“ไอแบงก์” เป็นปลื้ม หลังปล่อยทีเด็ดในงาน “มหกรรมการเงิน ครั้งที่ 20 Money Expo 2020” ที่จัดขึ้น ณ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 22-25 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดโปรโมชั่นสินเชื่อที่อยู่อาศัยรีไฟแนนซ์ “มีแต่ได้” อัตรากำไรเริ่ม 1.99% ต่อปี นาน 2 ปี ผ่อนนานสูงสุด 40 ปี มีลูกค้าสนใจยอดรวมกว่า 800 ล้านบาท เตรียมจัดต่อวันที่ 13-15 พ.ย. 2563 ณ หาดใหญ่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมเปิดแผนอนาคต ลุยบริการดิจิทัลแบงก์กิ้งเพิ่ม!
นายวุฒิชัย สุระรัตน์ชัย กรรมการและผู้จัดการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ “ไอแบงก์” เปิดเผยว่า งาน Money Expo 2020 ที่จัดไปเมื่อวันที่ 22-25 ตุลาคม ณ เมืองทองธานี ไอแบงก์ได้สร้างความฮือฮาด้วยการจัดโปรโมชั่นเกี่ยวกับการเงินมากมาย อาทิ สินเชื่อที่อยู่อาศัยรีไฟแนนซ์ “มีแต่ได้” สำหรับไถ่ถอนที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น และสินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย โดยมีอัตราดอกเบี้ยเริ่มต้นเพียง 1.99% ต่อปี นาน 2 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 40 ปี ซึ่งจะหมดเขตในวันที่ 31 ต.ค.นี้ ตลอดจนการบริการเงินฝากออมทรัพย์ ibank Step ที่จะจ่ายผลตอบแทนทุกสิ้นเดือนมิถุนายน และธันวาคมของทุกปี ฝากขั้นต่ำ 10,000 บาท ฝากสูงสุดไม่จำกัด ถอนได้ 3 ครั้งต่อเดือน ไม่เสียค่าธรรมเนียม เป็นต้น
“การร่วมออกบูธในงาน Money Expo 2020 ที่จัดขึ้นที่เมืองทองธานี ธนาคารฯได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินเชื่อที่อยู่อาศัยรีไฟแนนซ์ “มีแต่ได้” ซึ่งมีลูกค้าสนใจร่วมเอาวงเงินรวมกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง และในวันที่ 13-15 พ.ย. 2563 ก็จะมีการจัดโปรโมชั่นดังกล่าวอีกในงาน Money Expo 2020 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ หาดใหญ่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ จ.สงขลา ทางไอแบงก์ก็ขอเชิญชวนพี่น้องในพื้นที่ จ.สงขลา รวมถึงประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมงาน พร้อมแวะเวียนเยี่ยมชมบูธของไอแบงก์ ซึ่งผู้เข้าร่วมงานจะได้รับข้อเสนอทางการเงินที่น่าสนใจ ตลอดจนการร่วมกิจกรรมสนุกๆ พร้อมร่วมเล่นเกมรับของรางวัลต่างๆ อีกด้วย” วุฒิชัย กล่าว
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือ ไอแบงก์ เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ สังกัดกระทรวงการคลัง ที่ให้บริการทางการเงินตามหลักการอิสลาม ซึ่งเป็นบริการทางการเงินปราศจากดอกเบี้ย โดยไอแบงก์เปิดให้บริการมาแล้ว 17 ปี มีจำนวนสาขาทั้งสิ้น 102 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการทางการเงินครบถ้วนเกือบจะเทียบเท่าสถาบันการเงินอื่น ไม่ว่าจะเป็น ด้านเงินฝาก, ด้านสินเชื่อ (สินเชื่อบุคคล และสินเชื่อเพื่อธุรกิจ), ด้านการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance), บริการตะกาฟุล, บริการด้านการเงินอื่นๆ เช่น บริการหักบัญชี (Direct Debit) เพื่อชำระค่าสินค้าบริการ ค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา พร้อมเพย์ ตลอดจนจัดการบัญชีซะกาต สำหรับพี่น้องชาวมุสลิม
“ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่า สถานการณ์ “โควิด-19” สร้างผลกระทบต่อประเทศเรา และประเทศอื่นๆทั่วโลก นั่นก็ส่งผลต่อลูกค้าของธนาคาร แต่ไอแบงก์ก็มีมาตรการช่วยเหลือผลกระทบที่เกิดขึ้นให้กับทางลูกค้า อาทิ การพักชำระหนี้ให้ตามมาตรการของภาครัฐ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อย ไม่เพียงเท่านั้น ไอแบงก์ยังได้เข้าไปช่วยเหลือกลุ่มลูกค้าให้มากขึ้น โดยให้วงเงินสินเชื่อถึง 1.7 หมื่นล้านบาท ในการเข้าไปช่วยในสนับสนุนแหล่งเงินทุนให้กับกลุ่มธุรกิจของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ” หัวเรือไอแบงก์ กล่าว
ทั้งนี้ สำหรับแผนงานในอนาคต ทางไอแบงก์ไม่มีนโยบายการเพิ่มสาขามากนัก แต่จะพยายามเข้าไปสร้างและขยายการบริการด้านดิจิทัลมากขึ้น โดยในปีหน้าทางธนาคารจะเปิดตัว Mobile Banking ของธนาคารฯ ตลอดจนการเข้าไปบริการด้านการเงินพื้นฐานให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ได้รับการบริการด้านการเงินที่ทั่วถึง ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นพันธกิจหลักของธนาคารฯ