โจดี ฟอสเตอร์ ให้สัมภาษณ์แบบไม่กลัวทัวร์ลง กับการยอมรับว่าตัวเอง "หน่าย" กับพฤติกรรมของคนยุค Gen Z โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องมาทำงานด้วยกัน
นักแสดงหญิงเจ้าของรางวัลออสการ์ให้สัมภาษณ์กับ เดอะการ์เดียน ถึงข้อสังเกตที่เธอสังเกตเห็นในหมู่คนรุ่น Gen Z บางคน ซึ่งเป็นกลุ่มที่เกิดหลังปี 1996 และจนถึงปี 2010 ซึ่งเธอเคยร่วมงานด้วย
โจดี ฟอสเตอร์ ยอมรับตรง ๆ ว่าคน Gen Z “น่ารำคาญมาก" โดยเฉพาะถ้าต้องมาทำงานด้วย
โจดี ฟอสเตอร์ ที่ปัจจุบันอายุ 61 ปียกตัวอย่างพฤติกรรมว่าคน Gen Z สามารถเลือกที่จะมาทำงานสายด้วยเหตุผลง่าย ๆ ประเภทที่ว่า "ไม่มีฟิลล์" หรือเวลาทักท้วงเรื่องการไวยากรณ์เวลาเขียนอีเมล ก็มักจะมีข้ออ้างทำนองว่า "ไม่เห็นต้องทำอะไรโดยมีข้อจำกัดแบบนั้นเลย"
“น่ารำคาญมาก" โดยเฉพาะในที่ทำงาน” ฟอสเตอร์กล่าว “พวกเขาแบบว่า 'ไม่ วันนี้ฉันไม่รู้สึก ฉันจะเข้าไปตอน 10.30 น.' หรือในอีเมล ฉันจะบอกพวกเขาว่าทั้งหมดนี้ผิดไวยากรณ์ ใช่ไหม ตรวจสอบการสะกดของคุณ? และพวกเขาก็แบบว่า 'ทำไมฉันถึงทำแบบนั้น ไม่ใช่การจำกัดแบบนั้นเหรอ'”
ในฐานะที่เติบโตมาในวงการบันเทิง เพราะรับงานแสดงตั้งแต่ยังเด็ก โจดี ฟอสเตอร์ บอกว่าตัวเองจะพยายามสอนอะไรคนรุ่นใหม่เสมอ เพราะรู้ว่าการโตมาในวงการนี้มันยาก"
ซึ่ง โจดี ฟอสเตอร์ บอกว่านักแสดงรุ่นใหม่ต้อง "เรียนรู้วิธีผ่อนคลายบ้าง พยายามอย่าไปคิดอะไรมากเกินไป และคิดให้ออกว่าตัวเองเป็นใครกันแน่" ฟอสเตอร์ บอกว่าตัวเอง "สามารถช่วยนักแสดงรุ่นใหม่ ในการค้นหาตัวเองให้เจอ ซึ่งสำหรับการรับบทนำแล้ว การปล่อยความกดดันต่าง ๆ เอาไว้ข้างหลังบ้าง มันจะสนุกกว่าเยอะ"
และหนึ่งใน Gen Z ที่ โจดี ฟอสเตอร์ ชื่นชมคือนักแสดงชาวอังกฤษ เบลลา แรมซีย์ ซึ่งแสดงนำใน “The Last of Us” ถึงขั้นที่ โจดี ฟอร์สเตอร์ ขอให้แรมซีย์มาเป็นคนกล่าวแนะนำเธอในงาน Women in Hollywood ของนิตยสาร Elle ในปีล่าสุดด้วย
โจดี ฟอสเตอร์ ที่เข้าวงการตั้งแต่ 3 ขวบ และอยู่ในวงการมาถึงเกือบ 60 ปี เพิ่งจะได้รับคำชมจากบทสมทบใน “Nyad” ภาพยนตร์ชีวประวัติของ Netflix นอกจากนี้เธอยังแสดงนำในฤดูกาลที่สี่ของ “True Detective” ทางช่อง HBO ซึ่งออกอากาศในวันที่ 14 มกราคมด้วย