xs
xsm
sm
md
lg

เปลือยชีวิต “เชฟหมึกแดง” รับครั้งแรกเป็นเกย์ ตัวตนในอดีตที่พูดไม่ได้ เพราะไว้หน้าพ่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เชฟหมึกแดง” รับครั้งแรกเป็นเกย์ อดีตพูดไม่ได้ เพราะโตในวัง และสังคมยุคนั้นไม่ยอมรับ ลั่นไม่ประกาศเพราะไว้หน้าพ่อ แต่ตอนนี้อิสระแล้ว ก่อนเผยเคยลองคบผู้หญิงแล้ว แต่ไม่ใช่ตัวตน ไม่ชอบคำว่ากะเทย มองการแต่งงานของ LGBTQ เป็นสิ่งที่สมควรได้

“เชฟหมึกแดง หม่อมหลวงศิริเฉลิม สวัสดิวัตน์” ชื่อนี้สำหรับชาวโลกและชาวไทยเป็นที่รู้จักอย่างมาก เซเลบริตี้เชฟชื่อดัง ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารที่มีชื่อเสียงของประเทศไทย มากด้วยประสบการณ์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังเป็นบุตรชายของ “ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์” ซึ่งล่าสุดได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกถึงเรื่องราวชีวิต และตัวตนที่ชัดเจน พร้อมเปิดใจยอมรับครั้งแรกว่าเป็นเกย์ ในอดีตไม่สามารถพูดออกไปได้เพราะโตในวังและสังคมไทยในยุคนั้นยังไม่เปิดกว้างในเรื่องนี้ พร้อมตอบทุกประเด็น เคลียร์ทุกข้อสงสัยในรายการ WOODY FM

ชื่อเสียงของหมึกแดงเป็นที่รู้จักทั้งชาวโลกและพี่น้องชาวไทย?
เชฟหมึกแดง : Mcdang เราเป็นคนตั้งมา แต่ว่าตั้งแต่กลับมาเมืองไทยก็เป็นเชฟหมึกแดงเราก็สร้างชื่อเสียง เสร็จแล้วทางกระทรวงการต่างประเทศเชิญให้ไปบรรยาย 6 ปีซ้อน เวลาพี่สอนทำกับข้าวจะสอนให้เข้าใจหลักการและเหตุผลการปรุงอาหาร และสอนวัฒนธรรมว่าอาหารไทยเป็นอย่างไรและประวัติศาสตร์ของอาหารไทยด้วย เราไปที่โรงเรียน Le Cordon Bleu ทุกปี หลังจากนั้นก็ทำหนังสือชื่อ The Principles of Thai Cookery by Chef McDang ในปี 2009 เป็นภาษาอังกฤษ
 
ยังมีอะไรที่อยากทำอีกในวัย 69 ปี ?
เชฟหมึกแดง : คุณแม่ก็เสียไปแล้ว คุณพ่อก็เสียชีวิตไปจะ 4 ปีแล้ว แต่เราถูกเลี้ยงมามีพ่อ 2 คน คนแรกคือ ม.ร.ว.ถนัดศรี ที่ให้กำเนิด อีกท่านหนึ่งคือ หม่อมเจ้าการวิก จักรพันธุ์ ซึ่งคุณแม่แต่งงานกับท่านทีหลัง คุณแม่เป็นนางสนองพระโอษฐ์และเป็นลูกเลี้ยงสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 ท่านเป็นน้องสาวของปู่พี่ ตอนนี้เวลาที่มีเหลือมันคือเวลาของพี่ เพราะตั้งแต่กลับมาไม่ได้เป็นหมึกแดงที่เคยเป็นสิริที่อเมริกาเลยนะ เราต้องขมิบ ต้องระวัง เจียมตัว แต่ตอนนี้แก่แล้ว ไม่มีแล้ว
 
พี่รู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากที่สุดในวันนี้ มากกว่าครั้งไหนๆ ?
เชฟหมึกแดง : ตอนที่เผาพ่อ ลงกราบพ่อแล้วบอกว่าพ่อจ๋า พ่อใช้ชีวิตที่มีความสุขมากๆ แล้วพ่อก็เป็นตัวอย่างที่เป็นตัวของตัวเองมาตลอด เราก็อยากเป็นตัวของตัวเองมาตลอด แล้วไม่เคยอยากจะโกหกหรือปิดบังอะไรเลย แต่เรื่องนี้ เพราะว่าหน้าของพ่อ เพราะว่าหน้าของแม่ เพราะว่าเราโตในวัง เราก็ต้องเก็บมันไว้ แต่ตอนนี้พ่อและแม่ไม่อยู่แล้ว เราก็ไม่ต้องเก็บ
 
เพื่อนหรือคนใกล้ชิดก็จะรู้ตัวตนที่แท้จริง แต่มาถึงวันนี้พี่ไม่เคยพูดออกจากปากในสื่อใดๆ เลย ว่าวันนี้หมึกแดงเป็น ?
เชฟหมึกแดง : I'm Gay ทุกคนก็รู้ไง ไม่เคยปิดบัง แต่เราก็ต้องไว้หน้าพ่อ แต่ว่าตอนนี้เป็นอิสระแล้ว เด็กสมัยนี้นึกว่าเราปากจัด เป็นเกย์แก่ๆ คนหนึ่ง เราไม่เคยทำอะไรที่พวกเขาเคยทำมา บอกผมทำมาก่อนที่คุณเกิดอีก ลำดับความสำคัญของชีวิตพี่ในตอนนี้คือขอทำในสิ่งที่เรามีความสุขที่จะทำ ขอให้เป็นประโยชน์แก่สังคม ขอให้ได้สอนเกี่ยวกับเรื่องอาหารการกินนั่นคือเบอร์ 1 ส่วนเซ็กส์ ความรัก อะไรต่างๆ ไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
 
การที่เป็นเกย์ต้องเจอกับอุปสรรคอะไรบ้าง กับการที่พ่อแม่เป็นบุคคลที่คนรู้จักเยอะมากโดยเฉพาะคุณพ่อ หรือแม้กระทั่งที่โตมาในยุคนั้น ?
เชฟหมึกแดง : สังคมยังไม่ยอมรับ มีคนมาสัมภาษณ์แล้วถามบอกว่า หมึกแดงก็ 40 กว่าแล้ว ลูกก็ไม่มี เมียก็ไม่มี คุณหมึกแดงเป็นเกย์หรือเปล่า ตอนนั้นตอบไม่ได้นะ ก็เลยบอกว่าการที่เราเป็นเกย์หรือเป็นอะไรตาม ทำให้เราเป็นคนดีมากขึ้นหรือเป็นคนดีน้อยลงหรือเปล่า ถ้าคุณตอบว่า Yes ผมจะตอบคุณ เขาก็ไม่กล้าถามแล้วล่ะ ต้องตอบเขาแบบนี้ เราไม่อยากให้มันสะท้อนให้พ่อต้องมานั่งตอบคำถาม
 
เคยคุยกับพ่อเรื่องนี้ไหม แล้วพ่อรู้ใช่ไหม ?
เชฟหมึกแดง : (หัวเราะ) พ่อเป็นคนที่ตลกที่สุดเลย เรารู้ว่าพ่อรักเรามาก เราเคยมีแฟนเป็นสาวไต้หวันชื่อ เฮเลน วู ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่ ตอนนั้นอายุ 21-22 ชอบเขามากแต่ตอนที่นอนกับเขามันไม่ใช่ แต่ตอนที่นอนกับผู้ชายครั้งแรกใช่เลยอันนี้ล่ะที่เราหามา เคยบอกพ่อว่าเป็นเกย์ ลูกจะไม่มีวันแต่งงานแล้วคงจะไม่มีแฟนเป็นผู้หญิง ไม่พูดมากกว่านั้น กลัวว่าพ่อจะรับไม่ได้ พ่อก็จะพูดกับทุกคนว่า มีแฟนชื่อเฮเลน จนกระทั่ง 80 ก็ยังบอกว่าพี่มีแฟนชื่อเฮเลน

แต่พอเริ่มเกษียณตอนที่พ่อ 84 เด็กที่เราส่งไปดูแลพ่อ มารายการให้ฟังพ่อพูดว่า ไอ้หนูมันไม่แต่งงานหรอก มันรักงานของมันมาก แล้วมันไม่ได้ชอบผู้หญิง นั่นพ่อ 85-86 แล้วนะถึงได้ยอมรับ วู้ดดี้โชคดีแต่งงานมีแฟนออกหน้าออกตาได้ สำหรับเราไม่เคยทำได้ เรามาจากในวัง เราเฝ้าเจ้านายเยอะมาก รู้จักตั้งแต่เจ้าฟ้า เจ้าแผ่นดิน จนกระทั่งแม่ค้าข้างถนน แล้วจะให้คนนี้เขาปรับตามไปกับเรามันไม่ยุติธรรมสำหรับเขานะ เราถึงไม่มีอะไรที่เป็นตัวเป็นตน เพราะอยู่คนเดียวได้ และมีเพื่อนตั้งเยอะที่สนิทและรักกันได้ Positive Energy จากเขา ไม่อยากมีอารมณ์ที่ต้องหึงหวง ไม่เอาแล้ว เมื่อก่อนตอนที่อยู่เมืองนอกมีนะ แล้วหลังจากนั้นก็บอกกับตัวเองว่าไม่มีวันที่จะมีคู่
 
การเปิดตัวของบุคคล LGBTQ+ มองว่าเป็นอย่างไร ?
เชฟหมึกแดง : แล้วแต่ตัวบุคคลคนนั้น ว่าเขามีความมั่นใจในตัวเอง รู้จักตัวเองพอไหมที่จะสู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ สำหรับเราเมื่อสมัยก่อนนี้มันยากเพราะว่าสังคมไม่ยอมรับ คนก็ต้องกระซิบว่ากะเทย คำนี้มันบั่นทอนมาก ไม่ชอบ ความจริงแล้วพี่ไม่ได้ตุ้งติ้งโคตรห้าวเลย มันแล้วแต่คน แล้วแต่จังหวะที่จะ Come Out เด็กสมัยนี้ Come Out ง่าย สังคมยอมรับ แล้วตอนนี้มีสาววาย ไปๆ มาๆ รัฐบาลจะให้ผู้ชายแต่งงานกันได้
 
รู้สึกยังไงกับการแต่งงานของ LGBTQ+?
เชฟหมึกแดง : เราคิดว่ามันเป็นสิทธิที่คุณควรจะได้ ตอนนี้กระแสมาแรงมาก ทุกช่องมีแต่หนังวาย ละครวายทั้งนั้น สังคมไทยยอมรับแล้วโดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่ สมัยนี้ไปไกลแค่ไหนแล้ว เราต้องเรียนรู้ว่าโลกมันไปไกล
 
ย้ายชีวิตไปอยู่เกาะเสม็ด ?
เชฟหมึกแดง : 4-5 ปีที่แล้วเก้งกับหนูเจ้าของเสม็ดรีสอร์ตกรุ๊ป มาติดต่อแล้วก็ขอให้เราช่วยดีไซน์ครัวกลางให้หน่อย พอเสร็จแล้วเขาก็บอกว่า หาคนที่จะมารันครัวกลางไม่ได้ เราบอกว่าเดี๋ยวทำให้ จนถึงวันนี้อยู่มา 2 ปีครึ่งแล้ว อากาศก็ดี แล้วเขาก็ให้วิลล่าเราที่ภารดีรีสอร์ต พอมีล็อกดาวน์โควิดมาเราก็ไปทุกรีสอร์ตจัดครัวให้ใหม่ทั้งหมดเลย ได้ทำเทรนนิ่งตอนนั้น สนุกมากๆ เราได้สอน เราได้ทำงานในสิ่งที่เราถนัด ตอนนี้เราก็ตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาเพื่อจะขายซอส ขายน้ำสลัด ขายอะไรต่างๆ ยังมีโปรเจกต์อีกเยอะที่ต้องทำกับทางเสม็ดรีสอร์ตกรุ๊ป ก็ดีใจที่เราแก่แล้วแต่ยังเป็นประโยชน์อยู่
 
พี่มองเรื่องความเสมอภาคของมนุษย์ว่าอย่างไร ?
เชฟหมึกแดง : อีกไกลนะสำหรับประเทศไทย เมืองไทยยังเอา ชั้นวรรณะ ฐานะในสังคม ฐานะการเงินมาวัดว่าฉันดีกว่าเธอ แต่ทุกคนคือมนุษย์เท่าเทียมกันหมด ถ้าเรามองโลกในแง่ดีเราควรแต่มองในสิ่งที่ดีในตัวคนนั้น อย่าไปดูถูกเขาแล้วก็อย่าไปมองตัวเองว่าเราเหนือกว่า





กำลังโหลดความคิดเห็น