“เบลล่า” ตื่นเต้น หนัง “อีเรียมซิ่ง” จ่อคิวฉาย 19 พ.ย.นี้ หลังเลื่อนมาสองรอบ เป็นผลงานที่ “โรเบิร์ต สายควัน” ทิ้งไว้ให้คิดถึง พร้อมเปิดใจเส้นทาง 10 ปี นางเอกเรตติ้งสูง ดังแค่ไหนก็ยังใช้เงินเท่าวันเก่าที่ผ่านมา อยู่กับความดังอย่างมีสติ เข้าใจวงการบันเทิงมีขึ้นมีลงไม่มีใครปังไปตลอด ก่อนเผยหากวันหนึ่งต้องอำลาวงการไปแต่งงาน “เวียร์” เริ่มรุกหนัก เอาอายุมากดดันอยากวิวาห์แล้ว
เป็นนางเอกเบอร์ต้นๆ ที่ปังไม่มีแผ่ว สำหรับ “เบลล่า ราณี แคมเปน” ผลงานที่ผ่านมาการันตีความสำเร็จให้กับเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี จนกลายเป็นนางเอกเรตติ้งสูงสุดอีกคนของวงการบันเทิงไทย ฮอตทั้งงานละครและพรีเซ็นเตอร์ เรียกว่าเบลล่ากวาดเรียบ เป็นนางเอกที่สวยและรวยมากของยุคนี้เลยก็ว่าได้ ล่าสุดเจ้าตัวกระโดดมาเล่นภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง “อีเรียมซิ่ง” ซึ่งเบลล่าถึงกับออกปากว่าเรื่องนี้สุดมาก ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน แถมยังเก็บงำให้คนดูตื่นเต้นเล่นๆ เพราะหนังจ่อลงโรงฉายวันที่ 19 พฤศจิกายน นี้แล้ว แต่ยังเก็บเงียบไม่บอกว่าพระเอกเป็นใคร งานนี้คงต้องไปลุ้นในโรงภาพยนตร์พร้อมๆ กัน
“คาแรกเตอร์อีเรียมซิ่ง ก็ตามชื่อเลยค่ะ อีเรียมซิ่งมากค่ะ (ยิ้ม) เป็นสาวหน้าตาดีแห่งบ้านบางน้ำกร่อยที่ชอบการเตะต่อยชอบการบู๊ แล้วก็มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะมีแฟน อยากจะมีผู้ชายสักคนมารัก แต่ด้วยคาแรกเตอร์จะเป็นคนห้าวๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องผ้าพับไว้อย่างเดียวเหรอผู้ชายถึงชอบ จะต้องมีคนที่ชอบแบบฉันบ้างแหละ ก็จะโดนที่บ้านดุ เพราะมีแก๊งเป็นน้าค่อม ชวนชื่น, พี่โรเบิร์ต สายควัน, พี่บอล เชิญยิ้ม ที่ชอบชวนเราไปบู๊กัน แล้วจะมีทะเลาะกับที่บ้าน ไม่ถูกกับพี่สาวก็คือพี่ แพท ณปภา ที่เล่นเป็นคนเรียบร้อย”
“เรื่องนี้ได้ทำหลายอย่างมาก ทั้งขี่ควาย ยิงธนู ถ่ายในป่า ขี่ควายก็เยอะอยู่ค่ะ เป็นควายจริงๆ เลย เบลไม่เคยขี่มาก่อน ก็ยากเหมือนกันค่ะ น้อง(ควาย)ตัวใหญ่ก็ต้องฝึกค่ะ มีครูมาสอนที่กองถ่าย ความรู้สึกก็กรี๊ดเหมือนกันนะคะ พอนางเดินทีหนึ่งก็กรี๊ด ทำหน้าใหม่แล้วก็เล่นต่อ (หัวเราะ) จะมีอะไรที่คาดเดาไม่ค่อยได้ บางทีนางก็หยุดบางทีอยู่ดีๆ นางก็เดิน ก็ต้องคุยกันค่ะ ไหว้เขาด้วย (หัวเราะ) ว่าเออ…เราทำงานด้วยกันนะ ขอให้ราบรื่น สวัสดีน้องไง มีเจองูด้วยค่ะ เพราะเราต้องเข้าป่ามีภารกิจต้องเข้าไปทำกับแก๊งเพื่อนของเรา มีฉากใต้น้ำด้วย อันนี้ก็มันค่ะ ต้องรอดูนะคะ”
“ด้วยความที่คาแรกเตอร์เขาจะเป็นคนที่สุดโต่ง อันนั้นก็คือก็หนักแล้วสำหรับการแสดงออกที่เต็มที่ เรื่องของหน้าตาท่าทาง อันนี้เบลว่ามันก็เป็นที่สุดของเบลเหมือนกันนะ แต่ก็มีอีกมีเซอร์ไพรส์ในเรื่องที่ยังไม่เคยทำ (เรื่องนี้เบลสุดมาก เล่นไม่ห่วงสวยเลย?) ใช่ไหมคะ (หัวเราะ) ไม่เคยเล่นสุดขนาดนี้มาก่อน คอมเมดี้ก็หนักค่ะ อย่างบู๊ก็หนักอยู่นะคะ มีตีลังกาไปอยู่อีกที่นึง เหมือนปีนข้ามหัวเขา มีต่อสู้กับโจรด้วย เจ็บเนื้อเจ็บตัวไม่เท่าไหร่ มีเป็นลมมาค่ะ คือมันร้อนด้วย แล้วเราน่าจะหายใจไม่ทันมั้ง หรือลืมหายใจก็ไม่รู้ มันเป็นฉากบู๊ด้วยค่ะ ยิงธนูก็เช่นกัน ก็มือเปิดเลยเพราะมันต้องเหนี่ยว เรื่องนี้เบลร้องเพลงประกอบเองด้วยค่ะ ชื่อเพลงลาวดวงเดือน ปล่อยเอ็มวีไปแล้ว ไปหาฟังกันได้ค่ะ”
เผยเหตุผลสำคัญที่รับเล่นหนังเรื่องนี้
“หนึ่งเราเห็นในเรื่องของแคสติ้งด้วย เนื้อเรื่องด้วย ที่มันก็มาทางคอมเมดี้ ก็คือทางเราก็อยากเล่นอันนี้ ตอบรับก็เพราะความคอมเมดี้นี่แหละค่ะ แต่ก็มีเส้นเรื่องนะ มีเกี่ยวกับครอบครัวค่ะ”
สุดจริง นอกจากจะเล่นแบบไม่ห่วงสวยแล้ว ยังมีส่วนร่วมในการดีไซน์จังหวะคอมเมดี้ด้วย
“เบลดีไซน์จังหวะเลยแหละ เบลเป็นคนที่ชอบคอมเมดี้อยู่แล้ว แล้วบทส่งด้วย แล้วมีทั้งผู้กำกับช่วย แล้วคือทุกคนเหมือนช่วยกันปรับบท รวมถึงแก๊งน้าค่อมอีก เรามาปรับกันว่าคนนี้จะประมาณนี้ จังหวะประมาณนี้นะ ส่วนนอกนั้นใครอยากจะเติมก็เติม แต่ละเทกก็จะไม่ค่อยเหมือนกัน แต่มันมาก (ต้องสู้กับแก๊งตลก?) ทุกคนเป็นห่วงเบล แต่เบลได้ เบลชิล เบลโอเค แล้วจะมีหลุดขำนิดหน่อย แต่ไม่เท่าไหร่ บางทีก็หลุดออกจากเรียมมาเป็นเบลล่า แล้วก็กลับไปเรียม จริงๆ คาแรกเตอร์นี้ก็ไม่ได้คล้ายเบลแบบนั้นหรอก เพียงแต่ว่าเบลก็ชอบความโบ๊ะบ๊ะอยู่แล้วไง คือเล่นเองแล้วสนุก แล้วก็อยากให้ทุกคนมาดูกันนะคะ”
อุบ ไม่ยอมบอกว่าเรื่องนี้มีพระเอกไหม
“ไม่บอกละกัน แต่บอกแค่ว่ามีเซอร์ไพรส์ ต้องมาดูค่ะ เรื่องนี้มีชายในฝันด้วยค่ะ จะมีผู้ชายที่เข้ามาอยู่ในฝันเราบ่อยๆ นี่หรือเปล่าเนื้อคู่ของเรา (บอกได้หรือเปล่าว่าใคร?) พี่โอ๊ต ปราโมทย์ (หัวเราะ) นี่คือชายในฝันของเรา เข้ามาอยู่ในฝันของเราเรื่อยๆ เราด้วยเหตุการณ์เลยนี่เนื้อคู่หรือเปล่าอะไรอย่างนี้ (มีเลิฟซีนหรือเปล่า?) รอดูได้ไหม (หัวเราะ)”
เลื่อนฉายมา 2 รอบ ไม่ได้ทำให้ความตื่นเต้นหายไป มีแต่เพิ่มทวีคูณ
“มันไม่หาย แต่มันเพิ่มขึ้นค่ะ คือทุกๆ ครั้งที่มีประกาศว่าหนังจะเข้าโรงฯแล้วก็ เฮ้ย…จริงเหรอ อุ๊ย ตื่นเต้นค่ะ ถ้าถามในเรื่องของเนื้อเรื่องมันสนุกอยู่แล้วจริงๆ แต่อยากให้ทุกคนมาดูกันเยอะๆ เรื่องความคาดหวังในส่วนของรายได้ คือเอาเป็นว่าในเรื่องของรายได้ก็ต้องขึ้นอยู่กับทุกคนแล้วค่ะ ก็ต้องให้ทุกคนมาช่วยกันดูหนังไทยกันเยอะๆ เพราะว่าทางเราตั้งใจมาก ทั้งทีมงานนักแสดง อยากจะให้ความสุขกับคนดูจริงๆ ก็อยากให้คนดูออกมาดูหนังไทยกันเยอะๆ ที่โรงภาพยนตร์ค่ะ รับรองความบันเทิง ต้องหัวเราะท้องแข็ง”
ส่งทีเซอร์ไปอวดหวานใจ “เวียร์ ศุกลวัฒน์” เรียบร้อย ชวนให้มาดูหนังด้วย
“เขาก็ขำค่ะ คอมเมนต์ว่า CG สวย ซึ่งไม่เกี่ยวกับเบลเลย แต่เขาก็รู้อยู่แล้วล่ะว่าเราทำงานมาประมาณนี้ๆ เบลก็ส่งไปอวด แต่ความจริงเบลส่งให้ทุกคน ส่งอวดหมดเลย ทุกคนต้องได้เห็นค่ะ แชร์ด้วยก็ได้ เชิญชวนพี่เวียร์มาดูด้วยนะคะ (ยิ้ม)”
เป็นผลงานหนังที่ตลกผู้ล่วงลับ “โรเบิร์ต สายควัน” ทิ้งไว้ให้แฟนๆ ได้คิดถึงตลอดไป
“ใครที่เป็นแฟนพี่โรเบิร์ต ก็อยากจะให้มาดูพี่เขากันเยอะๆ ในเรื่องนี้ทั้งสนุกและน่ารักด้วย ถ้าถามถึงความประทับใจที่ได้ร่วมงานกับพี่โรเบิร์ต ความจริงแล้วเป็นพี่ๆ ทุกคนเลยค่ะ พี่เขาน่ารักกันหมดทั้งแก๊งเลย แล้วพี่โรเบิร์ตเขาเป็นคนง่ายๆ เป็นคนไม่อะไร กินตรงนี้ นั่งตรงนี้ก็ได้ ใส่อะไรก็ได้ คือเป็นคนไนซ์ แล้วก็จะให้กำลังใจตลอด คนรักแกเยอะค่ะ จริงใจ มีอะไรก็บอกสอนค่ะ”
มีงานรัวๆ ทั้งหนัง ละคร และพรีเซ็นเตอร์ ถึงงานจะล้นมือ แต่เบลล่าบอก ยังรับได้อีก
“งานตอนนี้ก็จะมีภาพยนตร์เรื่องบุพเพสันนิวาส กำลังจะเริ่มเวิร์กช็อปเดือนหน้าค่ะ แล้วก็มีถ่ายละครเรื่องให้รักพิพากษา ก็ออนแอร์ปีหน้า แล้วก็เรื่องพรหมลิขิต ก็น่าจะได้เริ่มกันปีหน้าค่ะ บทพรหมลิขิตยังมาไม่หมดค่ะ แต่ว่าก็มาเยอะแล้ว น่าจะได้เห็นตอนฟิตติ้งกันก่อน ปีหน้าก็แน่นอยู่ค่ะ แล้วก็อาจจะมีโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังคุยๆ อยู่ ว่าจะลงล็อกได้ไหม (เป็นงานอะไรที่แทรกมา?) งานโฆษณาก็จะมีตัวใหม่ค่ะ กำลังคุยอยู่ว่าละครกับหนังจะเพิ่ม ก็ต้องไม่ชนกัน ต้องรับทีละอย่าง งานช่วงกลางปีก็มีคุยแล้วเหมือนกันค่ะ ก็คือแน่ๆ ว่า ปีหน้าทั้งปีแน่นอนค่ะ”
“เอาเป็นว่าติดต่อเข้ามาก่อน (หัวเราะ) เผื่อจัดสรรได้ค่ะ เผื่อจะสลับสับเปลี่ยนอะไรได้ค่ะ ยังมีเวลาให้งานอื่นอยู่ค่ะ ได้อยู่ ไม่ได้ร้อนเงิน (หัวเราะ) แต่แค่เหมือนโปรเจกต์ที่ได้มามันมีแต่โปรเจกต์ดีๆ ไงคะ เราก็อยากทำ (เหมือนพักช่วงโควิด-19 พอแล้ว เลยลุยยาว?) ใช่ๆ เรียกว่าอย่างนั้นเลยก็ว่าได้ค่ะ แล้วเดี๋ยวนี้ในหนึ่งชิ้นงาน เราทำงานใช้เวลากันเยอะขึ้น เพราะว่าความระเอียดมันเยอะขึ้นด้วย อย่างละครถ้าสังเกตใช้เวลาถ่ายทำ 1 ปีอัปกันทุกเรื่อง เวลาออนแอร์ก็ 1-2 เดือน ไม่เคยเจอละครที่ถ่าย 8 เดือนมานานแล้วค่ะ หลักปีทุกเรื่องเลยค่ะ”
“โชคดีมาก งานเบลหลากหลายมาก แต่ว่าเบลก็ได้ทำในสิ่งที่หลากหลายด้วยแหละ แล้วเหมือนคนอาจจะได้เห็นในหลายมุม งานที่เข้ามาก็เลยอาจจะมีหลายหลายรูปแบบ ซึ่งทำให้เบลทำงานแล้วสนุก เหมือนได้เปลี่ยนโหมดตลอดเวลาค่ะ (มีอะไรที่ยังไม่เคยทำแล้วอยากทำไหม?) โอ้... ความจริงแล้วอยากจะเล่นเป็นพวกคลาสสิกๆ หน่อย บอกไม่ถูกเหมือนกัน แบบหนังคลาสสิก ภาพสวยๆ ย้อนยุคก็ได้ ไม่ย้อนยุคก็ได้ แต่ความจริงแล้วคอมเมดี้เป็นสิ่งที่เลิฟ แล้วก็ชอบเอาไปยัดเยียดกับละครหรือซีน”
กลายเป็นนางเอกเรตติ้งสูงทุกเรื่อง เมื่อถามว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นทำให้มาตรฐานในการรับงานสูงขึ้นไหม เจ้าตัวเผยว่า…
“เบลว่าเดี๋ยวนี้งานทุกอย่างมันมาตรฐานสูงขึ้นหมดแหละ คือตั้งใจทำงานในรายละเอียดเล็กๆ กันมากขึ้น ทุกอย่างเลย ทั้งละคร ทั้งหนัง แม้แต่โฆษณาคือแบบไม่ได้เลือกตรงนั้นมากเท่ากับเราจัดสรรเวลาได้ หรือตัวเราเหมาะกับสิ่งๆ นั้นหรือเปล่ามากกว่า เบลไม่ได้รู้สึกว่าเบลกดดันตัวเอง แต่เบลแค่อยากจะละเอียดกับงานมากขึ้น คือเราก็เคี่ยว แล้วก็ใส่ดีเทลมากขึ้นมากกว่า”
เส้นทาง 10 ปีในวงการบันเทิง ของ “เบลล่า ราณี” ที่ตอนนี้เดินมาไกล ขึ้นมายืนเป็นนางเอกซุป’ตาของเมืองไทยไปเรียบร้อย ซึ่งเจ้าตัวเผยจุดเริ่มต้นว่าไม่เคยมองไกลถึงจุดนี้ แต่ดีใจที่ทุกคนมองเห็น
“โอ้โห ...ไม่ได้มองจุดเลย แต่ว่าดีใจที่มีคนมองเห็น ในสิ่งที่เราพยายามจะสื่อสารออกไป คือเบลให้ความสำคัญกับเรื่องการแสดง การทำการบ้าน หรือว่าจะให้คนเชื่อว่าเราเป็นคนๆ นั้น มีความสุขกับผลงานของเรา มันจะเป็นจุดนี้มากกว่า ซึ่งพอมีคนมองเห็น เราก็ดีใจแล้วค่ะ (เขาบอกว่ายิ่งสูงยิ่งหนาวจริงไหม?) ก็ไม่หนาว (หัวเราะ) ไม่ได้สูง”
จุดสูงสุดในวงการที่เรามองไว้ว่าต้องไปให้ถึงมีไหม?
“ไม่มีนะคะ มันเลยไปแล้วมั้ง เราคิดว่านะ แต่เบลพยายามจะรักษาหรือพัฒนาให้มันมากกว่าเดิม เพราะเชื่อว่า สูงสุดไม่มีแท้จริง ยังไงมันต้องเพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประสบการณ์เราเอยอะไรเอย มันควรจะผลักดันให้ตัวเราข้ามได้ดีมากกว่าวันก่อนๆ อีกด้วยซ้ำ”
จุดที่ยืนยิ่งสูง การจะก้าวแต่ละก้าวยิ่งต้องมีสติ แต่ถึงจะเป็นนางเอกตัวท็อปก็ยังใช้เงินเท่าวันเก่าที่ผ่านมา
“ก็ต้องมีสติค่ะ ในทุกโมเมนต์ ไม่ว่าจะขึ้น หรือจะลงอะไรก็ตามแหละ ซึ่งเบลก็เชื่อว่าจุดที่อยู่ตรงนี้ มันก็ไม่ได้อยู่ตลอดไป ก็พยายามจะบอกตัวเองตลอด เพราะทุกวันนี้ก็ยังใช้เงินเท่าวันที่แล้ว ยังทำงานอย่างนี้ๆ เหมือนเดิมทุกๆ วัน ในวันที่ตู้ม! ได้รับรางวัล วันรุ่งขึ้นมันก็กลับไปมาสู่โหมดเดิม ก็ไปอยู่ในตัวละครตัวใหม่ ทำงานเหมือนเดิม”
เข้าใจว่างานวงการบันเทิงไม่มีอะไรแน่นอน มีขึ้นมีลง พร้อมเผยถึงอนาคตวันที่จะเฟดออกจากวงการ
“ใช่ค่ะ แล้วเบลก็รู้สึกว่า ถ้าเราจะอยู่ได้นานๆ มันไม่ใช่ว่าขึ้นสุด ลงสุดหรืออะไร เราแค่รักษามาตรฐานของเรา หรือว่าเราทำผลงานของเราออกมาให้มันดี แล้วก็สม่ำเสมอดีกว่า (มีคิดไหมว่าอายุเท่านี้ๆ จะเฟดออกจากวงการ?) ยังไม่รู้เลย ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ยังไม่ได้แพลนเลยค่ะ ยังเรื่อยๆ อยู่ ยังมีความสุขอยู่ แล้วก็รู้สึกว่าทำงานมีความสุขมากกว่าเหนื่อย ทำงานเยอะๆ ต้องมีช่วงพักบ้างค่ะ ถ้าเราใช้เขาทุกวัน กลัวเขาระเบิด กลายเป็นการทำงานเพื่อรักษาตัว ก็ต้องมีพักบ้างค่ะ แล้วก็มีแบ่งเวลาให้ตัวเอง บางวันนัดออกกำลังกายไว้แล้ว แต่ตื่นไม่ไหวจริงๆ ก็นอน อย่าหักโหมมาก”
การมายืนจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย แม้เบลล่าจะเข้าใจวัฏจักรของวงการบันเทิง แต่ก็อดถามไม่ได้ว่า ได้มองภาพการเป็นนางเอกของตนเองไว้อย่างไร ซึ่งเจ้าตัวแจงว่า…
“อืม...ไม่ได้มองเลยค่ะ แต่เบลได้ทำงานหลากหลาย ก็รู้สึกโอเคแล้ว แฮปปี้แล้วค่ะ (ยิ้ม)”
เคยมองไว้ไหมว่ามันจะมีสเต็ปไหนที่ทำให้เราต้องเฟดออกจากวงการ เพราะก่อนหน้านี้เวียร์บอกว่าถ้าวันหนึ่งมีข่าวดี อาจจะต้องมีคนหนึ่งที่ออกมาดูแลครอบครัว?
“เอ้า...ใคร (หัวเราะ) ยังไม่ได้วางแผน เรียกว่าอย่างนี้ดีกว่า อยากให้มันค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป งานปีหน้าก็ยังมีเยอะอยู่ ยังไม่ได้ตกลงอะไรเลยค่ะ ไทม์ไลน์อะไรก็ยังไม่มีค่ะ (โทษเวียร์นะ เขาเป็นคนเกริ่นเอง?) ต้องไปเคลียร์เองใช่ไหม (หัวเราะ)”
เวลาเห็นเพื่อนแต่งงานก็บิวท์ไม่ขึ้น แต่แอบแง้มงานแต่งงานในฝัน
“ไม่มีเลย เมื่อก่อนมี แต่พอโตขึ้นไม่มีแล้ว ยิ่งชอบความเรียบง่ายด้วยซ้ำ เพราะเห็นมาหมดแล้ว งานเล็กงานใหญ่ งานอบอุ่นครอบครัว เบลชอบอะไรที่ไม่พิธีรีตอง มีความเรียบง่ายมากกว่า”
แม้เบลล่ายังไม่ได้มองไปถึงตรงนั้น แต่เวียร์เริ่มแพลนอนาคตไว้รอแล้ว ถึงกับเอาเรื่องอายุมากระตุ้นสุดฤทธิ์
“ก็อาจจะมองไว้ประมาณหนึ่งแหละค่ะ คือพี่เขาอยู่วงการมานานกว่าเบลไง แต่ของเบลปีหน้ายังเป็นโปรเจกต์บิ๊กๆ อยู่เลย เบลก็เลยยังไม่ได้มองไปถึงตรงไหน แค่แบบมองตรงนี้ก่อน เต็มที่ตรงนี้ก่อน (เวียร์เคยมีคุยกับเราไหม ว่าอนาคตครอบครัวจะเป็นอย่างไร?) จะมีบอกเรื่องอายุ กระตุ้นเรื่องอายุมาเรื่อยๆ ว่าเท่านี้แล้วนะ ตอนนี้ลามมาถึงอายุเรา(หัวเราะ) เราก็อ้าว… พี่จะให้หนูทำยังไง งานหนูมันยังอยู่ เราก็ไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เขากดดัน (แสดงว่าเขาก็เริ่มส่งสัญญาณมาแล้ว?) ใช่ ก็มีแหละนิดหนึ่ง”
“ความจริงแล้วเบลจะบอกว่า พี่เขารับงานไว้เยอะกว่าเบลอีก โปรเจกต์เยอะกว่าเบล (เวลาเขากดดันเรา เราเบรกเขาอย่างไรบ้าง?) ก็ย้อนไปที่ตัวเขาเลยค่ะ ว่าโอ้โห แล้วคุณรับงานเยอะขนาดนี้ (หัวเราะ) ที่จริงมีช่วงหนึ่ง ที่ตกลงกันแล้วว่าเดี๋ยวเราจะเบรกบ้างนะ จะได้มีเวลาให้ครอบครัวไปเที่ยวกัน มันเป็นได้อยู่ประมาณหนึ่งเดือนค่ะ แล้วก็กลับมาโหมดเดิม ที่ทำงานอย่างเข้มข้น”
เวียร์รุกหนัก แถมข่าวเรื่องแต่งงานก็ถี่มีแต่คนลุ้นให้แต่งงาน แต่เจ้าตัวลั่นแม่ไม่เคยถามเรื่องนี้
“ไม่ค่อยค่ะ เพราะว่าเบลเป็นคนเล่าทุกอย่างอยู่แล้วไง ก็สิ่งที่รู้จากสื่อ เขาก็รู้หมดแล้ว มีเพื่อนนี่แหละค่ะที่ถาม ยิ่งเพื่อนที่แต่งงานแล้ว ก็จะบอกว่าตามมาสักทีสิ เราก็ไม่หวั่นไหว (เวียร์ฟังแล้วจะเศร้าไหมเนี่ย?) ไม่เศร้า (ยิ้ม)”
หากถึงเวลาต้องแต่งงานจริงๆ ถามความรู้สึกของเบลล่าว่า จะเสียดายโอกาสในวงการบันเทิงไหม นางเอกสาวได้แสดงมุมมองเรื่องนี้ว่า สิ่งที่ตัดสินใจแล้วย่อมดีที่สุด
“เบลเชื่อว่าคนที่ตัดสินใจแล้ว หรือสิ่งที่ตัดสินใจแล้ว คือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว ก็คืออะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพราะว่าเลือกแล้ว แล้วก็เลือกเองด้วย ไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องแต่งงานกับงาน ก็ต้องเลือก (แต่งงานไปแล้วก็ทำงานไปด้วยได้ไหม?) ห๊ะ (หัวเราะ) อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ต้องรอดู”
