“เจนนิเฟอร์ คิ้ม” เปิดใจ ฟาดแรงหัวหงอกไม่ได้เปลี่ยนสี ขออย่าเกลียดในฐานะคนไทยที่อยากเห็นอนาคตลูกหลานมีความหวัง (คลิป)

“เจนนิเฟอร์ คิ้ม” เผยสาเหตุฟาดหัวหงอก ขอโทษไม่ได้ละลาบละล้วงใคร แต่สะท้านในใจ ตายายเข็นรถขายของบอกอยากมีความหวังก่อนตาย ลั่นไม่ได้เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนสี อย่าดูดเข้าด้อม ไม่ชอบในฐานะนักร้องได้แต่อย่าเกลียดในฐานะคนไทยที่อยากเห็นอนาคตลูกหลานมีความหวัง อยากให้บ้านเมืองไปข้างหน้า ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ลั่นไม่ตอบกลับสักคำคนดีเอ็มด่า ขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง

ทำเอาแฟนๆ แทบไม่เชื่อสายตาหลังจากที่นักร้องชื่อดัง “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” ออกมาฟาดส.ว. ที่จะเป็นผู้ชี้ชะตากรรมประเทศไทยมากกว่าเสียงประชาชนที่เลือกพรรคก้าวไกลอย่างท้วมท้น ฉะแรงบ้านเมืองไม่คืบไม่ศอกเพราะหัวหงอกที่ยึดมั่นถือมั่นและกลัวตัวเองจะไม่สำคัญ การขับเคลื่อนไปข้างหน้าก็ต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ พร้อมเผยว่าผลการเลือกตั้งที่ผ่านมา กูตายตาหลับ ทำโดนวิจารณ์สนั่นว่าเปลี่ยนสีหรือเปล่า

ล่าสุดเจ๊คิ้ม ก็ออกมาเปิดใจผ่านรายการแฉ วันที่ 23 พ.ค. ยันไม่ได้เปลี่ยนขั้ว เปลี่ยนสี แต่คิดว่าควรถอยออกมาเพื่อเปิดใจรับฟังเด็กรุ่นใหม่ พร้อมขออภัยไม่ได้ละลาบละล้วงใครที่ด่าหัวหงอก และยังรักสถาบันเหมือนเดิม

“ครั้งนี้เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟ และคิดแล้วถึงได้โพสต์ คิดนานเหมือนกันนะถึงได้โพสต์ ในหัวสมองเรา สิ่งหนึ่งก่อนทำอะไรใดๆ หัวสมองเรา ในใจของเรา จิตวิญญาณของเรา มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชวงศ์อยู่เหนือหัวเรา สถิตอยู่ในใจเรา นั่นคือมุมเป็นคนไทยของเรา

แต่ในมุมความเป็นรุ่นแม่ ไม่ได้เป็นแม่ใคร เราไม่ได้เปลี่ยนขั้วหรือเปลี่ยนใจ หรือเปลี่ยนสีใดๆ เราแค่เปิดใจว่าถ้าฉันเป็นแม่ ในความเป็นแม่ของฉัน ที่ผ่านมาฉันไม่เคยฟังลูกๆ เลย อยากได้อะไร อยากทำอะไร แต่ความที่เรามองคนอื่นว่าเป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน เราก็จะมองว่าเราเป็นผู้ใหญ่เราฟังก่อน ไหนเล่าซิ จะเอาอะไร

ถ้าเปรียบเทียบกูจะโดนอีกไหม ถ้าสมมติลูกสาวเราไปแต่งกับเจ้าขุนมูลนายที่อายุเท่าลุง แล้วอยู่มา 8 ปี ลูกเราก็บ่นกับเราว่าเขาก็ดีนะ ที่ผ่านมาเขาก็ดีกับหนู ส่วนที่เขาทำดีเขาก็ดี แต่หนูอยากได้อะไรใหม่ๆ หรือทันอกทันใจเขา หรืออะไรก็แล้วแต่ ให้เป็นวัยใกล้ๆ เขาด้วยจะได้คุยกันรู้เรื่อง เราก็ถามว่าลูกจะเลิกเหรอ โอเค ลูกจะแต่งกับผู้ชายหน้าตาหล่อ เก่ง ฉลาด ทันสมัย มีหัวคิดไปข้างหน้า ถ้าเราบอกว่าถ้ามึงเลือกอย่างนี้ จะเลิกกับผู้ชายคนนี้ มึงออกไปจากชีวิตแม่เลยนะ เราพูดอย่างนั้นไม่ได้เราเป็นแม่ เราทำได้แค่ถามว่าไหนมีอะไรในใจยังไง

ในความที่ห้ามเด็กไม่ได้หรอก ห้ามใครก็ไม่ได้ เราผ่านจุดนั้นมาแล้ว จุดที่ผู้ใหญ่ห้ามเราเรื่องนั้นเรื่องนี้เราก็ไม่ฟัง ไม่เป็นไร ลูกรักใครชอบใครเลือกไป แล้วลองผิดลองถูกไป ให้โอกาสเขาคบกัน ถ้าเกิดวันนึงบางอย่างที่เรารู้สึกในใจว่าบางอย่างที่ลูกปรารถนา ลูกอยากได้ ลูกอยากเปลี่ยนแปลง ลูกจะไม่ได้สิ่งนั้น ไม่มีใครบนโลกนี้ที่ได้ดั่งใจทุกอย่าง ยิ่งเด็กโตขึ้น

คำว่าหัวหงอกเราใช้กับตัวเอง ไม่ได้ใช้กับใคร หัวหงอกเป็นศัพท์ที่เราใช้แทนคำว่าคนที่มีอายุแล้วมีคุณวุฒิที่ต้องเปิดใจ เราไม่ได้ว่าชาวบ้านร้านตลาดที่วิพากษ์วิจารณ์ใดๆ หรือพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายาย หรือคุณลุงคุณป้าที่ดีกับเรา ที่นับถือ ที่เทิดทูนสถาบันเราไม่ได้ว่าตรงนั้น ถ้าเขียนอีกนิดเรื่องจะไปไกลกว่า เราหมายถึงคนที่อยู่ในส่วนการเมือง เราไม่ได้หมายถึงประชาชนคนทั่วไป”

สะท้านใจ ตายายเข็นของขาย บอกอยากมีความหวัง อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นก่อนตาย
“ก่อนที่จะเข้าใจเรื่องพวกนี้ ก่อนเลือกตั้งจริงจัง เราเป็นคนชอบซื้อกับข้าวข้างถนน ตายายแก่ๆ ช่วยกันเข็นขาย เราเจอกับคนรุ่นลูกรุ่นหลานค้าขายเต็มเลย พ่อค้าแก่ๆ รุ่นตายายเข็นของ ถามเขาว่า จะเลือกตั้งแล้วจะเลือกอะไร เขาก็ชี้ไปสีโน้น เราก็ถามว่าทำไมล่ะ ใช่เหรอ เขาก็เคยมีข่าวอย่างนั้นอย่างนี้มา ทำไมล่ะ ถามไปทั่วเลยนะ เขาบอกว่าเจ๊ ลุงกับป้าก็ไม่ไหวแล้ว มันผ่านมาช่วงนี้เป็นช่วงที่เขาลำบากมาก เขาอยากมีความหวัง อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นก่อนตาย ความที่เราได้ลงไปเจอกับผู้คนเยอะแยะ มันไม่รู้สึกสะท้านใจเหรอ

แต่เราเป็นแม่เรากลับมาคิดว่าอีกหน่อยเด็กเขาจะเรียนรู้เองว่าเขาจะไม่ได้ทุกอย่างที่เขาอยากได้หรอก เขาจะได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วเรื่องเหล่านี้พอไปอยู่ในสภา เราดีใจนะ ที่ออกมาประมาณนี้ พรรคเพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พรรคนี้ที่มีเด็กๆ อยู่เยอะเหมือนกัน กว่าจะผ่านร่างกฎหมายอะไรสักอย่าง มันจะเป็นความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างผู้ใหญ่ เขาจะมีเหตุผลนึง เด็กเขาจะมีเหตุผลนึง เพื่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ ภายใต้พระมหากษัตริย์เป็นประมุข”

ไม่รักที่เป็นนักร้องก็ไม่ว่า แต่อย่าเกลียดในฐานะที่เป็นคนไทยอยากให้อนาคตลูกหลานดีขึ้น
“ถามว่าฉันไม่ดีตรงไหน ฉันผิดตรงไหน ทุกคนมองอย่างโน้นอย่างนี้ ฉันพูดในฐานะถ้าไม่รักฉันที่เป็นนักร้อง ได้ แต่อย่าเกลียดฉันในฐานะที่ฉันเป็นคนไทยที่อยากให้อนาคตลูกหลานฉันที่อีก 10-20 ปีข้างหน้า ประเทศชาติเป็นของเขาแล้ว เราก็ต้องถอยบทบาทเรามาเรื่อยๆ เป็นแม่เป็นป้าเป็นยายที่ทำดียายก็เชียร์นะลูกนะ แต่ถ้าทำไม่ดี อันนี้ผิด ทำแบบนี้ไม่ได้ ป้าก็ไม่คิดหรอกว่าหนูจะได้สิ่งนั้น เพราะสิ่งใดก็แล้วแต่ที่สถิตอยู่ มันจะอยู่ในจิตวิญญาณเราไปจนตาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง (ยกมือไหว้)”

ไม่ได้เปลี่ยนสี อย่าเอาเข้าด้อม และไม่ได้สร้างกระแสหวังดูดด้อมเด็กๆ เพื่อคอนเสิร์ต
“เราไม่ได้เปลี่ยนสี ใครอย่าเอาแม่ไปเข้าด้อมด้วย ใจเย็นๆ นะจ๊ะ ใจเย็นๆ แม่เข่าไม่ดี คนบอกว่ามาสร้างกระแส เพราะจะมีคอนเสิร์ต ถามว่าสร้างกระแสเพื่อเอาด้อมเด็กๆ เดี๋ยวก่อน ตั้งแต่ฉันเป็นนักร้องมีคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 ฉันพบญาติๆ ฉันเฉยๆ เลย มาเจอญาติ คนที่รักฉัน คนไม่ได้อิงกระแส แต่เขารักและเข้าใจ แยกแยะในตัวเราออกตลอดว่าความชอบสิ่งนี้ ก็คือความชอบสิ่งนี้ ส่วนตัวเขาจะคิดอะไรก็ปล่อยให้เป็นเรื่องส่วนตัว ให้เขาได้ใช้การออกความคิดเห็นในแบบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข แล้วคำว่าหัวหงอก ฉันใช้แทนตัวฉันเอง เพราะฉันก็หัวหงอกถึงได้ออกมาพูด ไม่ได้ตั้งใจดูถูกหมิ่นประมาท ล่วงเกินใครใดๆ เลย เพราะว่าทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิด จะทำ ทำทุกอย่างแล้วให้โอกาสเด็กบ้าง อย่างคนหัวหงอกอย่างดิฉันที่ต้องใช้คำว่ามีคุณวุฒิอยู่ในตัว

แล้วรุ่นลูกรุ่นหลาน อีกหน่อยประเทศชาติจะเป็นของมันแล้ว เราก็ต้องนั่งเอาไงลูก เราก็ให้เขาเรียนรู้กันเอง เดี๋ยวมันก็จะเรียนรู้ว่าไม่ได้ในสิ่งที่อยากได้บางอย่าง และได้ในบางอย่าง บางอย่างหนูจะไปแตะไม่ได้ แต่แม่จะไม่ว่า ลองดู แต่เขาจะเรียนรู้เอง คิดว่าเด็กไทยรุ่นนี้ฉลาดกว่ารุ่นเราเยอะ มีหลายๆ อย่างที่เขาจะได้ไปเรียนรู้กันด้วยตัวเอง”

ช็อกคนแห่ไปใช้สิทธิ์ 20 กว่าล้านคน โลกเปลี่ยนไปแล้ว
“ปีนี้คนใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 20 กว่าล้านคน แม่เจ้า คือช็อกมาก ในโซเชียล ประเทศไหนในโลกนี้ ที่คนได้คะแนนเยอะที่สุด ใช้เพลงประกอบคิมิโน๊ะโต๊ะ โลกมันเปลี่ยน แต่ทุกอย่างบนโลกนี้ก็ผ่านมาทุกอย่าง มีช่วงหลง ช่วงโปรโมชั่น เดี๋ยวต่อไปต้องดูว่าเขาทำทุกคำที่เขาพูดหรือเปล่า

ต้องถอยบทบาท ลั่นคนดีเอ็มด่าก็ไม่ว่าสักคำ อธิบายและขอโทษที่ทำให้ผิดหวัง
“เราต้องถอยบทบาท ต้องเริ่มเปิดใจ ที่พูดไม่ได้ด่าใครเลยจริงๆ หัวหงอก ไม่ได้กล่าวล่วงเกินละลาบละล้วง ลุงป้าน้าอาพี่ป้าทั้งหลายแหล่ ขอกราบประทานโทษจริงๆ ทำไมต้องอันฟอล ทำไมต้องอันซับ ทำไมต้องสาปแช่งให้เราล่มจม เมื่อก่อนโมโห แต่ตอนนี้เขาด่าก็อยากขอโทษ ทำไม่ได้ดั่งใจที่เขาอยากให้เป็น ไม่อยากขัดใจใครเลย ฉันเป็นคนหยวนที่สุด หยวนทุกคน ทุกวันนี้เวลาใครอันฟอลเข้ามาดีเอ็มด่า ไม่ว่าสักคำ รู้สึกในใจว่าขอโทษนะ ที่ไม่สามารถทำให้ได้ดั่งใจ

บางคนก็ถามว่าเจ๊เปลี่ยนไปเหรอ เราก็ไปตอบว่าอย่าเพิ่งโกรธเจ๊ บ้านเมืองจะต้องเป็นไป เจ๊ก็รักสถาบันเหมือนเดิม ถ้าหนูเข้าใจเจ๊ เจ๊อยากเห็นบ้านเมืองก้าวไปข้างหน้า ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ถ้าหนูเข้าใจในจุดนั้นก็แล้วแต่หนูเลย แต่ถ้ามึงไม่เข้าใจกูจะบล็อกเดี๋ยวนี้ (หัวเราะ) เดี๋ยวมึงด่ากูอีก อีนั่นก็หายไปเลย บางคนก็บอกว่าขอบคุณที่เจ๊มาคุยด้วยให้คำอธิบาย ถ้าไม่เข้าใจ ไม่โกรธเลย กราบขอประทานโทษจริงๆ ที่ทำให้ผิดหวัง”