หลังจากสิ้นกระแสการโจมตีวีดีโอเกมของสื่อมวลชน ตามประสาไฟไหม้ฟาง วงการเกมก็กลับมาสู่สภาวะปกติอีกครั้ง ความจริงบทความนี้มีกำหนดคลอดช่วงที่เหตุการณ์เด็ก(ตรงไหนอายุก็ 19 แล้ว )ฆ่าแท็กซี่เพื่อชิงทรัพย์ แต่ติดเหตุการณ์บ้านเมืองเราที่ไม่ปกติเสียก่อน และช่วงนั้นก็มีบทความเกี่ยวกับเกม GTA อยู่เต็มไปหมด จึงต้องเลื่อนมา
ก่อนอื่นก็ขอเกริ่นก่อนว่า ถ้าใครติดตามบทความของผู้เขียนมานาน ก็จะทราบว่าผู้เขียนเล่นเกมสายนินเทนโด ที่ไม่นิยมความรุนแรง และเคยเป็นหนึ่งในผู้ที่ต่อต้านเกมที่มีความรุนแรงมาโดยตลอด แต่เมื่อได้สัมผัสตัวเป็นๆของเกมเจ้าปัญหา(หรือเปล่า)อย่าง GTA4 ถึงกับวางจอยไม่ลงและขอปวารณาตัวเป็นแฟนเกมนี้ทันที ส่วนคนที่เป็นแฟนเกมนี้มานาน คงไม่ต้องบอกถึงความสนุกสมจริงของเกม GTA ที่สร้างโลกอิสระ โดยเราสามารถที่จะทำอะไรก็ได้ ภายใต้เมืองจำลองขนาดมหึมา
ตามที่คนทั่วไปเห็น เกมนี้อาจเหมือนเป็นเครื่องจำลองการก่ออาชญากรรม เพราะภาพที่ปรากฏออกไปสู่สาธารณะ มักจะมีแต่ภาพความรุนแรงในเกม ,การขับรถไล่ชน หรือไล่ฆ่าคน ซึ่งความจริงแล้ว เนื้อหาในเกมไม่ได้เป็นเช่นนั้น เกมนี้แทบจะต้องเล่นด้วยความระมัดระวังที่จะไม่ทำผิดกฎหมายถ้าไม่จำเป็น และการต่อสู้หรือประหัตประหารกันก็อยู่ในภารกิจที่เกมกำหนดมาเท่านั้น ความจริงบทความนี้ไม่ได้จะมาบอกว่าเกม GTA นั้นมีเนื้อแท้อย่างไร เพราะคอเกมคงรู้หมดแล้ว แต่ใครจะรู้บ้างว่า เกมนี้ก็แฝงข้อคิดดีๆไว้ในเกมเช่นกัน
เมื่อเล่นไปแบบไม่กดข้ามคัตซีน ก็จะพบว่านี่คือภาพยนตร์แก๊งสเตอร์มาเฟียดีๆเรื่องหนึ่งที่เราบังคับได้ ตัวละครมีภูมิหลังและมีชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะตัวเอก Niko เป็นอดีตทหารจากอดีตสหภาพโซเวียตที่มีบาดแผลในใจ หนีความอดยากในบ้านเกิดมาล่าหาความฝันใน Liberty City ที่แม้จะเขาอาจไม่ใช่คนดีอะไร แต่เมื่อต้องรับงานฆ่าคน เขาก็ยังถามว่าทำไมถึงต้องฆ่าเพราะเขาไม่อยากทำถ้าไม่จำเป็น ตรงนี้เกมได้เฉลยปมในใจว่าในอดีตสมัยเป็นทหาร เขาเคยถูกบังคับให้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ จึงไม่อยากทำอะไรแบบนั้นอีก
จนถึงในบางภารกิจที่ท้ายที่สุดเรา(ผู้เล่น)จะเลือกไว้ชีวิตเหยื่อ หรือฆ่าทิ้งเหมือนหมาข้างถนนก็ได้ เกมนี้เหมือนเปิดโอกาสให้วัดใจของผู้เล่นว่า มีจริยธรรมในใจแค่ไหน เพราะถึงแม้มันจะเป็นแค่เกม แต่ภาพในเกมที่สวยสมจริง และ A.I. ในเกมที่เหมือนคนจริงๆมาก การที่เห็นคนร้องขอชีวิตด้วยท่าทางที่สมจริง การยิงคนทิ้งจึงอาจต้องคิดในบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่แล้ว คนที่ฆ่าตามภารกิจ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกอันธพาล ,ค้ายา และแก๊งกวนเมือง ไม่มีภารกิจไหนให้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ อันเป็นหนึ่งในจิตวิทยาในเกมสร้างเกม และการประกอบอาชีพในด้านมืด ทำให้ตัวเอกยิ่งถลำลึกลงไป โดยในบางภารกิจที่เหมือนโดนหลอกใช้ให้ไปทำอาชญากรรมที่รุนแรงขึ้นๆ
เมื่อลงลึกถึงรายละเอียดของผู้คนที่เกี่ยวข้องกับ “โลกด้านมืด” ในเกม GTA4 ที่แม้จะร่ำรวย มีบ้านหลังใหญ่โต แต่หาได้มีความสุขไม่ บางคนก็ครอบครัวแตกแยก นอกจากนี้เกมยังสื่อให้เห็นถึงชีวิตของตัวละครต่างๆในเกมที่ต้องระวังตัวตลอดเวลา ทั้งต้องระวังผู้รักษากฎหมายแล้วยังต้องระแวงว่าจะโดนหักหลังจากพวกเดียวกันอีกด้วย เพราะเมื่อหมดผลประโยชน์กัน การสั่งเก็บกันเองเกิดขึ้นตลอดการเล่นเกม รวมถึงการมีอำนาจมากๆ ทำให้คนเปลี่ยนไป เรื่อยไปจนถึงการบ้าอำนาจที่ไม่ยอมปล่อยวาง (เหมือนบางคน) จนต้องพบจุดจบที่น่าเศร้า
ส่วนตัวเอกเอง แม้ว่าภารกิจส่วนใหญ่จะเป็นการกำจัด “คนเลว” ที่อาจเรียกได้ว่าสมควรตายแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตัวเอกก็ไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินว่าใครดีใครเลว ดังนั้นจุดจบของตัวเอกในเกมนี้จึงไม่ได้สวยหรูเหมือนเกมอื่นๆ ที่ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็จะพบกับเลือดและน้ำตาทั้งสิ้น แล้วแบบนี้ถ้าคุณเล่นจบเกมในส่วนของเนื้อเรื่องแล้ว คงไม่มีใครอยากไปเป็นอาชญากรอย่างตัวเอกหรอก จริงมั้ย? ปัญหาคือ เด็กที่เล่นเกมนี้แล้วไปก่อปัญหาคือพวกที่กดสูตรเพื่อความสะใจหรือเล่นในภาคออนไลน์มากกว่า
อย่างไรก็ตามที เกมนี้ยังคงเหมาะสมกับผู้ที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้น เพราะถ้าเด็กกว่านี้ คงยากที่ผู้เล่นที่ยังไม่พร้อมจะ ค้นหาสิ่งดีๆสอนใจที่มีอยู่มากมายในเกมที่ถูกตราหน้าว่าเป็น “อาชญากร” อยู่ดี ความจริงผู้เขียนไม่เห็นด้วยกับการแบนเกมนี้แบบ 100% เท่าไร เพราะมันทำไม่ได้แน่นอนยังไงก็มีช่องทางหามาเล่นจนได้ ดังนั้นการจัดเรตติ้งเกมอย่างจริงจังจากภาครัฐจึงน่าจะเป็นทางออกในการมีอยู่ของ เกม GTA มากกว่า และอยากให้ผู้ที่ไม่เคยลองเล่นดู เพราะเกมนี้อาจมีข้อคิดดีๆมากกว่าที่คุณคิด
วงศกร ปฐมชัยวัฒน์ Darth.vader