“ไบร์ท นรภัทร” ในวันที่ฮอตเฟร่อ พรีเซ็นเตอร์ 11 ตัว แค่ตัวเลข อยากรับสัก 25 ตัว แฮปปี้มีเงินมากกว่าเดิม อยากซื้อที่ 20 ไร่ แบ่งกับพ่อทำสวนเกษตร บอกถึงมีคนที่คุย แฟนคลับก็ไร้ปัญหา ที่ผ่านมาเปิดหมดจนเกินเปิด มากกว่านี้ต้องแก้ผ้าแล้ว
โด่งดังชีวิตพลิกไปเลย สำหรับ “ไบร์ท นรภัทร วิไลพันธุ์” จากคนที่มีชีวิตค่อนข้างลำบาก แต่วันนี้กลับมีทุกอย่าง โดยหนุ่มไบร์ทเผยว่าเกิดมาไม่เคยได้งานพรีเซ็นเตอร์เยอะขนาดนี้มาก่อน ตอนนี้ฟาดเหนาะๆ ไปแล้ว 11 ตัว แต่ก็ยังแอบแซวๆ ว่า 11 ตัว แค่ตัวเลข จ้างได้อยู่นะจ๊ะ
“มันก็เยอะครับ ผมเกิดมาไม่เคยได้พรีเซนเตอร์อะไรเลยในชีวิต หลังจากตอนนั้นมันก็มีเข้ามาเยอะอยู่ 11 ตัวรึเปล่านะไม่แน่ใจ แต่มันไม่ได้เป็นตัวที่กินระยะเวลานานอะไรขนาดนั้น ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี แล้วแต่งาน แต่ก็ยังรับได้อีกนะครับ ทุกส่วนในร่างกายยังใช้ได้อยู่ ยังได้อีกครับ 11 ตัวมันก็เป็นแค่ตัวเลข (หัวเราะ) ก็ถือว่าเป็นปีทองครับ ถือเป็นก้าวใหญ่ที่สำคัญในชีวิตของผมเหมือนกัน ไม่มีเป้าครับว่ากี่ตัว แต่เส้นผมก็ยังว่างอยู่ ริมฝีปากนี้ก็ยังว่างอยู่ ปากผมสวยนะครับ ถามว่า 20 ตัวเลยไหม 25 ตัวครับ”
เผยหมอดูเคยทักชีวิตจะพลิก
“แม่เคยเล่าให้ฟังว่ามีคนมาทัก ไม่ได้ไปดูหรอก เขามาทักว่าสักวันนึงจะเป็นที่รู้จัก แต่ว่าเขาทักมาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เขาบอกว่าแต่ต้องลำบากมากๆ นะกว่าจะได้มา ที่ผ่านมาก็ลำบากอยู่(หัวเราะ) ตอนนี้ก็มีเงินเยอะขึ้นครับ เพราะก่อนหน้านี้มันไม่ค่อยมี”
ฝันซื้อที่ 20 ไร่ไว้แบ่งกับพ่อ ทำสวนเกษตร
“อยากทำสวนเกษตรครับ อยากอยู่กับธรรมชาติ ความฝันคืออยากได้ไร่ใหญ่ๆ สักที่นึง คุณพ่อผมชอบอะไรแบบนี้ แล้วเราก็ชอบแคมป์ปิ้งด้วย สมมติเล่นๆ ว่ามีสัก 20 ไร่ ก็จะแบ่งกับพ่อ พ่อก็ทำสวนไป เราก็ทำแคมป์ของเราไป ก่อนอื่นต้องซื้อที่ก่อน ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะไปซื้อที่จังหวัดไหน เดี๋ยวจะได้ก็มาเองแหละ ที่ดูไว้ตอนนี้ก็แถวๆ เพชรบูรณ์ นครนายก ตอนนี้พ่ออยากได้ที่ที่นครนายกมาก อยากได้จนตัวสั่นเลยตอนนี้ เขาเอามาให้ผมดูตลอดเลย แต่ผมรู้สึกว่ามันยังไม่ใช่ มันยังเกินไป รู้สึกว่ามันไม่คุ้มค่า แพงมันก็แพงประมาณนึง แต่ผมรู้สึกว่าถ้าตั้งใจหาอีกหน่อยมันจะได้ดีกว่านี้ ยังไม่รีบครับ ตอนนี้ก็ทำงานไปก่อน”
ไม่ค่อยได้ใช้เงิน
“ไม่ค่อยได้ใช้อะไร คือใช้น้อยมาก ล่าสุดเพิ่งซื้อรถไปแต่ก็ไม่ได้ซื้อเว่อร์ คือรถพังเลยต้องซื้อ ถ้าไม่พังก็ไม่เปลี่ยนครับชีวิตนี้ เพราะก่อนจะมีวันนี้ที่เรามี เราเป็นคนที่ไม่ได้มีเยอะ เราต้องบริหารมันให้ดีมากๆ ผมต้องบริหารแบ่งสัดส่วนให้มันดีมากๆ พอวันนึงเรามี เราก็รู้สึกว่ามันเป็นสัดเป็นส่วนเรียบร้อยดี
ปกติก็ใส่เสื้อยืดร้องเท้าแตะ เน้นสบาย ไม่ค่อยได้ไปไหน เราก็แต่งตัวดีออกงานแล้ว ชีวิตจริงเราก็ธรรดาพอ แบรนด์เนมก็มีบ้างนิดนึง เราชอบแฟชั่นนะ แต่ไม่ได้ถึงขั้นซื้อเยอะ มีบ้างเป็นชิ้นๆ ไป เพราะตอนเราเด็กๆ เรารู้สึกว่ามันเท่จังวะ แต่มันไกลเกินเอื้อมไปหน่อย แต่พอเรามีแล้วก็เอาซะหน่อย ตามเหมาะสม ผมชอบรองเท้าสุดนะ มันดูคุ้มดี แต่ก็มีไม่เยอะนะ พอมีเงิน อยากได้เราเดินเข้าไปจะซื้อแล้วมันก็รู้สึกเสียดาย”
ไม่เรียกว่างก เรียกว่าใช้เงินเป็น
“เรียกว่าใช้เงินเป็นดีกว่า ตอนเด็กๆ เราคิดตลอดเวลาเราจะใช้เงินไปกับอะไร เวลาไปซื้อของตามห้างถึงขั้นต้องเทียบมิลลิลิตรกับราคา ดูว่าอันไหนคุ้มกว่า วัดกันที่ราคากับมิลลิลิตรล้วนๆ สรรพคุณคือปาทิ้งไปเลย บ้านผมเป็นอย่างนี้จริงๆ แล้วผมก็เป็นอย่างนี้มาตลอดตั้งแต่เด็กๆ เลย จนมาถึงวันนี้เรื่องนี้มันก็ยังออโต้ครับ เดินมาสองยี่ห้อวางข้างกัน คำนวณแล้วอันไหนคุ้มกว่า”
รักแฟนคลับมาก เหนียวแน่นไม่แผ่ว
“ก็เหนียวแน่น ขอบคุณเขาที่ยังอยู่กับเรา รักมากๆ นะแฟนคลับ เพราะเขาดูรักเราที่ตัวตนเราจริงๆ อาจจะมีที่ไม่พอใจบ้าง แต่เราไม่รู้ งอนไม่มีนะครับ เพราะผมบอกตลอดแล้วว่าผมไม่ง้อนะ เราก็รู้ไงว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเราทำผิดเขาบอกเราเราก็ฟัง ก็แก้ไขกันไป ก็เอาแฟนคลับอยู่ เราคุยกันในแชตตลอด ว่างก็เข้าไปทักทาย ไปแซวเขาตลอด หยอดตลอด เราจะมีรีแอ็กให้ตลอด เรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่สวยงาม”
ยันไม่ได้ดุ หลังล่าสุดแฟนคลับต้องแอบถ่าย
“ผมไม่ดุนะ เห็นคลิปอยู่เหมือนกัน ตลกดี น่ารักดี คือไบร์ทชัดเจน อย่างเรากินข้าวอยู่ ถ้าเรารู้สึกว่าเราไม่ถ่ายก็จะบอกว่าพี่แป๊บนึงนะผมกินข้าวอยู่ ขอกินข้าวก่อน เขาก็กลับไปโต๊ะเขาแล้วผมก็จะแอบดูเขาตลอดว่ายังอยู่หรือเปล่า หรือเขาจะไป พอผมกินเสร็จผมก็เดินไปหาเขาเองเลย ก็ไปถ่ายรูปกับเขา ผมไม่ได้ทิ้งเขานะ ก็ยังแอบชำเลืองมองอยู่ ถ้าว่างๆ อยู่ไม่ได้ทำอะไรผมก็ถ่ายด้วยตลอด”
มีคนที่คุยก็ไม่มีใครมีปัญหา ลั่นเปิดหมดจนเกินเปิด มากกว่านี้ต้องแก้ผ้าแล้ว
“โอเคนะ ไม่ได้มีใครมีปัญหาอะไรกับผมเลยเรื่องนี้ ทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ปกติธรรมดาเลย เฉยๆ ชิลๆ เราก็เป็นตัวเราเหมือนเดิมเลยที่เปิดเผย ไม่มีอะไรต้องปิด เราก็เป็นเรา เปิดหมดเกินเปิดแล้วครับ มากกว่านี้ต้องแก้ผ้าแล้วครับ ผมก็เป็นผมแบบนี้ครับ ผมคิดว่าถ้าเราตั้งต้นจากที่เราเป็นตัวเอง มันก็จะอยู่ได้ยาว หลังเปิดตัวไปแล้วเขาก็ไม่นะครับ เวลาลงอะไรเขาก็จะถามเราว่าอันนี้ได้ไหม อันไหนได้เราก็จะบอกว่าได้ อันไหนไม่ได้ก็บอกไม่ได้ เขาก็เคารพเราเยอะครับ
แฟนคลับไฟเขียว ก็ไม่ได้ต้องกังวล ผมเองก็ไม่ได้เปิดตัวแกรนด์โอเพนนิ่งขนาดนั้นนะครับ แค่ไม่ปิดเท่านั้นเอง เขาก็รู้กัน คนที่เขาตามเราจริงๆ เขาก็จะรู้ คนที่เขาแค่ผ่านๆ มาก็ไม่รู้หรอก ตอนนี้ก็แฮปปี้ทุกเรื่องครับ”
