xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวปลอม! ข้าวหมากช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากที่มีการโพสต์เกี่ยวกับข้อความว่าข้าวหมากช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงว่าข้าวหมากที่ทำจากข้าวเหนียวดำจะได้ประโยชน์มากกว่าข้าวเหนียวขาว เพราะมีสารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ซึ่งยังไม่พบการวิจัยเรื่องข้าวหมากสามารถช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้

วันนี้ (1 มิ.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลประเด็นสุขภาพเรื่องข้าวหมากช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากที่มีการโพสต์ในสื่อโซเชียลโดยระบุว่า ทำความรู้จักข้าวหมาก หมักจนมีประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ ทางสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบข้อมูลและชี้แจงว่า ข้าวหมากทำจากข้าวเหนียวขาวหรือข้าวเหนียวดำ นำไปหมักกับลูกแป้งข้าวหมากซึ่งเป็นแหล่งของยีสต์ (Saccharomyces cerevisiae และ Candida species) กับรา (Aspergillus species, Rhizopus species และ Mucor species) ให้เปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลและเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์ Saccharomyces cerevisiae เป็นโพไบโอติกส์ ช่วยให้การย่อยในลำไส้มีประสิทธิภาพ 
อย่างไรก็ตาม ข้าวหมากที่ทำจากข้าวเหนียวดำจะได้ประโยชน์มากกว่าข้าวเหนียวขาว เพราะมีสารแอนโทไซยานินซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์สำคัญ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอการเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ซึ่งยังไม่พบการศึกษาวิจัยเรื่องข้าวหมากสามารถช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ และหากรับประทานมากจะทำให้ได้รับพลังงานสูงเกินความจำเป็น

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารสำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามได้ที่ https://nutrition2.anamai.moph.go.th/ หรือโทร 02 590 4328

บทสรุปของเรื่องนี้คือ : ยังไม่พบการศึกษาวิจัยเรื่องข้าวหมากสามารถช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ และหากรับประทานมากจะทำให้ได้รับพลังงานสูงเกินความจำเป็น

หน่วยงานที่ตรวจสอบ สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข


กำลังโหลดความคิดเห็น