xs
xsm
sm
md
lg

‘The Great Flood’ หนัง Netflix ทุน 3 หมื่นล้านวอน โดนถล่มหนัก หุ้นบริษัทเอฟเฟกต์ดิ่ง นักลงทุนช็อก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หนัง Netflix ทุน 3 หมื่นล้านวอน ‘The Great Flood’ เจอเสียงต้านหนัก นักลงทุนช็อก หุ้นบริษัทเอฟเฟกต์ร่วงแตะจุดต่ำสุด

ภาพยนตร์เกาหลีฟอร์มยักษ์ของ Netflix เรื่อง The Great Flood ซึ่งใช้งบสร้างสูงราว 30,000 ล้านวอน (ประมาณ 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) กำลังเผชิญกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในเกาหลีใต้ ส่งแรงสั่นสะเทือนไปไกลกว่าความเห็นผู้ชม จนกระทบถึงตลาดหุ้นและนักลงทุนโดยตรง

หลังจากภาพยนตร์ถูกถล่มรีวิวเชิงลบ หุ้นของบริษัท M83 ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบงาน CG และวิชวลเอฟเฟกต์ให้กับเรื่องนี้ ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากเผชิญความเสียหายที่แทบเรียกได้ว่าสูญเงินลงทุนทั้งหมด

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์เกาหลี (Korea Exchange) ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม หุ้น M83 ปิดตลาดที่ 8,950 วอน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียน และลดลงเกือบครึ่งหนึ่งจากราคา IPO ที่ 16,000 วอน สร้างความผิดหวังอย่างหนักให้กับนักลงทุนที่เคยคาดหวังว่า The Great Flood จะเป็นแรงหนุนสำคัญต่อการเติบโตของบริษัท

M83 เป็นบริษัทสื่อและความบันเทิงที่เชี่ยวชาญด้าน CG และ VFX สำหรับภาพยนตร์และซีรีส์ โดยเพิ่งเข้าตลาด KOSDAQ เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก่อนการฉายหนัง นักวิเคราะห์ในอุตสาหกรรมเคยมองว่าโปรเจกต์นี้จะเป็น “ตัวเร่ง” สำคัญของบริษัท แต่ผลลัพธ์กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง

The Great Flood ออกฉายบน Netflix เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม และกลายเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างความแตกแยกทางความเห็นมากที่สุดของปีในเกาหลีใต้ เสียงตอบรับจากผู้ชมมีตั้งแต่ “ดูไม่ถึง 30 นาทีก็ต้องปิด” ไปจนถึง “รู้สึกเหมือนถูกหลอก” ขณะที่คะแนนบนแพลตฟอร์ม Naver กระจุกตัวอยู่ที่คะแนนต่ำสุด 1 ดาว และสูงสุด 10 ดาว จุดกระแสถกเถียงดุเดือดในโลกออนไลน์

ภาพยนตร์เล่าเรื่องของ “กู อันนา” นักวิจัย AI (รับบทโดย คิมดามี) ที่ต้องเอาชีวิตรอดพร้อมลูกชายในอพาร์ตเมนต์ที่ถูกน้ำท่วม หลังเกิดมหาอุทกภัยทั่วโลกจากการชนของดาวเคราะห์น้อย แม้จะถูกโปรโมตในฐานะหนังภัยพิบัติเอาชีวิตรอดสุดระทึก แต่ผู้ชมเกาหลีจำนวนมากกลับรู้สึกว่าเนื้อหา “ไม่ตรงปก”

นักวิจารณ์ชี้ว่า สื่อประชาสัมพันธ์ ทั้งโปสเตอร์และตัวอย่างหนัง ที่เน้นภาพตึกจม น้ำท่วม และการดิ้นรนเอาชีวิตรอด ทำให้ผู้ชมคาดหวังหนังภัยพิบัติสไตล์เกาหลีคลาสสิกในแนว Haeundae, Tunnel หรือ Exit แต่เมื่อเรื่องดำเนินไป โทนของหนังกลับหันไปเน้นแนวคิดด้านปัญญาประดิษฐ์และโลกจำลองอย่างหนัก

ความเปลี่ยนแปลงของแนวทางดังกล่าวทำให้ผู้ชมจำนวนไม่น้อยสับสนและผิดหวัง เสียงบ่นอย่าง “คิดว่าจะเป็นหนังภัยพิบัติ แต่กลับกลายเป็นคนละเรื่อง” ปรากฏซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลายคนถึงขั้นมองว่าเป็น “การเสียเวลา”

อย่างไรก็ตาม กระแสต้านในประเทศกลับสวนทางกับผลตอบรับในระดับโลก โดย Netflix ระบุว่า The Great Flood ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Global Top 10 ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศ และครองอันดับสูงสุดใน 54 ประเทศ รวมถึงเกาหลีใต้ สเปน บราซิล กาตาร์ และไทย อีกทั้งยังติด Top 10 ในกว่า 93 ประเทศ สะท้อนความสนใจจากผู้ชมทั่วโลก

นักวิเคราะห์มองว่า ความแตกต่างนี้สะท้อนให้เห็นว่าผู้ชมเกาหลีมีความอ่อนไหวต่อ “ความคาดหวังด้านแนวหนัง” เป็นพิเศษ เมื่อสิ่งที่ได้รับไม่ตรงกับภาพจำจากการโปรโมต ความผิดหวังจึงทวีคูณ และส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนอย่างรุนแรง





กำลังโหลดความคิดเห็น