014 และให้ไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของเอเชีย ขยับขึ้นมาถึง 4 อันดับ ถือเป็นการติด Top 10 ครั้งแรกของไทย โดยปัจจัยในครั้งล่าสุดที่มีผลมากที่สุดคือ การดำเนินนโยบาย G-Cloud ของ EGA ซึ่งถ้า EGA เร่งดำเนินการปรับปรุงเรื่องความเสี่ยงทางด้านความปลอดภัยมากขึ้นในปีนี้ ก็จะทำให้อันดับของไทยจะเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นไปอีก

สำหรับแผนงานเชิงนโยบาย EGA อยู่ระหว่างการลงรายละเอียดร่างมาตรฐานการใช้งบประมาณไอทีภาครัฐร่วมกับสำนักงบประมาณ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่ของบประมาณด้านการจัดซื้อเซิร์ฟเวอร์ใหม่โยกมาใช้ระบบคลาวด์ภาครัฐได้ทันที โดยจะมีการนำร่องใช้งานในปีงบประมาณหน้า ซึ่งเท่ากับการของบประมาณที่จะทำแผนในขณะนี้ก็จะต้องเข้าข่ายนี้แล้ว คาดว่าการบังคับใช้เช่นนี้จะทำให้ระบบไอทีที่ไม่ใช่ระบบใหญ่แบบ Critical หรือจำเป็นอย่างยิ่งยวดจะถูกย้ายเข้ามาสู่ระบบคลาวด์ภาครัฐทั้งหมด

Company Related Link :
สรอ.

CyberBiz Social



Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket Photobucket
กำลังโหลดความคิดเห็น