xs
xsm
sm
md
lg

“กรรชัย” ถามให้เอง “ท่านชาดา” คอท่านเป็นอะไร ดีดมั้ย เติมมาหรือเปล่า?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ชาดา ไทยเศรษฐ์” ชี้ หมายังไม่กล้าตี นี่เหรอผู้มีอิทธิพล! โต้ดีด คองึกๆ งักๆ เพราะอดนอน-เครียด ป่วย ไม่หวั่นถูกปรามาส แบบนี้หรือจะมาปราบผู้มีอิทธิพล?

รายการโหนกระแส ออกอากาศวันที่ 14 ก.ย. 66 “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ดำเนินรายการ ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 สัมภาษณ์ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังได้รับภารกิจใหญ่ให้มาปราบปรามผู้มีอิทธิพล

กังวลใจมั้ย?
ชาดา : ไม่กังวลใจครับ พูดแบบชาวบ้านเขาพูดวิพากษ์วิจารณ์กัน ก็ถูกฝาถูกตัว (หัวเราะ) อันนี้ต้องเข้าใจอย่างนึงว่าผมก็เคยโดนขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพล ก็อยากจะบอกกับทุกคน แต่ผมผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ตร.ตรวจสอบมาถึงทุกวันนี้ ผมก็ได้รับการยอมรับจากพี่น้องประชาชน ให้มาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมาอยู่รวมในรัฐบาลในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งผมก็ต้องรับนโยบายจากท่านนายกรัฐมนตรี จากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้มาดำเนินการเรื่องนี้ และผมก็ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว อยากพูดตรงๆ เลยว่าผมเคยเป็นผู้มีอิทธิพล เคยกลิ้งมาแล้ว

ยอมรับว่าเคยเป็นผู้มีอิทธิพล ฉะนั้นเห็นไส้เห็นพุง รู้ไส้รู้พุงผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย?
ชาดา : ผมก็ถูกรัฐ ตร.ตรวจสอบมา แต่สิ่งสำคัญอยากบอกไว้ว่า ไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกในประเทศนี้ เรื่องอิทธิพล มีทั้งด้านดีและไม่ดี ถ้าคุณมีอิทธิพลแล้วทำงานเพื่อบ้านเพื่อเมือง ใช้อิทธิพลช่วยเหลือประชาชน อันนี้ยอมรับได้ เหมือนผู้นำทางจิตวิญญาณแล้วเป็นคนดี มีอิทธิพลกับคนทั่วไป เขาก็นำพาไปสิ่งที่ดี แต่ถ้าอิทธิพลด้านร้ายในโลกปัจจุบันยอมรับกันไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่จะมาท้าทายอำนาจรัฐ มันไม่มีใครใหญ่กว่าประตูคุกหรอกครับ อันนี้ยอมรับไม่ได้

ตัวท่านเองก็ยอมรับว่าเคยเป็นผู้มีอิทธิพล คำว่าผู้มีอิทธิพลจำกัดความจากตรงไหน เป็นกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. อบจ. นักการเมืองท้องถิ่น หรือเจ้าพ่อ?
ชาดา : ถ้าในระบบราชการ ก็มี 16 ฐานความผิดที่อยู่ในลักษณะที่เขาจัดเข้ามาเป็นผู้มีอิทธิพล แต่ปัญหาคือเราเคยทำบัญชีผู้มีอิทธิพลมาหลายครั้งแล้ว และวันนี้เจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลตายไปเยอะแยะแล้ว อีกประการ กำนัน ปกครองท้องที่ ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องกำนันนกมาแล้ว กำนันจะเลวร้ายทุกคน ต้องให้ความเป็นธรรมกับกำนันทั่วประเทศซึ่งมี 7 หมื่นกว่าคน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรมีเป็นแสน ก็ย่อมมีคนดีบ้างไม่ดีบ้าง เพียงแต่ว่าต้องมาพูดคุยกัน ไม่ใช่คนเป็นกำนันเลวร้ายไปหมด คำว่าผู้มีอิทธิพลตีความได้กว้างมาก มีบัญชีอยู่แล้ว ส่วนนึงล้มหายตายจากไปบ้าง ในระบบใหม่ต้องมาตรวจสอบว่ามีใครบ้าง ถามว่าผมมาทำงานนี้ ผมมาด้วยความตั้งมั่น ไม่ใช่ทำงานตามกระแส แต่ผมจะสร้างระบบตรวจสอบแล้วก็ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจรัฐอีกแล้ว โดยเฉพาะคนที่อยู่ในกระทรวงมหาดไทย หรือใครก็ตามในประเทศนี้จะมาท้าทายอำนาจรัฐแบบนี้ไม่ได้ คุณผิดกฎหมายก็ผิดไป ตร.ก็ทำไปตามระบบ แต่คุณมายิงตร. ทำร้ายตร.ซึ่งเป็นคนของรัฐ เขาไม่ผิดด้วย ยอมให้เกิดขึ้นในประเทศนี้อีกไม่ได้แล้ว

ท่านมีรายชื่อหรือยังทั่วประเทศ ว่าจังหวัดนี้ มีคนนี้ หรืออำเภอนี้มีคนนี้?
ชาดา : ในระบบราชการเขามีรายชื่ออยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่บอก ก็ล้มหายตายจาก

กำนันนก มีมั้ย ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมั้ย?
ชาดา : อันนี้ผมไม่ทราบ แต่ผมว่าไม่มี เพราะกำนันนกเพิ่งเป็นกำนันไม่กี่ปีเอง อายุเพิ่ง 30 กว่าๆ

ไม่ใช่เจ้าพ่อ แต่เป็นผู้มีอิทธิพลรุ่นใหม่?
ชาดา : มันเป็นตัวอย่างนึง ที่อยากมองในหลักการ เราอย่าไปพูดถึงเลยผู้มีอิทธิพล ต่อไปนี้จะทำอย่างไร เฝ้าระวังอย่างไร ทำอย่างไรให้เกิดคนแบบนี้ขึ้นในสังคมไทยอีก อันนี้สำคัญนะครับ คนที่ท้าทายอำนาจรัฐ รังแกประชาชน ต้องไม่เกิดขึ้น ก็ต้องเป็นการร่วมมือกัน ระหว่างอำเภอ กระทรวงมหาดไทย กับสำนักงานตร.แห่งชาติ สำนักงานตร.แห่งชาติเขามีข้อมูลอยู่แล้ว เราก็กลับมาทบทวนข้อมูลกันใหม่ แล้วก็มาดูว่าตรงกันมั้ย ไม่ตรงกันจะอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ผมเองบอกได้เลย ถ้าให้ผมพูด ผมพูดแบบชัดเจนเลยนะ หยุด พวกคุณพอแล้วนะ อย่ามีอย่างนี้เกิดขึ้นอีก ถ้ามี รับรองได้ว่าองค์กรของรัฐไม่ปล่อยคุณไว้ แล้วเราจะไม่ให้แค่ติดคุก สังคมคุณ เพื่อนฝูงคุณ ครอบครัวคุณเดือดร้อนแน่นอน

เอาหมดเลย?
ชาดา : องค์กรจะเข้าไปตรวจสอบ เหมือนที่ตอนนี้กำลังทำกับกำนันนก ดีเอสไอก็เข้าไปตรวจสอบ อย่างที่กำนันเต้งโวยวาย แต่ปัญหาคือเรื่องแบบนี้ ถ้าคุณทำแบบนี้ต้องลงไปทุกองคาพยายพ ลงไปกระหน่ำเลย ผมก็ให้ความเป็นธรรมกับกำนันนกนะ แล้วก็สงสารครอบครัวเขา คนที่เสียชีวิตถูกตร.วิสามัญไป อันนั้นก็จบไปแล้ว เขาถูกลงโทษไป แต่ครอบครัวเขาไม่ได้ผิดนะ พี่น้องเขาไม่ได้ผิด แต่ถามว่าเขาเดือดร้อนมั้ย เขาอาจเดือดร้อน กำนันนกทำในสิ่งไม่สมควรจะด้วยอะไรก็ตาม อาจไม่รู้หรืออะไรก็ตาม แต่เรื่องแบบนี้ถ้าเกิดขึ้นแล้วทุกหน่วยราชการต้องลงไป ต้องตรวจสอบภาษี ตรวจสอบบริษัท ตรวจสอบสังคมคุณทำอะไรบ้าง อันนี้ต้องลงไปรุม เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจเกินไป ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตร.มันรับไม่ได้เลยจริงๆ ตร.ก็รับไม่ได้ ที่อยากบอกอีกอย่าง วันนี้สารวัตรเสียชีวิตไปแล้ว มีสารวัตรอีกคนที่เจ็บ ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นใครยังไง สังคมอาจไม่รู้ เขาอาจโดดไปช่วยสารวัตรที่เสียชีวิต อันนี้ก็ต้องเชิดชูคนดี ที่สำคัญสารวัตรเขามีลูก มีครอบครัว ลูกเขาทราบว่าอายุ 6 ขวบ วันนี้สังคมดูแลลูกเขามั้ย เขาเป็นตร.น้ำดี ทำดี ในสำนักงานตร.แห่งชาติก็มีดูแล บำเหน็จบำนาญอะไรก็ว่าไป แล้วเห็นว่าจะตั้งมูลนิธิ แต่ถามว่าอีก 10 ปีข้างหน้า ผมเคยเป็นลูกกำพร้ามาผมรู้ อีก 10 ปีข้างหน้า เด็กคนนี้ลูกหลานเขา ลูกท่านสารวัตรต้องภูมิใจในสิ่งที่พ่อเขาทำ เป็นวีรบุรุษเลยก็ว่าได้ แล้วถ้าเกิดเขาลำบากล่ะ ไม่มีพ่อ เงินทองไม่มีล่ะ ผมว่าสังคมต้องโอบอุ้มเขา อยากให้นักข่าวช่องไหนก็ได้ เปิดรับบริจาคเพื่อสนับสนุนชีวิตเด็กคนนี้ให้มีชีวิตอยู่ได้ตลอดระยะเวลายาวนานในอนาคตของเขา ไม่ใช่วันนึงขัดสนแล้วน้อยใจอะไรขึ้นมา แล้วเขามาบอกว่าพ่อไม่น่าแสดงตนเป็นคนดีเลย เสียชีวิตไปเขาลำบาก ถ้าแบบนั้นสังคมผิดมหันต์ เราต้องยกย่องคนดีสิครับ ทำลายคนไม่ดี ก็ต้องยกย่องคนดีขึ้นมาด้วย ผมสงสารลูกเขามาก เราไม่รู้ฐานะเขาเป็นยังไง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องโอบอุ้มให้เขาได้ภาคภูมิใจไปตลอดชีวิต

กรณีกำนันนก ทำไมเขาถึงเป็นผู้มากอิทธิพล ที่มาที่ไปที่ท่านทราบเป็นยังไง?
ชาดา : ต้องมองพื้นฐานก่อน คุณพ่อกำนันนกเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านและทำมาหากินมา ผมได้ยินชื่อมาบ้างแต่ไม่เคยเจอกัน วงจรไม่มาเจอกัน คุณพ่อเขาก็มีพื้นฐานทำมาหากิน เป็นคนโอเคนะ หลายคนที่ผมถามเขาบอกนิสัยดี ไม่มีอะไร มาถึงช่วงกำนันนก เหมือนมารับช่วงต่อ ทั้งธุรกิจและเรื่องมารับตำแหน่งกำนัน ก็ต่อเนื่องมา แต่เขาเพิ่งเข้าสู่วงการไม่เท่าไหร่ ถ้าพูดตรงๆ ถ้าองค์กรของรัฐไม่ไปส่งเสริมหรือสนับสนุนในเรื่องไม่ดี เขาคงไม่โตอย่างทุกวันนี้หรอก เราต้องพูดความเป็นจริง คนพวกนี้จะเติบโตไม่ได้ ทีนี้บางคนไม่รู้หรอกว่ากำนันนกเป็นยังไง ตร.ที่ไปวันนี้อาจไปหาข่าวก็ได้ มีหลายคนที่อาจไปหาข่าว หรืออะไรก็ตาม ผมเรียนว่าต่อไปนี้องค์กรของรัฐต้องเฝ้าระวัง อย่าบอกว่าทำบัญชีผู้มีอิทธิพลเลย เพราะผู้มีอิทธิพลมีทั้งด้านบวกด้านลบ บางคนอิทธิพลดี บางคนอิทธิพลไม่ดี สิ่งสำคัญคือต่อไปนี้ต้องเฝ้าระวัง โดยท่านนายอำเภอ ผู้กำกับต้องประสานกัน ถ้าดูว่าคนนี้ทำท่าจะไปใหญ่แล้วนะ ก็ต้องจัดการ

ผกก.ไปนั่งกินอยู่ที่บ้านเขาด้วยนี่สิ?
ชาดา : อันนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา ผมไม่ทราบเขาไปด้วยอะไร เชิญไปหรือเปล่า ถ้าเชิญก็ต้องไป อย่างวันเกิดที่มีผู้การหรืออะไร เขาทำมาหากินถูกต้องตามที่เราเห็น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตร. ก็มีหลายระบบ มีจิตวิทยา มีการสืบทราบ มีการสอบสวน บางทีถ้าไม่ไปก็ไม่รู้ว่าเป็นยังไง ก็ต้องเข้าใจ แต่สิ่งสำคัญงานเลี้ยงผมไม่เท่าไหร่ แต่อย่าไปส่งเสริมสนับสนุนเรื่องทำผิดกฎหมายก็แล้วกัน ผมว่าไปงานเลี้ยงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่ไปแบบนี้ไม่รู้มีงานอะไร แต่อย่าไปสนับสนุนหรือส่งเสริม ไม่ใช่คนไปทั้งหมดเป็นคนเลว หรือข้าราชการทั้งหมดที่ไปเป็นคนไม่ดี ไม่ใช่นะครับ แต่ปัญหาคือเราอย่าไปส่งเสริม ต่อไปนี้ระบบใหม่ผมไม่ได้แคร์เรื่องบัญชีผู้มีอิทธิพล เราจะทำยังไงไม่ให้ผู้มีอิทธิพลเกิดขึ้นอีกแล้วในประเทศนี้

ทำยังไง?
ชาดา : มันทำได้ พูดถึงอิทธิพลด้านร้ายนะ ก็เป็นเรื่องที่ส่วนอำเภอกับโรงพัก ผู้ว่าฯ ผู้การต้องเฝ้าระวังและตรวจดู ทำท่าไม่ดีก็ต้องมีการปราบปราม แต่สิ่งสำคัญสำหรับผมเอง คุณผิดกฎหมายก็จัดการกันไปตามระบบ แต่คุณท้าทายอำนาจรัฐไม่ได้ การท้าทายอำนาจรัฐยิงตร. รัฐมนตรีช่วยก็ยิงได้ถ้าอย่างนี้ (หัวเราะ) มันเกินเลยไป ต้องไม่เกิดขึ้นในประเทศนี้อีก คนที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตร. หน่วยราชการต้องลงไปจัดการ มันหนักหนา

มีคนเสนอแนะ หลายคนมองว่าตำแหน่งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จริงๆ ควร 4 หรือ 5 ปีสักที อย่าให้อยู่ถึงอายุ 60 ปี?
ชาดา : สังคมไทยอย่าเล่นกระแสแบบนั้น ถามว่า 4 ปี 5 ปีเคยมีแล้วเกิดอะไรขึ้น เกิดความแตกแยกในสังคม วุ่นวายหมด วันนี้มีเลือกตั้งหลายเลือกตั้งแล้วนะ แต่ต้องมองว่ากำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นคนปกครองท้องที่ เป็นคนที่ต้องดูแลแทนอำเภอที่ลงไปดูแลพี่น้องประชาชน ถ้าเลือกทุก 4 ปีที่ผ่านมาคือแตกกันเละเทะหมด นายกอบต.มีคู่แข่ง นายกอบต.ชนะ นายกอบต.อยู่ในสำนักงานอบต. คู่แข่งที่แพ้ไปอยู่นอกอบต.แต่ผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้านเลือกมาเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็เลือกกำนัน เลือกตั้งเสร็จแล้วยังนั่งประชุมกันทุกเดือน คิดว่าความแตกแยกจะไม่มีเหรอ ถึงเลือกกำนันโดยตรงก็แตกแยกแน่นอน เลือกตั้งเป็นสิ่งที่เรายอมรับในกระบวนการประชาธิปไตย แต่บางอย่างมันก็ไม่ใช่แก้ปัญหาได้ แล้วผมว่าไม่ต้องทำอะไรกัน เลือกกำนัน ผู้ใหญ่บ้านกันอยู่นั่นแหละ ทั้งที่มีเลือกนายกฯ ส.ส. เดี๋ยวจะเลือกสว.อีกแล้ว ผมมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหา เรามองดูดีมั้ยว่า 10 ปีดีมั้ย ตำแหน่งผู้ใหญ่บ้าน กำนันเท่านี้ ต้องวิเคราะห์กันให้ลึกซึ้ง อย่าคิดว่าการแก้ปัญหาโดยการเลือกตั้งกำนันผู้ใหญ่บ้าน 4 ปีมันจะแก้ปัญหาได้ ถ้ามีอิทธิพลมันก็เป็นต่ออีกนี่แหละ (หัวเราะ) ปัญหาคือหนึ่งเราต้องคัดกรองคนพวกนี้ไม่ให้เข้ามาสู่ระบบนี้ และต้องให้เกียรติกำนันทั้งประเทศ เขาก็ไม่ใช่คนเลว เสียทั้งทรัพย์ส่วนตัว เสียทั้งเวลา เขาจิตอาสาเหมือนกัน อย่ามองเลวร้าย ผมเชื่อในระบบ ถ้าระบบดี สังคมดีแน่นอน

จังหวัดไหนต้องจับตาเป็นพิเศษ เรื่องผู้มีอิทธิพล?
ชาดา : คงไปบอกแบบนั้นไม่ได้ คุณหนุ่มกำลังจะถามว่าจังหวัดอุทัยฯ ใคร

จังหวัดอุทัยฯ มีผู้มีอิทธิพลมั้ย?
ชาดา : มีแน่นอน ผมไง แต่ผมถูกตรวจสอบแล้ว เคยเดือดร้อนมาแล้วถูกค้นบ้านถูกอะไร แต่วันนี้ผมมาทำงานให้ประชาชน มันก็จบแล้ว แล้วเรียนว่าจะเริ่มปราบผู้มีอิทธิพล ผมก็ต้องดูที่บ้านผมก่อน ผมจะเริ่มจากอุทัยฯ ก่อน ต้องเรียกมาคุยก่อน เพราะไม่มีใครผิดกฎหมาย เรียกมา 70-80 กว่าคน ว่าทำตัวนิ่งๆ อยู่ให้สะอาดนะ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. ก็ลูกน้องผมทั้งนั้นแหละในอุทัยฯ ก็ต้องกวาดบ้านตัวเองก่อน เรียกมาคุยว่าเฮ้ย มึงต้องทำตัวให้สะอาด วันนี้ถ้ามีปัญหาก็เจอกัน ผมจะออกไปนอกบ้านก็ต้องดูคนในบ้านก่อน แล้วจากนั้นคงมีวิธีการไปพบแต่ละที่ แต่ละถิ่น ค่อยๆ ทำโดยอย่ามองว่ากำนัน ผู้ใหญ่บ้านเลวร้าย แต่วันนี้เราจะสร้างสังคมผู้ใหญ่บ้าน ให้สะอาด เป็นที่พึ่งประชาชนได้

ถ้าคนไม่ใช่กำนันผู้ใหญ่บ้าน?
ชาดา : นั่นขั้นตอนต่อไปครับ เราต้องคนในมหาดไทยก่อน อย่าลืมว่าผมไม่มีอำนาจจับกุมใคร เจ้าหน้าที่ตร.เป็นคนจัดการ ผมต้องประสานกับเจ้าหน้าที่ตร. นี่เราพูดถึงสิ่งที่เราทำได้อยู่ในกรอบ ผู้มีอิทธิพลมีหลายอย่าง มีที่ไม่ใช่องค์กรของรัฐ พ่อค้าเอกชนอะไรก็ตาม หรือคนที่กำลังจะทำในสิ่งที่ไม่ดี ก่อเกิดเป็นอาณาจักร เราก็ต้องร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตร. โดยเอาข้อมูลส่งให้ทางตร. ซึ่งต้องประสานกับท่านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พักหาล ว่าเราจะร่วมมือกัน คือทำขึ้นบัญชีทำมาหลายครั้งแล้ว แล้วก็ซากันไป วันนี้ที่ต้องการคือสร้างระบบที่ดีไม่ให้คนไม่ดีเข้ามาสู่ระบบ ทำยังไงไม่ให้คนผิดได้ ก็อยู่ที่มหาดไทย ต้องสร้างความมั่นใจ คัดกรองคนมหาดไทยให้ดี ซึ่งท่านนายกฯ เศรษฐาก็ให้นโยบายวันประชุมครม.มาแล้ว เรื่องอาวุธปืน เรื่องอะไรต่างๆ ประการสำคัญคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รับนโยบายจากท่านนายกฯ เศรษฐามาแล้ว ท่านอนุทิน หัวหน้าพรรคผมก็มอบให้ผมทำงาน นโยบายของท่านคือทันท่วงที ทันเวลา สั่งวันนี้ต้องเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน มีคณะกรรมการออกมาหมดแล้ว แต่ขอไม่พูดถึง มีคณะกรรมการจากหลายๆ กระทรวงและคนที่เกี่ยวข้องที่คิดว่าจะมาสร้างระบบที่ดีกันคนไม่ดี อันนี้สำคัญกว่า ไม่ใช่ชาดาปราบอิทธิพลได้ แต่หมดแค่ 4 ปี หลัง 4 ปีโผล่มาอีกเหรอ มันไม่ใช่แล้วครับ

ตอนนี้คนส่งมาเยอะมาก บอกว่าอยากเห็นฝีมือของท่านในการจัดการเรื่องวัดบางคลาน ถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลมั้ย?
ชาดา : ไม่ใช่อิทธิพล อิทธิฤทธิ์ครับ (หัวเราะ) เป็นผู้มีอิทธิฤทธิ์ ตัวเขาเองไม่มีอะไร แต่มีอิทธิฤทธิ์กับทางวัด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต้องดำเนินการ

ท่านชาดาไม่มีอำนาจไปจัดการตรงนี้?
ชาดา : ครับ แล้วเรื่องศาสนาผมต้องขออนุญาต ถ้าเป็นวัดที่อุทัยฯ จบไปแล้วครับ ไม่มีปัญหาแบบนี้หรอก

ท่านกิตติศักดิ์มาขวางไม่ให้เข้า?
ชาดา : ท่านเป็นสว. ท่านลงมาเรื่องนี้ก็ไม่รู้ ท่านมีอิทธิฤทธิ์ก็แล้วกัน (หัวเราะ)

ท่านปราบไม่ได้?
ชาดา : เป็นเรื่องมุมมองของแต่ละคน เจอกับผม ผมก็บอกว่าเรื่องวัดขออนุญาตไม่ออกความเห็น ท่านก็มีมุมมมองของท่าน แต่ก็เข้าใจว่าวัดนี้มีผลประโยชน์เยอะ มีผลประโยชน์ที่ไหนก็สู่ความขัดแย้งที่นั่น แต่จริงๆ ต้องว่ากันตามสเต็ป ขั้นตอนมีอยู่แล้ว

ขนาดบิ๊กโจ๊กลงไปเอง ยังเข้าไม่ได้เลยเจ้าอาวาส?
ชาดา : รายละเอียดเรื่องนี้ผมไม่ได้ตาม

กรอบของท่านคือกำนัน และผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับมอบหมายมา จะปล่อยให้ผู้มีอิทธิพลอยู่ในระบบแบบนี้ไม่ได้?
ชาดา : ครับผม องค์กรกำนัน ผู้ใหญ่บ้านผมว่าส่วนน้อยที่เกิดขึ้น ต้องช่วยกันดู ผมว่าเป็นเรื่องที่ต้องช่วยกันตรวจสอบ ต่อไปต้องไม่ให้เกิด ผมไม่ได้มองว่าคุณมีอิทธิพลมาจากไหนไม่รู้ แต่เรื่องแบบนี้ต้องจบ ยุคนี้เดินกันในทางที่ถูก โลกเปลี่ยนไปแล้วเป็นยุคดิจิทัล เป็นดิจิทัลเลเซอร์ไปแล้ว มันไวมาก โซเชียลเลเซอร์ไปแล้ว ไม่ใช่ไฟฉาย หรือไฟธรรมดา โลกมันเปลี่ยน คุณก็ต้องเปลี่ยนตัวเอง ถ้าระบบที่ดีคัดกรองไว้ กดคนพวกนี้ไว้ไม่ให้โต มันก็จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ แต่เราเริ่มที่กระทรวงมหาดไทยก่อน แล้วเข้าไปสู่บุคคลที่ไม่ใช่ข้าราชการ ไม่ใช่คนในกระทรวง เป็นคนทั่วไปก็ต้องว่ากันตามระบบ โดยให้จังหวัดรวมมือกับตร.อย่างใกล้ชิด ถามว่านายอำเภอต้องคุยกับผกก.ว่าไม่ไหวแล้วนะ ท่านผกก.ก็เฝ้าดูอยู่ ถ้าคนของมหาดไทยก็ค่อยว่ากัน คอยดู คอยตรวจสอบ หาทางสกัด ยับยั้ง ไม่ให้เขาทำผิดกฎหมาย ไม่ให้เขาได้เงินที่ไม่ถูกต้องมาสร้างสิ่งที่ไม่ดี วันนี้ต้องช่วยกัน ทุกเรื่องจะโยนไปให้ตร.หมดก็ไม่ได้ ตร.มีหน้าที่โดยตรง จังหวัดต้องช่วยกัน

กำนันนกมีการจัดงานเลี้ยงตร. จังหวัดอื่นก็น่ามีแบบนี้ จะมีการสั่งกำชับกำนันผู้ใหญ่บ้านว่าต่อไปห้ามทำแบบนี้ จะทำแบบนั้นมั้ย?
ชาดา : ผมว่างานเลี้ยงไปร่วมได้ แต่ไปทุกเดือน เลี้ยงอะไร สังคมเขาถาม ผมก็ถาม มีงานเลี้ยงก็ไม่แปลก ตร.ต้องไปทุกองค์กรอยู่แล้ว ไปตรวจสอบหรืออะไรก็ตาม แต่นี่เลี้ยงเฉพาะแล้วเลี้ยงทุกเดือน มันเลี้ยงอะไรกัน สังคมถาม ผมก็ถาม แต่อย่าให้พูดมากไปกว่านี้ งานเลี้ยงต้องแยกแยะ เลี้ยงทุกเดือนแบบนี้มันหนักไป เกิดขึ้นไม่ได้แล้ว ผมเชื่อว่าคนก็คงไม่ยอมรับที่จะให้เกิดขึ้นอีก เป็นงานเลี้ยงที่ไม่ดี แต่งานเลี้ยงดีๆ ไปได้ ทำไมตร.จะไปไม่ได้

ในฐานะที่ท่านเคยถูกขึ้นบัญชีว่าเป็นผู้มีอิทธิพล การเป็นผู้มีอิทธิพลต้องประดับประดาด้วยอะไร ต้องมีตร.ข้างตัวหรือมีอะไร?
ชาดา : คำจำกัดความของคำว่าผู้มีอิทธิพลมันกว้างมาก เราไม่สามารถไปบอกได้ว่าอะไรคือลักษณะผู้มีอิทธิพล แต่ปัญหาคือคุณทำดีหรือไม่ดี คุณทำดีจะไปสิบคนก็ไม่มีใครว่าอะไร ไปวัด 10 คนผิดเหรอ สำคัญที่สุดคือบุคคลคนนั้นทำอะไรอยู่ 16 มูลฐานราชการก็มีอยู่แล้วว่าทำอะไรบ้าง แล้วผมแยกอย่างนึง คนทำผิดกฎหมายคือคนทำผิดกฎหมาย คนท้าทายอำนาจรัฐเรายอมรับไม่ได้ ไม่ใช่ทำผิด 5 อย่างแล้วยังยืนอยู่ในสังคม

ต้องมีมือปืนอยู่ข้างตัวมั้ย?
ชาดา : อย่างนายหน่องนี่มือปืนแน่นอน เพราะพิสูจน์มาแล้ว ถามว่าไปกันเยอะอาจไม่ใช่มือปืนก็ได้ อย่างผมไปเยอะเหมือนกัน แต่เช็กแล้วทุกคนคือลูกหลาน ผมไม่มีคนนอก

บอดี้การ์ดได้มั้ย?
ชาดา : ก็ไปดูแลกัน ไม่จำเป็นต้องพกปืน แต่ถ้ามีเหตุอะไรดูแลผมได้มั้ย มันขึ้นอยู่กับความเป็นจริง มันต้องแยกแยะให้ออก บัญชีผู้มีอิทธิพลของรัฐ มันต้องได้รับการปรับปรุง และชัดเจน สิ่งสำคัญคือเฝ้าระวัง อย่างแรกท้าทายอำนาจรัฐ รังแกประชาชนต้องเอาก่อน ไม่รอให้เติบโตจนเรียกคนไปโน่นไปนี่ได้

คนถามกันเยอะมาก เวลาท่านออกกล้องหรือสัมภาษณ์ คอท่านงึกๆ งักๆ คนบอกว่าท่านดีด ท่านเติมมาหรือยัง หรือเพิ่งเติม ฟีลกำลังได้หรือเปล่า จริงๆ ท่านเป็นอะไร?
ชาดา : กรณีนี้ถือว่าผิดอย่างมาก มันเป็นอาการป่วยของผม กระดูกคอผมมีปัญหา ฟิล์มเอกซเรย์ก็มี กระดูกข้อ 2 ข้อ 4 เกิดจากอุบัติเหตุ สมัยผมรุ่นๆ ก็เป็นนักซิ่งมอเตอร์ไซค์ หน้าที่เป็นแผลไม่ได้ไปตีกับใคร มอเตอร์ไซค์ทั้งนั้น แล้วคอมีปัญหามาก ถามว่าช่วงนั้นที่ออกสื่อ เป็นช่วงที่ผมอดนอนด้วย ผมก็เครียดนะครับ อภิปรายวันที่ 13 เสร็จผมก็เครียด ก็เกิดอาการงึกๆ งักๆ วันเสาร์นี้ผมจะไปจ.เชียงใหม่ หมอเก่งจะฉีดยาที่คอให้ผม นัดกันไว้ 3 โมงเย็น เพื่อนผมที่เป็นหมอมา เขาก็บอกว่าคนนี้เก่งแน่ เขาจะฉีดยาเข้าที่คอเลย เพราะกระดูกที่คอ 2 ข้อมันทรุดลง ถ้าหันแล้วก้มตามหลักการ มันจะดังครืดๆ เหมือนกระดูกน้ำหล่อเลี้ยงมันแห้งหมด เพราะกระดูกขบกัน กระดูกทรุดมาขบกัน เมื่อก่อนหนักกว่านี้ นั่งก็ต้องคอยสลัดคอ แต่ตอนหลังพยายามออกกำลังกาย ทำกายภาพ แต่ถ้าอดนอนหรือเครียดจะมีอาการนั้นทันที มีอาการขึ้นโดยไม่รู้ตัว

แต่ถ้าอย่างนี้ไม่เป็น?
ชาดา : ไม่เป็น เพราะนอนหลับสบาย (หัวเราะ) แล้วช่วงหลังอภิปรายวันที่ 13 เราก็โดนเยอะ ลูกๆ หลานๆ ก็โดน ผมก็เครียด ไม่ใช่ไม่เครียด เวลาให้สัมภาษณ์ เป็นช่วงอาการหนักจริงๆ ผมเอกซเรย์ตั้งแต่เดือนม.ค. ฟิล์มเอกซเรย์ก็มีอยู่ พยายามสร้างให้กล้ามเนื้อคอแข็งแรง หมอที่รักษาประจำบอกให้สร้างกล้ามเนื้อคอ เพราะไม่ได้ออกกำลังกาย ไม่ได้อะไรเลย มันเป็นมานานหลายสิบปีแล้ว ไม่ใช่เพิ่งเป็น หมอบอกว่าไปสัก 4-5 เข็มน่าจะดีขึ้น แล้วมันเหมือนทรุด และคอเอียง ถ้าดูจากฟิล์มเอกซเรย์ กระดูกคอเอียงเห็นชัด ผมเห็นยังตกใจ หมอบอกว่าอย่าไปมองเดี๋ยวเสียบุคลิก เดี๋ยวจะอุปทาน พยายามอย่าไปคิดถึง

คนบอกว่าอยู่ในสภา ท่านชอบพูดคนเดียว?
ชาดา : พูดคนเดียวอะไร มันเอาฟิล์มมาแต่งชัดๆ ใครพูดคนเดียว คนบ้าเหรอ ใส่สมอล์ทอล์ก วันนั้นเขาอภิปรายอยู่ ผมก็ปวดคอ คำอภิปรายเขามันไม่ถูกต้อง แล้วไม่ใช่อาการที่พูดคนเดียว ผมว่าผมไม่ได้พูดกับใครนะตอนนั้น แต่สลัดคอ ใช่ วันนั้นสลัดคอ แต่ไม่ได้พูดคนเดียว

ท่านยืนถ่ายรูปจะมียึกๆ ยักๆ?
ชาดา : ก็เกิดจากคอแหละครับ

ท่านเคยท้าว่าตรวจฉี่กันมั้ย ตรวจเลือดกันมั้ย?
ชาดา : ผมท้าครับ ทุกวันนี้ก็ยังท้าอยู่ ตรวจฉี่ แล้วก็ตรวจเลือดเลย ผมกล้าท้า มากันเลย เอาในสภานี่แหละ ตรวจตัวต่อตัวเลย ใครฉี่สีม่วงก็กินฉี่ไป อยู่ดีๆ มาตรวจฉี่ผม ผมท้าให้ตรวจ ก็มาเลย ถ้าไม่ม่วงก็กินฉี่ผมนะ (หัวเราะ) แต่กับสังคมผมพร้อมตรวจอยู่แล้ว เจอที่ไหนสะกิดเลย ชาดาขอตรวจฉี่หน่อย ถ้าสงสัยผมยินดีตรวจให้เลย

ท่านจะทำระบบให้ดีเพื่อการคัดกรองไม่ให้คนไม่ดีเข้ามา แล้วระบบตรงนี้จะเป็นยังไง?
ชาดา : มันก็ต้องป้องกันเฝ้าระวังคนผิดกฎหมายก่อน นายอำเภอ ผกก. เฝ้าระวังเบื้องต้น กำนันผู้ใหญ่บ้านต้องรายงานนายอำเภอ แต่ถ้ากำนันผู้ใหญ่บ้านเป็นเอง นายอำเภอก็ต้องรายงานผกก. ถ้าไม่มีการรายงานแล้วเกิดเหตุการณ์ขึ้น คุณนั่นแหละเป็นพวกเดียวกับเขา ก็รายงานท่านผู้ว่าฯ รายการท่านผู้การ เขาจะร่วมมือกันป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งที่ในระบบเลวร้าย จะมาใหญ่โตยิงตำรวจไม่ได้แล้ว รังแกประชาชนไม่ได้ ถ้าระบบดีเอาอยู่ ส.ส.ในพื้นที่ก็ต้องดูลูกน้องตัวเองเป็นยังไง อย่างลูกน้องผม ผมก็รู้ดีชั่วยังไง

มีน้องคนนึงส่งข้อความเข้ามา บอกว่าฝากท่านตรวจสอบผู้ใหญ่บ้านต.กลวงสองนาง ที่อุทัยธานี?
ชาดา : ตำบลนี้มีหลายคน บอกชื่อมาเลย บอกหมู่มาก็ได้ ว่าหมู่ไหนตำบลนี้ รู้อยู่แล้ว

การไปดูควบคุมกำนันจะเริ่มจากอุทัยฯ ก่อน?
ชาดา : ครับ อุทัยฯ ต้องสะอาด ผมบอกไปแล้วก่อนเข้ารับการแถลงนโยบาย ผมบอกว่าพวกคุณต้องทำตัวให้สะอาด ถ้าบอกว่าเป็นพวกผม ดีเลย ผมชอบ คุณต้องโดนหนักกว่าเดิม ต้องดีมากกว่าเดิม ต้องให้ความอบอุ่นใจ ดูแลพี่น้องประชาชน และเลิกซะสิ่งไม่ดี ผมก็ต้องกวาดบ้านตัวเองก่อนไปกวาดบ้านคนอื่น

ทำไมท่านชาดา อยู่ดีๆ เป็นบ้านใหญ่ของอุทัยฯ ได้ยังไง?
ชาดา : คำว่าบ้านใหญ่ของอุทัยธานี มีมาตั้งแต่ผมยังเด็ก ปู่ผม ย่าผมไม่ได้เล่นการเมือง แต่เป็นบ้านหลังใหญ่สมัยก่อนออกจากตลาดมามีเรือนหลังใหญ่ แต่ปัจจุบันเรือนหลังนั้นรื้อออกไปแล้ว เขาก็ติดกันว่าบ้านใหญ่ เพราะหลังใหญ่

แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นอย่างนั้น คำว่าบ้านใหญ่ คือบ้านของคนที่คุมในจังหวัดนั้นๆ?
ชาดา : แต่คำว่าบ้านใหญ่อุทัยธานีไม่ใช่อย่างนั้น คำว่าบ้านใหญ่เป็นมาตั้งแต่ปู่ผม เพราะปลูกหลังใหญ่ เป็นเรือนหลังใหญ่มาก คุณปู่ผมมาจากต่างประเทศคุณย่าเกิดที่เมืองไทย ทำมาหากินท่านก็ปลูกบ้านต่อไปเรื่อย บันได 4-5 บันไดทางขึ้น เขาก็เลยเรียกบ้านใหญ่ แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นบ้านใหญ่คือนักการเมืองของจังหวัดนั้น ที่มีอิทธิพล มีพาวเวอร์มาก เป็นหลายสมัยก็บ้านใหญ่ไปหมด แต่บ้านใหญ่ที่อุทัยธานีไม่ใช่ ไปถามคนเก่าๆ ดูได้ บ้านใหญ่คือบ้านหลังใหญ่ แต่วันนี้หลังเล็กแล้ว

แต่อิทธิพลยังใหญ่?
ชาดา : ไปอยู่หลังเขาแล้ว (หัวเราะ)

เมื่อก่อนทุกคนขึ้นชื่อลือชา ไปอุทัยฯ ต้องเจอเจ้าพ่อชาดา?
ชาดา : (หัวเราะ) ตรงนี้ไม่มีใครตั้ง สื่อมวลชนทั้งนั้น มันเป็นบ้านใหญ่ที่ใหญ่ สื่อมวลชนก็ตั้งสารพัด เผมบอกว่าเจ้าพ่อต้องอยู่ศาล (หัวเราะ) มาเดินอยู่ไม่ได้ แล้วเรียนว่าเป็นคำที่คนอื่นแต่งตั้ง ผมคนอุทัยฯ เลี้ยงมากับมือ กำพร้าตั้งแต่ 7 ขวบ ไปตัดผมเขาก็ไม่เอาตังค์ ไปบ้านลุงแกะไม่เอาตังค์ ไปหาหมอจรัส ไม่เก็บเงิน ผมบอกผมมีตังค์นะ เขาบอกว่าผมเป็นลูกกำพร้า มันเป็นสตอรี่ของจังหวัดครับ ผมก็เลยถูกคนอุทัยฯ เลี้ยงมาแท้ๆ จะไปใหญ่ที่อุทัยฯ ไม่ได้ สมัยก่อนไปเมืองนอกครั้งแรกในชีวิต ซื้อรองเท้ามาสองหมื่นกว่าบาท สมัยนั้นแพงมาก เพราะผมหารองเท้าในเมืองไทยไม่ได้ เท้ามันใหญ่ ยาว ได้มาปุ๊บวางปั๊บกะว่าขึ้นบ้าน ออกมาหมาคาบไปแล้ว เหลือข้างเดียว โวยก็ไม่ได้พูดก็ไม่ได้ ต้องยอมรับ สักพักยายออกมาบอกว่าไอ้หนู รองเท้าอยู่นี่นะ ผมก็ไม่กล้าไล่กล้าตีหมา ถามว่านี่ใหญ่เหรอ (หัวเราะ) มีอิทธิพลเหรอ เป็นเจ้าพ่อเหรอ ผมใหญ่ที่ไหนก็ได้ แต่ใหญ่ในอุทัยฯ ไม่ได้ คนอุทัยฯ เลี้ยงผมมา ในเขตเทศบาลเมืองเลี้ยงผมมาตั้งแต่ 7 ขวบ
 
ถ้าคนข้ามถิ่นมา?
ชาดา : ก็ถือว่าเป็นคนอุทัยทั้งนั้น อย่างศาสนาอิสลามถือว่าต้องปกป้องแขกที่มาเยี่ยมที่บ้านเยี่ยงชีวิต จะโกรธเขาตามฆ่าเช็ดล้างกันก็ไม่รู้ แต่ถ้ามาบ้านห้ามทำร้ายแขก กรณีนครปฐม ผมใจหายมาก ถ้าเป็นอิสลามโดนกระหน่ำแน่ ไปอุทัยฯ รับรองได้ ทุกวันนี้เขาขอร้องให้ผมไปทุกวันเสาร์ เพราะมีตลาดนัดคนเดิน ไปต้องเจอชาดานะ (หัวเราะ)

เขาส่งมาบอกว่าหมู่ 8 ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ตำบลกลวงสองนาง สว่างอารมณ์ อุทัยธานี?
ชาดา : ส่งมาเลยว่าโดนอะไร จัดการให้เดี๋ยวนี้เลย

ท่านประสานกับท่านบิ๊กโจ๊กไปแล้วเรื่องการปราบผู้มีอิทธิพล ตอนนี้อยู่ในสายกับบิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เห็นว่ามีการประสานกับท่านรองแล้ว?
บิ๊กโจ๊ก : ใช่ครับ ท่านชาดาประสานผมแล้วครับ เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะท่านก็โทรคุยกับผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว กระทรวงมหาดไทยเป็นกระทรวงหลักที่เป็นนายทะเบียนอาวุธปืนทั่วประเทศ อย่าลืมว่านายอำเภอ ท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านอยู่กับกระทรวงมหาดไทยทั้งหมด ฉะนั้นการทำงานเรื่องปราบปรามผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ยิ่งท่านชาดามาช่วย ท่านเป็นนักบู๊ด้วย ผมมองว่าจะทำให้การทำงานเป็นผลขึ้นเยอะ เพราะว่าการทำงานแบบนี้ ถ้าใจไม่ถึงก็ทำไม่ได้ ต้องเรียนตรงๆ ว่าคนเก่งเยอะ แต่คนกล้ามันน้อย ท่านชาดาโตมาฝ่าฟันอะไรมาเยอะ ท่านรู้ข้อมูลเยอะ ก็คิดว่าทำงานง่าย เรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ตร.หน่วยเดียวทำลำบากครับ

เรื่องเซิร์ฟเวอร์ตอนนี้เป็นยังไง?
บิ๊กโจ๊ก : ตอนนี้กล้องมีทั้งหมด 15 จุด เรากู้มาได้แล้ว 13 จุด อย่างสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ เพิ่งรับเมื่อตอน 10 โมงนิดๆ เอาไปให้ภาค 7 ให้เพื่อให้กองปราบปรามดูวิเคราะห์ร่วมกัน ก็จะเห็นว่าใครทำหน้าที่อะไรบ้าง เหตุเกิดยังไงบ้าง ส่วนอีกสองกล้องกำลังดำเนินการกู้อยู่ ผลการกู้จะออกในวันพรุ่งนี้ เราจะใช้ภาคบ่ายวิเคราะห์ทั้งหมด เย็นจะสรุปได้ว่าใครผิดใครถูก ใครต้องดำเนินคดีเพิ่มเติม นัดให้ข้อมูลเขาในเวลาสองทุ่ม

บิ๊กโจ๊กเห็นหรือยัง?
บิ๊กโจ๊ก : ยังครับ หลักๆ ต้องให้พนักงานสอบสวนกับพนักงานสืบสวนเขาดูก่อน เป็นไปตามกฎหมายเลย เมื่อเขาวิเคราะห์เสร็จแล้วผมค่อยไปดูรายละเอียด ผมก็ฟังจากการรายงานคร่าวๆ เฉยๆ ว่าเกิดเหตุแล้วก็วิ่งแตกกระเจิง ต่างคนต่างหนี ต่างคนต่างวิ่ง

เห็นบอกว่าเมื่อวานที่ลงไปทั้งหมด 15 จุด เห็นว่าเจออาวุธปืนในบริษัทกำนันนก เชื่อว่าเป็นปืนที่เคยก่อเหตุยิงคู่แข่ง จริงมั้ย?
บิ๊กโจ๊ก : เจอปืนที่บ้านกำนันนกทั้งหมดมี 16 กระบอก เจอปืนที่บ้านตร.อีก 9 กระบอก เดี๋ยวจะตรวจวิถีกระสุน ดีเอ็นเอของปืน มันก็จะบอกได้ว่าปืนนี้เคยก่อเหตุที่ไหนบ้าง วันนี้เราก็มีผู้เสียหายเข้ามาให้การเพิ่มเติมว่าเขาถูกยิงรถแบ็คโฮ ถูกยิงบ้างอะไรต่างๆ เขาถูกยิงเพราะไปประมูลงานแข่ง เราก็รับข้อมูลเอาไว้ เดี๋ยวมาดูด้วยความเป็นธรรม เอาปืนเหล่านี้ไปตรวจว่าวิถีกระสุน กระสุน ปลอกกระสุนตรงกับกระสุนที่พบในที่เกิดเหตุในจุดต่างๆ ที่ยิงหรือเปล่า ถ้าพบว่าใช่ก็ต้องมาดำเนินคดีเพิ่มเติม

เรื่องนี้น่าจะไปจบตรงไหน เห็นมีเรื่องฮั้วประมูลผุดมาอีก จะอีกนานมั้ยเรื่องนี้?
บิ๊กโจ๊ก : เรื่องนี้มันก็ขยายขึ้นมา เมื่อเช้าก็วนอยู่แถวนี้ เพื่อตั้งทีมร่วมกันให้เร็ว ถ้าตร.ตรวจหน่วยเดียวมันช้า ก็ต้องทุกหน่วย ตั้งแต่รมต.กระทรวงยุติธรรมก็ส่งดีเอสไอมา ท่านเลขาป.ป.ช.ป.ป.ง. ก็ส่งชุดทำงานมา เราก็ตั้งเป็นคณะๆ แล้วจะประชุมแบ่งงานกัน ว่าใครตรวจอะไรบ้าง ตร.จะเป็นเซ็นเตอร์ให้ นี่คือการบริหารคดี มันเยอะแต่เราต้องทำให้มันเร็ว วันนี้คดีเรื่องยิง เรื่องฆ่า ไม่หนักใจ เพราะวัตถุพยานมันนิ่ง พยานเอกสาร พยานหลักฐานชัดเจน เรื่องกำนันนกไม่มีประเด็นอะไรที่หนักใจแล้ว แต่ที่เราต้องมาขยายเพิ่มคือเรื่องส่วยสติ๊กเกอร์ การประมูลงานมีการฮั้วหรือไม่ มีการเลี่ยงภาษีหรือไม่ เส้นทางเงิน เงินได้มายังไง ที่มาของเงินถูกต้องหรือไม่ ภาระการพิสูจน์ทั้งหมดจะตกอยู่ที่ฝ่ายผู้ต้องหา เมื่อตั้งคณะทำงานร่วมกันแล้ว ตร.จะเป็นเซ็นเตอร์ ใครพบอะไร ถ้าถูกก็ถูก ถ้าไม่ถูกก็ต้องมาร้องทุกข์ที่ตร. ผมจะเป็นผู้กล่าวรับคดี ถ้าบริหารอย่างนี้มันก็จะเร็วและง่าย แต่จากนี้ไปต้องใช้เวลาเยอะนิดนึงแต่ไม่ถึงกับเลย 2 เดือน เราตั้งเป้าไว้ก่อนว่าจากนี้ไป 2 เดือน ต้องไปได้สัก 90 เปอร์เซ็นต์ คดีนี้รายละเอียดเยอะก็จริง แต่ถ้าวางดีๆ คดีก็ไปได้เร็ว

มีแฟนคลับหลายคนอยากทราบเรื่องวัดบางคลาน ตอนนี้เจ้าอาวาสเข้าวัดไม่ได้?
บิ๊กโจ๊ก : วัดบางคลานเขา 8 ปีแล้วที่มีคำพิพากษาศาลฎีกาให้ส่งมอบทรัพย์เจ้าอาวาสองค์เดิมให้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน แล้วตรวจทรัพย์ทั้งหมด พอมีคำพิพากษาศาลฎีกา กรมบังคับคดีเขาจะไปบังคับคดีให้มีการส่งมอบทรัพย์ เขาทำไม่ได้ เพราะชาวบ้านปิดกั้นหมด

มีท่านสว.กิตติศักดิ์ด้วย?
บิ๊กโจ๊ก : ใช่ มีทั้งสว.และชาวบ้านปิดกั้นไว้ ต้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายได้ก่อน บังคับคดีได้ก่อน จาก 8 ปีที่เขาส่งมอบทรัพย์กันไม่ได้ ผมก็คุยกับสว. คุยกับชาวบ้าน ก็ตั้งกรรมการกลางขึ้นมา โดยมีทุกฝ่าย ชาวบ้านฝั่งสว. ฝ่ายข้าราชการ ก็เอาผู้ใหญ่ลงไป เช่นอธิบดีกรมการปกครอง ผม เจ้าคณะภาค เอาลงไป เราก็เปิดทรัพย์ได้ ที่ลงไปล่าสุดจาก 8 ปีที่เปิดทรัพย์ไม่ได้ ส่งมอบทรัพย์ไม่ได้ ตอนนี้เราตรวจทรัพย์ได้แล้ว ทุกอย่างอยู่ครบหมดไม่มีหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว ก็ส่งมอบทัพย์ให้เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันเรียบร้อย ฉะนั้นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันรับทรัพย์มาครบหมดแล้ว เจ้าอาวาสต้องมาบริหารกิจการของวัด แต่ประเด็นตรงนี้เมื่อผมแก้ปัญหาตรงนี้ให้จบแล้ว ผมคุยกับชาวบ้านแล้วว่าโอเคให้เจ้าอาวาสเข้าวัดได้ แต่ประเด็นสำคัญที่ผมลงไปสัมผัสด้วยตัวเอง มันเป็นปัญหาที่หมักหมมมายาวนาน ไม่ใช่เฉพาะสว. ส่วนสว.ผมดำเนินคดีท่านไปแล้ว อยู่ในชั้นดำเนินคดี ผมแจ้งข้อกล่าวหาท่านไปแล้ว ส่วนชายชุดดำเราจับไปหมดแล้ว วันนี้ชายชุดดำไม่มีแล้ว มีแต่ชาวบ้านล้วนๆ ที่ผมลงไปพื้นที่ ตอนนี้หลักวัดบางคลานคือชาวบ้านล้วนๆ ในพื้นถิ่น เขาบอกว่า 8 ปี เขาไม่สามารถเข้ามาปฏิบัติภารกิจในวัดได้เลย เช่นเขาเคยขายไก่ เขาก็ถูกเจ้าอาวาสไล่ออกไป แล้วดำเนินคดีเขาฐานบุกรุกอีก เป็นเรื่องหมักหมม สั่งสมความโกรธกันมานาน ส่วนนี้ผมก็ทำรายงานถึงสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นเรื่องที่คณะสงฆ์ต้องไปแก้ปัญหา วัดกับชุมชนต้องอยู่กันได้ เมื่อประชาชนไม่ไว้วางใจเจ้าอาวาส เหมือนผกก.โรงพัก ถ้าอยู่แล้วชาวบ้านเขาต่อต้านหมด ผกก.โรงพักจะทำงานไม่ได้เลย ผมลงไปในพื้นที่ เจ้าอาวาสจะพูดภาษาธรรม ชาวบ้านโห่ลั่นเลย แต่เวลาผมพูด เขาฟังผม อันนี้อยู่ที่ความเชื่อถือ ผมไม่ได้ตำหนิเจ้าอาวาส แต่เรื่องนี้มันสะสมมา 8 ปี การแยกคู่มวยได้มี 2 กรณี นี่พูดส่วนตัวนะ ไม่เปลี่ยนเจ้าอาวาสองค์ใหม่มาทำงาน เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบันก็ต้องลงไปสร้างความเชื่อมั่น ความมั่นใจชาวบ้านในพื้นถิ่นให้ได้ จากนี้ไปเป็นเรื่องที่ท่านต้องอยู่กับชุมชน ท่านต้องทำให้ชุมชนรู้สึกว่าท่านเป็นที่พึ่งของเขาได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเข้าวัดขายส้มตำ ขายไก่เหมือนในอดีต เขาโดนไล่แล้วโดนดำเนินคดีฐานบุกรุกอีก เรื่องชายชุดดำ สว.ต่างๆ ผมเคลียร์ไปหมดแล้ว

ท่านชาดาอยากบอกอะไรบิ๊กโจ๊ก?
ชาดา : เดี๋ยวต้องประสานกับท่านอีกหลายเรื่อง

บิ๊กโจ๊ก : ครับ เดี๋ยวผมก็ต้องทำงานร่วมกับพี่ชาดา พี่ชาดาต้องมานั่งเป็นประธานให้ผมเรื่องปราบผู้มีอิทธิพลครับ

ท่านบอกให้เริ่มที่อุทัยฯ ก่อน?
บิ๊กโจ๊ก : (หัวเราะ) อุทัยฯ ไม่มีแล้ว

ชาดา : บิ๊กโจ๊กไปกวาดมาหมดแล้ว (หัวเราะ) จริงๆ บางเรื่องทางเจ้าหน้าที่ตร.เข้าไปแล้วก็เป็นเรื่องของวัด วงการพระสงฆ์ที่ต้องดำเนินการ จะให้ตร.ไปปราบฮั้ว ผมว่ามันได้แต่ต้องใช้เวลา กรมบัญชีกลางที่บิ๊กโจ๊กพูดว่าต้องเข้ามา คุณเป็นผู้ออกกฎกติกา คอมพิวเตอร์ของบัญชีกลาง ตั้งแต่ 57 -58 เป็นพันล้านนะ ป้องกันการแฮก ก็ต้องเป็นกรมบัญชีกลางเข้ามาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตร.

เมื่อวานคุยกับคนเคยฮั้วประมูล เขาบอกเลยว่าใครถือพาสเวิร์ด ยูสเซอร์เนม?
ชาดา : ถ้าคุณไม่ให้พาสเวิร์ส ยูสเซอร์เนม ถามว่าพวกมีอิทธิพลจะได้มั้ย ใครจะรู้ว่างานนี้ใครซื้อบ้าง จะไปเคลียร์ตรงไหน ต้องเริ่มที่ระบบราชการก่อน ที่บอกว่าอย่าไปสนับสนุนให้เกิดผู้มีอิทธิพล ถ้าทำไม่ได้จะบอกให้ว่าทำยังไง (หัวเราะ)

เชื่อว่าตอนนี้มีทั้งคนเชื่อท่านและส่วนนึงที่ไม่เชื่อและไม่ไว้วางใจว่าจะทำได้จริงหรือเปล่า ทุกคนกำลังรอดู มีคนให้โอกาส กับอีกส่วนบอกว่าไม่เชื่อ ทำไม่ได้แน่ อยากบอกอะไรเขา?
ชาดา : ไม่รู้บุญหรือบาป ผมเป็นนายกเทศมนตรีครั้งแรก ปี 2538 ผมก็ถูกปรามาสแบบนี้แหละ แล้วผมก็พิสูจน์ว่าผมทำงานได้ ผมลงสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมก็ถูกปรามาส แต่ผมก็เป็นมา 4 สมัย วันนี้ผมได้พระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยโดยการนำของท่านนายกฯ เศรษฐาและท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คือท่านอนุทิน ชาญวีรกุล ผมเรียนว่าผมไม่ทำให้ประชาชนผิดหวังแน่นอน คอยดูกันยาวๆ หน่อย ขอเวลานิดนึง ถ้าทำไม่ได้ต้องไปอยู่ป่า ห้วยขาแข้ง อย่ามาอยู่เมืองเลย ถ้าทำไม่ได้ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ ขอเรียนว่าไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยความเคารพ
 
ที่ข้อมือเป็นอะไร?
ชาดา : ลิปติก ลูกสาวซื้อมาให้ ผมเป็นคนปากแห้ง เมื่อก่อนมันเป็นกลมๆ ใส่ตามเสื้อจะตุง นี่ลูกสาวเขาให้มาเมื่อเช้าก็ต้องใส่ให้ลูกสาวเห็นหน่อย ผมมันคนทันสมัยช่วยไม่ได้ (หัวเราะ)











กำลังโหลดความคิดเห็น