xs
xsm
sm
md
lg

“บอย” จ่าย 2,200 ล้านล้างผัง GMM25 ชุบชีวิตใหม่ ชูนโยบาย “วัยรุ่น-ซีรีส์วาย”

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“บอย ถกลเกียรติ” รวยขั้นสุด ทุ่ม 2,200 ล้าน เสริมทัพ GMM25 ยันไม่ได้ยุบช่อง แค่โยกบางรายการให้เหมาะสม รายการแฉของ “มดดำ คชาภา” ยังคงอยู่ อนาคตอาจเข้าตลาดหลักทรัพย์ ด้าน “เจ๊ฉอด” ยันไร้ปัญหา ผลิตซีรีส์ป้อนทุกช่อง แพลนปีหน้าผลิตละคร 10 เรื่องป้อนทุกช่อง เตรียมประเดิมคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 10 ปีของ “ดา เอ็นโดรฟิน”

ไม่ยุบ ไม่ย้าย ไม่ไปไหน เพียงแค่เสริมทัพเข้าไป ... หลังจากมีข่าวลือว่า “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” ปิดดีลยักษ์ใหญ่ซื้อช่อง GMM25 แบบสายฟ้าแล่บ! ซึ่งถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าตกใจ เพราะก่อนหน้านี้เองก็มีข่าวลือหนาหูมาแล้วหลังจากที่ “ช้าง” สปอนเซอร์รายใหญ่ถอนหุ้นออกไปจาก GMM25 ทำให้เกิดการเขย่าทีวีดิจิตอลช่องนี้เป็นการใหญ่ เรียกว่าสะเทือนตั้งแต่รากหญ้ายันหัวเรือใหญ่

และในวันนี้ (1 ธ.ค.) “คุณบอย” ผู้บริหารของ “กลุ่มเดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพร์ส” ได้ออกมาชี้แจงว่า ไม่ได้ซื้อช่อง GMM25 เพียงแต่เข้าไปซื้อบริษัทผลิตคอนเทนต์อย่าง “จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง” ที่ประกอบไปด้วย เช้นจ์2561 (ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา), จีเอ็มเอ็ม ทีวี (สถาพร พานิชรักษาพงศ์), จีเอ็มเอ็มมีเดีย (สมโรจน์ วสุพงศ์โสธร), จีเอ็มเอ็ม สตูดิโอ อินเตอร์เนชั่ลแนล (เอกชัย เอื้อครองธรรม) ด้วยเงินลงทุนมูลค่า 2,200 ล้าน ซึ่งจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นของ GMM25 ทั้งหมด 100% เพราะช้าง (กลุ่มสิริดำรงธรรม) ได้ถอนหุ้นออกไปเมื่อหลายเดือนก่อน

และการที่ “กลุ่มเดอะวัน เอ็นเตอร์ไพร์ส” เข้ามาใน GMM25 ครั้งนี้เปรียบเสมือนการผ่าตัดครั้งใหญ่ของช่อง โดยเป็นการจัดแจงแยกแยะคอนเทนต์ต่างๆ ว่าเหมาะสมกับคนดูในตลาดไหน เพราะอย่าง “คลับฟรายเดย์เดอะซีรีส์” และละครของ “เช้นจ์2561” ทั้งหมดจะถูกย้ายไปออนแอร์ในช่องวันต้นปีหน้า ในส่วนซีรีส์ของ “จีเอ็มเอ็ม ทีวี” จะถูกดึงมาเป็นตัวชูโรงในช่วงไพรม์ไทม์ของช่อง GMM25 ซึ่งจะมีทั้งซีรีส์วัยรุ่น ซีรีส์วายตามความถนัด พร้อมเสริมทัพด้วย “แฉ” ที่ยังมี “มดดำ คชภา ตันเจริญ” ยืนหนึ่ง และเพิ่ม “แฉแต่เช้า” ที่จะกลับมาออนทีวีอีกครั้งโดย “เอไทม์ มีเดีย” รับหน้าที่เป็นผู้ผลิต โดยคอนเซปต์ใหม่ของช่องจะเน้น “นิวเจน-ไลฟ์สไตล์-เอ็นเตอร์เทนเมนต์” รายการสดเป็นหลัก

โดยการแถลงข่าวในวันนี้ “บอย ถกลเกียรติ” ย้ำชัดว่า “กลุ่มเดอะวัน เอ็นเตอร์ไพร์ส” แค่เข้าไปเสริมทัพ ผลิตรายการกับกลุ่ม “จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง” ที่ผลิตคอนเทนต์ให้ GMM25 เท่านั้น แต่ไม่ได้เข้าไปซื้อหุ้นของช่องแต่อย่างใด เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจะผิดหลักของกฎ กสทช. ที่ผู้ถือหุ้นทีวีดิจิทัลจะต้องถือเพียงแค่ช่องเดียวเท่านั้น ส่วน GMM25 จะติดใน Top5 ในปีหน้า จะเป็นไปได้ไหม “คุณบอย” ย้ำว่าดาราที่ดังไม่ได้มาจากเรตติ้งเสมอไป เพราะบางคอนเทนต์ก็มักจะประสบความสำเร็จจากออนไลน์ก่อนจะมาดังในทีวี

“ความแตกต่างคือ one31 เป็นโมเดิร์นแมส เรามีทาร์เก็ตคนทุกเจนเนเรชั่นในทั่วประเทศ จะเห็นจากทุกช่วงเวลา อย่างเช่น 18.00 – 20.00 น. ซึ่งตอนนี้เราเป็นอันดับหนึ่งอยู่ ก็จะมีละครที่ได้กลุ่มคนดูมากมาย อย่างรายการเพลง หรือละคร เราก็จะชัดเจนตรงนั้นนะครับ ส่วนช่วงละครไพรม์ไทม์ก็จะเลื่อนขึ้นมาหน่อย ก็จะมีความหลากหลายในทาร์เก็ตที่มีความเป็นแมส ในขณะที่ GMM25 ด้วยความ GMM ที่มีมาต่อเนื่อง ในเรื่องของดนตรีและเอ็นเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ ตรงนี้ถือว่าชัดมากๆ ถึงแม้จะเป็นละครเหมือนกันในช่วงไพรม์ไทม์ แต่เป็นละครคนละทาร์เก็ตกันเลย ละครช่อง one ก็จะเป็นอีกแนว ส่วนทาง GMM จะเน้นไปในทางวัยรุ่น อาจจะมีโรแมนติกคอมเมดี้อะไรต่างๆ

ถามว่าจะมีละครหรือรายการไหนอีกไหมที่จะโยกช่องไป ก็อย่างที่พี่ฉอดบอกนะครับว่าคลับฟรายเดย์เดอะซีรีส์จะมาอยู่ที่ช่องวัน จริงๆ พี่ฉอดก็ทำละครให้กับช่องวันอยู่ ปีก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องใบไม้ที่ปลิดปลิว ก็มาจากเช้นจ์ ปีหน้าก็มีนะครับ แต่พี่ฉอดก็สามารถไปทำที่ช่องอื่นได้ด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือจุดแข็งของพี่ฉอด และมีหลายๆ คนอยากให้พี่ฉอดไปทำให้ด้วย ผมว่านี่คือโอกาส ผมว่าตอนนี้เราต้องร่วมมือกันครับ ดีลนี้ใช้เวลานานไหมเหรอ ผมว่าเป็นการเล็งเห็นถึงโอกาส และพูดคุยกันมาก็หลายเดือนแล้วครับ ว่าถ้าเอามารวมกันมันจะรวมกันได้ยังไง ต้องทำวิธีการไหนที่เอามารวมกันแล้วมัน 1+1 เป็น 3 ได้

ซึ่งสัดส่วนก็ยังถือว่าเหมือนเดิมนะครับ ก็คือประนันท์ภรณ์ ตัวแทนจากกลุ่มปราสาททองโอสถ 50% GMM GRAMMY 33% และทางกลุ่มของทางผม 37% ครับ แต่ถามว่าหลังจากดีลนี้แล้ว คิดว่า GMM25 จะติดอันดับท็อป 5 ทีวีดิจิทัลได้ไหม ผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็นนะครับ เพราะทุกวันนี้คอนเทนต์ของที่ทุกๆ ท่านทำ และส่วนของ GMM25 ผลิตกันอยู่ เป็นคอนเทนต์ที่สามารถออนทีวีและออนไลน์ได้

เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงที่มาของรายได้ มันไม่ได้ว่าต้องเรตติ้งเท่านี้ถึงจะมีรายได้ ไม่ใช่ ยกตัวอย่างง่ายๆ ไบร์ท-วินดังไหม โครตดัง (ยิ้ม) ไบร์ท-วินเคยเล่นละครที่เรตติ้งสูงมากไหม ไม่นะ ไม่ได้มาจากเรตติ้งนะ แต่ตอนนี้คุณเห็นเขาทุกมุมเมืองเลยนะ ผมถึงบอกว่าทุกวันนี้คอนเทนต์สำคัญมากๆ นะครับ

การที่เรามีคอนเทนต์ที่สามารถออกได้ทั้งทีวีและออนไลน์ได้ อันนั้นผมว่าเป็นที่สุด มันมีคอนเทนต์ที่ออกทีวีอย่างเดียว มันมีคอนเทนต์ที่ออกออนไลน์อย่างเดียว แต่มันมีบางคอนเทนต์ที่ออกได้ทั้งออนไลน์และทีวี อันนั้นต่างหากที่เป็นที่สนใจของสปอนเซอร์ครับ มีแผนการนำช่องวันเข้าตลาดหลักทรัพย์ไหมเหรอ มันมีโอกาส ก็ดูๆ กันอยู่ ยังไม่ทราบว่าเมื่อไหร่นะครับ”

ทางด้าน “ฉอด สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา” ก็เผยว่าทิศทางของเช้นจ์2561 ยังคงเหมือนเดิม เพราะทาร์เก็ตชัดเจน
ทิศทางของเราต้องใช้คำว่ายังคงเหมือนเดิมนะคะกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะเราก็ยังเป็นบริษัทคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่ยังผลิตทั้งละคร ซีรีส์ รายการทีวีและยังมีรายการออนไลน์ มีโชว์บิส มีอีเวนต์ต่างๆ มากมาย ก็ยังเหมือนเดิมค่ะ เพียงแต่ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ก็คงมีการขยับคอนเทนต์ไปสู่ช่องที่มีการตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

อย่างเช่น คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ ซึ่งเดิมอยู่ที่ช่อง GMM25 พอตอนนี้ช่องบอกว่าจะเป็นวัยรุ่นมากขึ้น ดังนั้นคลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ ซึ่งเป็นทาร์เก็ตที่ค่อนข้างโตหน่อย ก็จะย้ายไปอยู่ที่ช่อง one31 ทุกคืนวันศุกร์ 21.30 น. ค่ะ หรืออย่างคลับฟรายเดย์ โชว์ที่เป็นรายการทอล์ก ก็จะย้ายไปอยู่ที่ช่องอมรินทร์ วันเสาร์ 16.30 น. ค่ะ

แต่ในขณะเดียวกันเช้นจ์ก็ยังผลิตละครให้ทุกๆ ช่องทีวีได้ อย่างช่องวันก็จะมีละครทีวีดีๆ ที่กำลังทำงานกันอยู่ กับช่องอมรินทร์ก็ยังคงเหมือนเดิม เพราะเราเป็นบริษัทผู้ผลิตละครเจ้าเดียวของช่องอัมรินทร์ และจะเห็นละครของเช้นจ์ไปอยู่ตามช่องใหญ่ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญก็คงจะเป็นเรื่องของแพลตฟอร์ม OTT (การให้บริการผ่านอินเทอร์เน็ตเปิด เช่น YouTube, Line TV หรือ Netflix) ทั้งหลาย ที่ตอนนี้ก็น่าจะโชคดีค่ะที่ละครของเช้นจ์น่าจะเข้าตาหรือถูกใจหลายๆ คน ก็เลยมีแพลตฟอร์ม OTT มากมายที่อยากได้งานของเราไป ตอนนี้ก็อยู่ในระหว่างทำงาน

ถ้ารวมๆ แล้วปีหน้าก็น่าจะมีละครสัก 10 กว่าเรื่องที่เป็นละครของเรา ยังไม่นับคลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ และยังมีรายการทีวีหลายๆ รายการที่ยังดำเนินต่อไป มีรายการออนไลน์อีกมากมายมหาศาลค่ะ และส่วนของโชว์บิสก็จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่เตรียมการไว้ และยังมีอีเวนต์ที่เราทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นเลิฟเฟส ไทยแลนด์ หรือจะเป็นโปเกม่อน รัน ไทยแลนด์อะไรอย่างนี้ค่ะ เพราะฉะนั้นในแง่งานก็ยังมากมายมหาศาลเหมือนเดิม มีการขยับปรับเปลี่ยนบ้างนิดหน่อย เพื่อให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นค่ะ”

บอกการปรับเปลี่ยนไม่มีผลกระทบ แต่ยิ่งเป็นโอกาสดี
“การปรับเปลี่ยนไม่ได้กระทบค่ะ แต่เราคิดว่าเป็นโอกาสที่ดีมากขึ้น และมีความสนุกมากขึ้น เพราะเราก็มีโอกาสได้ร่วมงานกับทุกช่อง ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งแต่ละช่อง แต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีโจทย์ที่แตกต่างกันออกไป เราก็จะมีโอกาสได้ทำงานหลากหลายและแตกต่างมากขึ้นค่ะ

ในส่วนของคลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ ปีหน้าก็จะไปฉายที่ช่อง one31 อีก 4 เรื่องนะคะ เพราะพอดีว่าบังเอิญซีซั่น 12 ยังค้างอยู่อีก 4 เรื่องเพราะติดช่วงโควิด ก็จะมูฟมาอยู่ช่อง one31 ในเดือนมกราคม ดังนั้นช่วงต้นปีจะเป็นเรื่องเก่าที่เราทำไว้แล้ว พอเดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปก็จะเป็นซีซั่นใหม่ ที่ชื่อว่า ซีซั่น เลิฟ เซเลเบรชั่น ก็จะเป็นเรื่องราวความรักช่วงเทศกาล ก็จะยาวไปจนถึงสิ้นปี

10 กว่าเรื่องในปีหน้าถามว่าทำทันไหม ก็คงทันบ้าง ไม่ทันบ้าง (หัวเราะ) บางทีก็ถ่ายไปออนไปบ้างนะคะ เขียนบทไป ทำไป ก็สนุกสนานดีอยู่ แต่ยังไม่เคยจอดำนะคะ ยังทันอยู่ค่ะ ปัญหาคิวนักแสดงเหรอคะ คือเราค่อนข้างโชคดีที่ว่าเราได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนักแสดง อย่างคลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ก็จะเห็นว่าเวลานักแสดงที่หมดสัญญาจากช่องใหญ่ๆ มา ก็อยากจะมาเจิมที่คลับฟรายเดย์ เดอะ ซีรีส์ก่อนเป็นเรื่องแรก นักแสดงหลายๆ ท่านและนักแสดงผู้ใหญ่หลายๆ ท่านก็สนุกสนานกับการทำงานร่วมกับเช้นจ์ ก็ถือเป็นเรื่องดี ทุกคนก็จะให้คิวเราเต็มที่ในการทำงานค่ะ

จริงๆ เราก็ไม่ได้ปิดกั้นนะคะสำหรับนักแสดงที่หมดสัญญามา เราเปิดโอกาสกับน้องๆ ทุกคน และมันก็เป็นวาระเวลาด้วย บทด้วย อะไรต่างๆ ด้วย ไม่ใช่เอาน้องเขามาทำข่าวเฉยๆ แต่เขาจะต้องได้รับบทที่ดี บทที่เหมาะกับตัวเขา ท้าทายเขา หรือเป็นบทที่เขาอยากเล่น หรือไม่เคยเล่นมาก่อน มันจะมีโจทย์แบบนี้อยู่ด้วย ไม่ใช่หมดสัญญาแล้วมาเฉยๆ แต่เราก็จะคิดอีกว่าเขามาทั้งที มาแล้วต้องมีคนพูดถึง มาแล้วต้องมีคนอยากดู น้องๆ ก็จะรู้สึกว่ามันมีความท้าทาย เขาได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน เราจะคุยกันในมุมนั้นมากกว่าค่ะ ก็มีคุยไว้หลายคนค่ะ น้องๆ เองจะเป็นคนที่เดินเข้ามาว่าถ้าเกิดไม่มีสัญญาแล้วก็จะมาบอกกัน เราจะคุยกันแบบนี้มากกว่า”

เผยเตรียมประเดิมคอนเสิร์ตใหญ่ปีหน้าจาก “ดา เอ็นโดรฟิน” และ “สี่แยกปากหวาน”
ส่วนโชว์บิสช่วงที่ผ่านมาติดช่วงโควิดกัน เราก็เพิ่งทดลองทำงานแรกไป แต่เป็นลักษณะเฟสติวัล ก็คือเลิฟเฟส ที่พัทยาไปเมื่ออาทิตย์ก่อนนี้ ทุกคนก็ดูอัดอั้นนะคะ (หัวเราะ) มากันพร้อมหน้าพร้อมตามาก และสนุกสนานกันมาก ปีหน้าโชว์บิสวางโชว์ใหญ่ไว้ประมาณ 2 โชว์ค่ะ ซึ่งปกติทุกปีเราจะทำ 3-4 โชว์ต่อปี

แต่ด้วยความที่ตอนนี้มีเรื่องของระยะห่างของที่นั่งอะไรต่างๆ เราก็วางไว้ 2 โชว์ จะไปเริ่มครึ่งปีหลังเลยค่ะ ก็ยังเข้าใจว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น และมีโอกาสได้ไปสนุกสนานกับคอนเสิร์ตของ change showbiz เหมือนเดิม และยังคงคอนเซปต์เดิมคือ สนุกสนานและได้ทำบุญด้วย คือได้นำเงินเข้าการกุศลด้วย คอนเสิร์ตแรกจะเป็นช่วงเดือนกรกฎาคม กับคอนเสิร์ตเดี่ยวของ ดา เอ็นโดรฟิน ค่ะ เป็นการครบรอบของดาด้วย เขาไม่ได้เล่นคอนเสิร์ตมาจะ 10 ปีแล้วมั้ง ส่วนอีกโชว์คือสี่แยกปากหวานค่ะ จะเป็นช่วงเดือนตุลาคม หลังจากโควิด 4 คนนี้ก็จะมีความอัดอั้นนะคะ ก็คงจะได้เจอกันค่ะ”


















กำลังโหลดความคิดเห็น