“โบว์ เบญจวรรณ” เล่าโมเมนต์ “แบงค์ พชร” ขอเป็นแฟน รับไลฟ์สไตล์ต่างกันแต่ยอมเปิดใจเพราะแพ้ความใส่ใจและโรแมนติก ขอบคุณที่เข้ามาในชีวิต อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย ฝ่ายชายอยากให้เป็นรักครั้งสุดท้าย
โดนจับตาความสัมพันธ์มาพักใหญ่ ล่าสุดนักแสดงสาว “โบว์ เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์” ก็ออกมาเปิดใจเป็นครั้งแรก ถึงความรักครั้งใหม่กับ “แบงค์ พชร ปัญญายงค์” ผ่านทางรายการ คุยแซ่บshow ช่องOne31 พร้อมเผยจุดเริ่มต้นความรัก ที่แม้ไลฟ์สไตล์จะต่างกันแต่สุดท้ายก็แพ้หัวใจตัวเอง เป็นความรักที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกปลอดภัย คบแล้วแฮปปี้ เข้ากับลูกๆ ของฝ่ายชายได้เป็นอย่างดี
“เราจะมีคนรู้จัก รู้จักกับโบว์ แล้วรู้จักกับพี่เขามานานมาก ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทั้งคู่โสด แล้วโสดมาเกือบสองปีแล้ว ก็เลยโอเคมีพี่คนนี้น่ารักมากเลยนะ แล้วเขาก็ไปบอกกับพี่เขา ว่าน้องก็น่ารักนิสัยดี ลองเจอกันหน่อยไหม ตอนนั้นก็โอเคเปิดใจที่จะคุย เราไม่ได้รู้สึกปิดกั้นตัวเอง ก็ลองไปเจอดู วันแรกที่ไปเจอ 8 คนที่ไปเจอ คือฝั่งเขา 4 คน ฝั่งเรา 4 คน ก็กินข้าว เมาธ์มอยกันมากกว่า ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมาย เพราะว่าตลอด 3 ชั่วโมงที่นั่งกินข้าว คุยกัน เขาแทบจะไม่ได้พูดกับโบว์เลย
ไม่แน่ใจว่าเค้าเขินหรือเปล่า แต่พอมันไม่ได้คุยกันขนาดนั้น บรรยากาศมันรีแล็กซ์ดี มันไม่ได้มีความคาดหวังซึ่งกันและกัน เราก็ชิลไป นั่งเมาธ์มอยกับเพื่อนเขา”
เจอครั้งแรก ฝ่ายชายดูแบดๆ
“ลุคเขาจะมีความแบด เท่ๆ คือโบว์ไม่ได้รู้จักพี่เขา แต่เท่าที่ฟังมา เขาเป็นคนซูเปอร์เอ็กซ์โทรเวิร์ต เพื่อนเยอะ เจอเพื่อนทีนึงคือกลุ่มใหญ่ (ตรงข้ามกับเราไหม?) ใช่ เราจะมีเพื่อนกลุ่มของเรา เราแฮปปี้อยู่แค่นี้
เราเป็นคนชอบอยู่บ้าน ไม่ค่อยชอบไปไหน ก็จากที่ฟังก็คิดว่าไลฟ์สไตล์อาจจะต่างกันเกินไป เหมือนเป็นการเจอกัน โดยไม่ได้คาดหวัง โบว์ว่าเขาเองก็เหมือนกันไม่ได้คาดหวัง เพราะดูไลฟ์สไตล์ต่างกัน โบว์เองก็กินมัง ไม่ได้เที่ยว ไม่ได้ดื่มอะไร ค่อนข้างเข้าวัดบ่อย ก็เหมือนค่อนข้างต่างกัน”
หลังจากนั้นก็ยังไม่ได้มีการคุยกัน
“ยังค่ะ เพื่อนเขาที่นั่งอยู่อยู่ด้วยกัน ชวนไปกินข้าวที่บ้าน ชิลๆ หลังจากนั้นประมาณสองสัปดาห์ เราก็โอเคไปก็ได้ เรารู้สึกว่าวันนั้นที่เจอพี่ๆ เขา ทุกคนน่ารักมาก เราก็โอเค ก็ไปที่บ้านเขา ไปตั้งแต่ 14.00 น. น่าจะเพิ่งเริ่มคุยกับโบว์ 17.00 น. มั้ง (เค้าคุยอะไร?) ยังไม่ได้คุย แต่เทกแอ็กชั่น เพราะตอนนั้นพระอาทิตย์เริ่มตก
อันนี้เป็นโมเมนต์ที่น่ารัก พระอาทิตย์เริ่มตก แล้วเหมือนแสงมันแยงตา เขาก็สังเกตุเห็น ไปหาหมอนมาพยายามบังให้แสงไม่โดนหน้าเรา แต่เพื่อนเขาก็ช็อตฟีล ถามว่าทำอะไรทำไมไม่ปิดม่าน จากนั้นก็เริ่มคุยกัน
ซึ่งวันนั้นเพื่อนเขามาเยอะกว่าวันแรก รวมๆ 10 กว่าคน ต่างคนก็ต่างแบบใครนะ น้องเขาเป็นอะไร เราก็เริ่มรู้สึกคนเยอะจังเลย ทำตัวไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่ เราจำ 3 คนวันแรกได้ แต่นี่มาอีกเยอะเลย สัก 18.00 น. หรือ 19.00 น. ก็ขยับมานั่งข้างโบว์แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ได้นั่งข้าง เพื่อนๆ ก็นั่งกินข้าว เขาก็หันไปหาพี่ไอซ์ (ผู้จัดการ) ขออนุญาตจีบโบว์ได้ไหมครับ เราก็โอเคลองแลกคอนแท็กต์ดูก็แล้วกัน”
วันนั้นแบงค์ไม่ยอมให้กลับบ้าน
“ด้วยความที่เราไปตั้งแต่ 14.00 น. พอ 20.00 น. ถึงเวลาแล้วล่ะ อยู่นานพอแล้ว โบว์ก็มีกิจวัตรประจำวัน ช่วงนั้นโบว์จะเดินจงกรม เช้า เย็น โบว์ก็คิดแล้วต้องรีบกลับตอนนี้ แต่พอจะกลับปุ๊บ รถของเพื่อนเขาช็อต แล้วจอดอยู่หน้ารถโบว์ ต้องรอรถยกมา
โบว์ก็ดูเวลา 21.00 น. แล้ว เดี๋ยวกลับถึงบ้านมันไม่ได้ทำภารกิจแน่เลย ณ จุดจุดนั้น ถ้าเขาอยากรู้จักเรา ก็ให้เขารู้จักเราร้อยเปอร์เซ็นต์เลย รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็แล้วแต่ พี่นั่งชิลล์กันตามสบายเลยนะคะ เดี๋ยวโบว์มา เขาก็ถามว่าไปไหน เดี๋ยวไปเดินจงกรมริมระเบียง”
ฝ่ายชายถึงกับช็อกที่บอกว่าไปเดินจงกรม
“ก็ช็อกนิดหนึ่ง จริงๆ เขาอึ้ง เพื่อนเขาหันมาถามว่า ไหวเหรอวะ แล้วประเด็นคือ มันเกิดขึ้นหลังจากที่เขาขอพี่ไอซ์ ก็เป็นไปตามนั้นไปก่อน (พี่แบงค์เขาว่าอย่างไรพอเพื่อนบอกว่าไหวเหรอวะ?) อึ้ง แล้วทำหน้าช็อกใส่เพื่อนๆ ไป
หลังจากนั้นเริ่มมีคุยกัน เขามาเล่าให้โบว์ฟังหลังจากที่เจอกันครั้งแรก เขารู้ตัวเองไม่ได้เฮลตี้ 100% เขาเคยป่วยมา ไม่แน่ใจว่าสุขภาพเขาเป็นอะไร เขาก็เลยไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะมาเจอเรารอบที่สอง เพราะถ้าเขาป่วย เขาคงไม่อยากมาคุยกับเรา พอเขาไปตรวจ ทุกอย่างอยู่ในเกณฑ์ดี เขาถึงตัดสินใจ”
ตกใจฝ่ายชายไปตรวจสุขภาพก่อนมาขอคบกัน
“ตอนแรกก็แบบ... พี่ป่วยขนาดนั้นเลยเหรอ เพราะการที่ไปตรวจสุขภาพก่อนที่จะมาคุยกับเรา มันดูซีเรียสมาก ก็เลยเริ่มคุยกันมากขึ้นเรื่องสุขภาพว่าเขาเป็นยังไง ที่มาที่ไป ก็ตกใจอยู่ ก็รู้สึกว่าเขาค่อนข้างทุ่มเทในการดูแลตัวเองมากขึ้นหลังจากที่เราได้คุยกัน”
หลังจากเจอกันครั้งที่สอง เริ่มคุยกันลึกขึ้น โตแล้วคุยแบบตรงๆ ไปเลย
“ใช่ค่ะ เหมือนเราอายุมากพอที่จะคุยตรงๆ ได้แล้ว เราไม่อยากเสียเวลา เราคุยกันไปเลยว่าเป้าหมายเป็นยังไง ทัศนคติเป็นยังไง ก็คุยแบบกว้างๆ ไปเลย เราจะไม่มานั่งลองดู ว่าเธอคุยกับฉันได้หรือเปล่า ก็คุยกันตรงๆ ไปเลย แล้วเขาก็เป็นคนที่ค่อนข้างตรงมาก อยากรู้อะไรเขาก็ถาม มีอะไรก็บอก โบว์รู้สึกว่ามันมีความใกล้เคียงกัน ในทางกลับกัน ผมมีนิสัยแบบนี้ มีกิจวัตรแบบนี้ ผมมีลูกด้วยนะ เรามีการพูดถึงดีเทล ก็ต้องดูว่าเราโอเคไหม แล้วเขาโอเคกับเราไหม ก็ค่อนข้างลึกอยู่”
แบงค์เคยไม่สบาย เราไม่รู้ว่าการหายหรือไม่หายจะร้อยเปอร์เซ็นต์ไหมใน ถ้าเป็นผู้หญิงบางคนอาจจะติดว่าถ้าคบกันไปแล้วเขาไม่สบาย จะรับไม่ได้ แต่ทำไมเราโอเคกับสิ่งที่แบงค์เป็น?
“ตอนแรกคิดไหมอยู่ดีๆ ถ้าปุบปับเกิดขึ้นจะยังไง คุยกันสักพักแล้วมันกลับขึ้นมา เราจะรับมือกันได้ไหม แต่สุดท้ายก็คิดว่าอนาคตเป็นอย่างไรเราก็ไม่รู้หรอก แต่ ณ วันนี้ เราโอเค ก็เอ็นจอยเดอะโมเมนต์ไป มันน่าจะดีกว่า ถ้ามัวไปเครียด เดี๋ยวมันจะแย่กว่าเดิม บอกว่าหลายอย่างมันทำให้เราคิดด้วย ก็เลยลองเปิดใจดู (สุขกับปัจจุบัน?) ใช่ค่ะ”
แบงค์ใส่ใจ และโรแมนติกมาก ทำให้ยอมเปิดใจ
“โบว์ว่าในความใส่ใจที่เขามี เขาเป็นคนโรแมนติกมาก ซึ่งเราก็ยังไม่เคยเจอคนที่มีความโรแมนติกขนาดนี้ เขาค่อนข้างใส่ใจ ตั้งแต่วันที่สองที่เราคุยกัน เราพูดถึงน้องของโบว์คนนึง เขาเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ เราก็เลยบอกว่าน้องเป็นเจ้าของร้านดอกไม้นะ เผื่ออยากสั่งดอกไม้อะไรบอกได้นะ
เขาบอกว่าดอกไม้เหรอเดี๋ยวไม่กี่วันมันก็เหี่ยว แต่โบว์ชอบ มันสดชื่นดี ต่อให้เขาอยู่ได้ 5 วัน มันก็สดชื่น แล้วก็พูดถึงดอกไม้ที่โบว์ชอบ หลังจากนั้นประมาณสัก 3 วัน เขาส่งช่อใหญ่มาให้เลย ซึ่งเราก็เซอร์ไพรส์เหมือนกัน ยูไปแลก LINE กันตอนไหน ไปจัดการแล้วมาเซอร์ไพรส์ หลังจากนั้นอีกอย่างนึงที่โบว์รู้สึกว่ามันเป็นความโรแมนติก เหมือนโบว์ป่วย ต้องกินยา พวกยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ มันทำให้เราเบลอ สิ่งที่เขาส่งมา คือกระป๋องออกซิเจน เขาส่งมาเป็นลัง”
ฝ่ายชายส่งดอกไม้มา พร้อมมีกลอนติดมาด้วย
“ทุกเดือนเขาจะมีติดการ์ดมาให้ มีความน่ารัก คือเราอ่านก็จะมีความแหม่ (แต่เราก็ชอบ?) ใช่ เขาทำประจำในความใส่ใจ ดูแล เขาไม่ได้แค่ใส่ใจโบว์ เขาใส่ใจคนรอบข้างของโบว์ด้วย มันดูตัดกับคาแรกเตอร์เขามาก จริงๆ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างอ่อนโยนมาก โบว์รู้สึกว่าเวลาได้อยู่กับเขา ได้คุยกับเขา โบว์รู้สึกเซฟ”
แบงค์บอกกับโบว์ว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ลองให้โอกาสความรัก
“โบว์ว่าหลักๆ น่าจะเป็นเรื่องสุขภาพของเขาด้วย จริงๆ เขาก็มีแพสชั่นของเขา เขามีหน้าที่ของเขาอยู่แล้ว ที่เขาอยากจะโฟกัสเต็มที่ แต่พอเขามีเราเข้ามา โอเคหรือจะลองให้โอกาสตัวเองอีกที ตอนแรกเหมือนจะกดดันเราจะเป็นคนนั้นเลยเหรอ แต่พอได้คุยกันแล้ว โบว์เข้าใจเขานะ เขาเป็นคนเต็มที่ รู้สึกว่าเขาทำอะไรเขาเต็มที่มากๆ เราเองก็เป็นคนที่เต็มที่เหมือนกัน ก็เลยเข้าใจเขา แต่ละคนคบกันก็อยากให้เป็นคนสุดท้ายจริงๆ”
คุยกัน 2 เดือนถึงตกลงเป็นแฟนกัน
“คุยกันประมาณสัก 2 เดือน พอได้คุยกันบ่อย คุยกันทุกวัน ก็รู้สึกว่ามีหลายอย่างมากที่เราใกล้เคียงกัน ทั้งคู่เป็นคนที่ศรัทธาในความรัก ตั้งใจรักมาก ใส่ใจมากๆ ทุ่มเต็มที่ ก็เลยรู้สึกว่าประมาณนี้มันค่อนข้างชัดเจน อย่างที่บอก โบว์รู้สึกว่าโบว์เป็นตัวของตัวเองได้ เวลาอยู่กับเขา โบว์เซฟ รู้สึกปลอดภัย
เขาซัปพอร์ตโบว์ทั้งความรู้สึก เขาปกป้องโบว์ในวันที่เราต้องการการปกป้อง เขาทำทุกอย่าง เรารู้สึกว่ามันเป็นอย่างนี้เอง การที่เราจะได้รับความรักดีๆ โดยที่เราไม่ต้องขอ หลังจากนั้นประมาณสัก 2 เดือน เขาขอ ก็เลยตกลง”
แบงค์ขอโบว์เป็นแฟนที่ไอซ์แลนด์
“ใช่ เราก็รู้แหละ ตอนแรกเขาบอกว่าต้องขอกันด้วยเหรอ เราก็บอกว่าต้องทำให้ชัดเจน ไม่ใช่มาตีความกันเอง เราไม่อยากคิดไปเอง เขาก็เลยขอตรงหน้าน้ำตก แบบเป็นแฟนกันนะ (ไม่มีรูปอัปเดตตอนขอเป็นแฟนเลยหรอ?) มีแต่ไม่ลง
จริงๆ โบว์กับพี่เขาไม่ได้คบกันแบบความลับนะ คนรอบตัว ครอบครัว รู้หมด เพียงแค่เราอยากให้เป็นไพรเวตช่วงหนึ่งก่อน ให้เราได้รู้จักกันมากกว่านี้ ให้คนรอบตัวเขารู้จักเราในแบบที่เป็นเราก่อนที่เราจะไปประกาศ”
แก๊งเพื่อนช่วยสแกนตั้งแต่แรก
“เขาเริ่มดูตั้งแต่เราบอกแรกๆ แล้ว ว่าคุยกับพี่คนนี้ เพื่อนทุกคนเหมือนจะรู้จัก เพราะอาจจะอยู่ไทยมั้ง เขาน่าจะรู้จักว่าทำงานอะไรมาก่อน โบว์ก็เอ๊ะทำไมถึงรู้จัก เพราะเราเองก็แบบ... บอกว่าอาจจะทำงานคนละสายอาชีพ เลยไม่เคยได้ยินชื่อเขาเลย เพื่อนๆ ก็ไปทำหน้าที่เป็นนักสืบ ถามใครก็ได้ที่พอจะรู้จัก ว่าพี่คนนี้เป็นอย่างไร ซึ่งทุกคนบอกว่าพี่เขาน่ารัก เขาจริงจังมาก แล้วเขาใส่ใจมาก เขาเป็นคนที่ดีมาก แต่ก็งงเหมือนกันว่าสืบทำไม”
ได้เจอลูกๆ ของแบงค์ทั้งสองคนแล้ว
“เจอแล้วค่ะ เด็กๆ น่ารักมากเลยค่ะ แต่ว่าการเข้าหาลูกชายของพี่เขาช่วงแรกค่อนข้างมีกำแพง ด้วยความที่อายุก็โตแล้ว ก็จะมีความเข้าถึงยาก ด้วยความที่เราเป็นผู้หญิงด้วย เราจะต้องยังไงนะ ส่วนลูกสาวจะง่ายหน่อย
แต่ว่าในการเข้าหาของโบว์ โบว์เข้าหาในฐานะเพื่อน โบว์ไม่ได้เข้าหาแบบจะมาทำหน้าที่แทนใคร โบว์เป็นตัวของตัวเอง เพราะการที่เขาจะโอเคหรือไม่โอเค ให้เขาเป็นคนตัดสินเอง คุณเห็นเราเป็นเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเราเอ็นจอยด้วยกัน เราทำกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งโบว์ก็ทำแบบนั้นตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ เราไม่ทำอะไรที่มันเกินหน้าที่”
ทุกวันนี้สนิทกันดี แต่กว่าจะสนิทต้องใช้เวลา
“ลูกสาวพี่เขาไม่นานมาก แต่กับลูกชายต้องใช้เวลาสักพักหนึ่ง คือเขาจะมีความคิดของเขาว่าเป็นยังไง แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากๆ (บอกกับเด็กๆ ใช่ไหมว่าเราไม่ได้มาแทนที่ใคร เรามาเป็นเพื่อนกัน แล้วก็เป็นแฟนคุณพ่อ?) อาจจะไม่ได้พูดกับเขาโดยตรง แต่เราแสดงให้เห็น แต่เราก็มีการพูดกับพี่ของพี่แบงค์เหมือนกัน ว่าโบว์มาในฐานะเพื่อนนะ โบว์ทำได้ประมาณนี้ แล้วโบว์แฮปปี้ที่จะทำแบบนี้ มันน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ทั้งหมด”
เจอครอบครัวของแบงค์แล้ว
“เจอค่ะ ด้วยความที่โบว์อยู่กับครอบครัวค่อนข้างเล็ก เจอทีนึงก็อึ้ง ว้าว แอบเครียดอยู่ช่วงหนึ่ง ใครเป็นใครบ้างนะ คนนี้มาจากฝั่งไหน โบว์เป็นคนจำชื่อคนยากมาก แบบไม่ค่อยเก่ง เรากลัวทำตัวไม่ถูก เพราะเราไม่รู้ว่าภาพของเราเป็นแบบไหนในความคิดเขา ก็เหมือนเดิมเราก็จะเป็นตัวเรา เขาจะแฮปปี้หรือไม่แฮปปี้กับเราก็ให้เขาเป็นคนตัดสินใจในสิ่งที่เขาเห็นดีกว่า”
หลังเปิดตัวคบกันก็มีกระแสดรามาตามมา
“คือเหตุผลหนึ่งที่โบว์ใช้เวลานานมากกว่าจะลงรูป พี่เขาเหมือนอยากลง พอลงปุ๊บเป็นข่าว (มีคนมาโจมตี?) ใช่ คือส่วนใหญ่จะไปทางพี่เขามากกว่า จะไปพูดถึงพี่เขาในทางลบเยอะ โบว์แค่รู้สึกว่า แต่ละคอมเมนต์ไม่น่ารักเลย
โบว์แค่เป็นห่วงความรู้สึกเขา และเราเป็นห่วงความรู้สึกของลูกเขามากๆ เหมือนกัน เพราะเด็กอยู่ในวัยที่เขาสามารถเข้าถึงโซเชียลได้แล้ว เราเป็นห่วงความรู้สึกทางนี้มากกว่า โบว์บอกพี่เขาเสมอ ยูมีคนที่รักยูเยอะมาก คนที่รู้ว่ายูเป็นคนยังไง เขารัก เขารู้ ว่ายูน่ารักขนาดไหน คนที่พูดถึงยูส่วนใหญ่ เขาไม่ได้รู้จักยูเลย เข้มแข็งเอาไว้
โบว์ว่าเขาเป็นห่วงคนในครอบครัวเขามากกว่า เขาค่อนข้างสตรอง และรับมือได้ แต่เราก็ไม่รู้ว่าลึกๆ ข้างในเขารู้สึกอย่างไร แม้กระทั่งเราเป็นคนอ่านเรายังรู้สึกว่าการที่โดนขนาดนี้มันโอเคเหรอ บางอันก็ค่อนข้างแรง โบว์ว่าคนในครอบครัว หรือเพื่อนสนิทเข้ามาอ่านไม่มีใครแฮปปี้กับสิ่งที่ได้อ่าน”
อยากขอบคุณแบงค์ที่เข้ามาในชีวิต
“อย่างแรกเลยต้องขอบคุณที่เข้ามาในชีวิตของโบว์ ทำให้ตัวโบว์ ครอบครัวโบว์แฮปปี้ แล้วได้เห็นโบว์เป็นโบว์จริงๆ แม่กับพี่ชายโบว์ไม่เคยเข้ามาถามเรื่องความสัมพันธ์ของโบว์เลย แต่ครั้งนี้เขาเข้ามาบอกว่าพี่เขาดีมากเลย แม่เห็นหนูแฮปปี้ แม่อยากเห็นหนูเป็นแบบนี้มานานมาก
ซึ่งฟีดแบกนี้โบว์ได้จากเพื่อนทุกคน ขอบคุณมากที่ทำให้โบว์เป็นโบว์ในทุกวันนี้ แล้วยอมรับโบว์ในแบบที่โบว์เป็นจริงๆ คอยซัปพอร์ต และสนับสนุนความรู้สึกที่ดีมากๆ แล้วทำให้โบว์รู้สึกปลอดภัยตลอดเวลา ทุกการซัปพอร์ตที่พี่ให้โบว์ โบว์ก็จะให้พี่เช่นกัน”
