“ทนายเจมส์” ลั่น “คิตตี้” ไม่คิดฟ้อง หลังโดนเข้าใจผิดปล่อยแชตหลุด “เฌอเอม” เมาท์กลุ่มนางงาม ส่วนมหากาพย์แย่งลูกคดี “ไมค์-ซาร่า” รอฟังข่าวดีเร็วๆ นี้ บรรยากาศคดีดีขึ้น หลังศาลไม่รับคำร้องไมค์ยื่นถอนสิทธิ์ปกครองบุตรร่วมกัน ลั่นไมค์รู้สึกตัวเองมีค่าขึ้น สมควรเป็นพ่อ
ฮอตสุดหยุดไม่อยู่ แทบจะเกิดแฮชแท็ก #เรื่องนี้ต้องถึงทนายเจมส์ เพราะล่าสุด “คิตตี้ ชิชา อมาตยกุล” หรือ “แนนโน๊ะ” รุดเข้าไปขอคำปรึกษาถึงกรณีแชตหลุดกลุ่มนางงาม หลังเจ้าตัวถูกโยงว่าเป็นหนึ่งคนที่อยู่ในกลุ่มนั้น แถมหลายคอมเมนต์ยังบอกว่าเธอเองเป็นคนปล่อยหรือเปล่า ล่าสุด “ทนาย เจมส์ นิติธร แก้วโต” ออกมาชี้แจงว่านักแสดงสาวเข้ามาขอคำปรึกษาจริง แต่ยันไม่ได้ดำเนินการฟ้องใคร เพียงแต่ไม่สบายใจกับหลายคอมเมนต์ที่ต่อว่าตนเอง
“ของน้องคิตตี้ไม่มีอะไรเลย ก็แค่โทร.มาปรึกษาว่าพี่เจมส์ทำยังไงดี สื่อไปพาดหัวข้อข่าวแรงเกินไปแล้วทำให้น้องเขาโดนด่า ไปตั้งเป็นเทรนด์ทวิตเตอร์ประมาณนี้ พี่เจมส์ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวพี่คุยกับพี่ๆ น้องๆ สื่อให้ ก็โทร. ไปบอกให้ช่วยแก้ข่าวให้ได้ไหม บางคนก็แก้ให้ บางคนก็ลบให้เลย
น้องไม่มีความตั้งใจอยากจะฟ้องสื่อ ไม่มีในหัวสมองเลย แค่เป็นการมาปรึกษา เพราะน้องมีความรู้สึกว่าเขาเสียหาย ไปตั้งแบบ คิตตี้แฉ เป็นคนปล่อย อะไรประมาณนั้น จริงๆ การตั้งหัวข่าวจะแรงมากขนาดไหนก็ตามแต่มันไม่ได้เกิดผลกระทบ แต่มันเกิดผลกระทบตอนโดนคอมเมนต์ โดนด่านี่แหละ เขาเลยไม่สบายใจ”
ชี้หาก “คิตตี้” เป็นคนปล่อยแชตไลน์จริง ต้องไปดูก่อนว่าใครเป็นคนเอาไลน์นี้ไปเผยแพร่ เจ้าตัวได้ส่งให้ใครต่อบ้าง ซึ่งมีสิทธิ์ฟ้องได้หากเจ้าตัวได้รับความเสียหาย
“คือถ้าจะฟ้องจริงๆ ต้องไปดูก่อนว่าใครเสียหายจากการปล่อยข่าวนี้ ถึงแม้น้องเขาจะเป็นคนปล่อยเอง สมมตินะ สมมติน้องเขาเป็นคนปล่อย มันต้องไปดูก่อนว่าใครเป็นคนเอาไลน์นี้ไปแพร่หลาย เขาส่งให้ใครไป ไปสืบสาวราวเรื่องกันอย่างนั้น บางทีการที่เขาเอามาให้ดู ส่งต่อเพื่อให้ดูอาจจะเป็นการให้เห็นความจริงอะไรบางอย่างหรือเปล่า สมมตินะสมมติว่าเป็นความจริง (คนที่อยู่ในกรุ๊ปไลน์ที่ถูกปล่อยออกมา มีสิทธิ์ที่จะฟ้องคนที่ปล่อยออกมาได้ไหม?) ก็มีสิทธิ์ทำได้นะถ้าเกิดว่าเขาได้รับความเสียหาย”
กับกรณี “คิตตี้” กับ “เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์” นั้นต้องไปดูก่อนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจริงไหม แต่จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ทำให้ใครเสียหาย
“ผมมองว่าต้องไปดูก่อนสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความจริงไหม ถ้ามันเป็นจริงแล้วเป็นสิ่งที่เขาสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้มันไม่ผิดกฎหมายนะ กฎหมายเปิดช่องให้ทำได้นะ (ชาวเน็ตที่คอมเมนต์ว่าคิตตี้เป็นคนแฉ มีความผิดร่วมด้วยไหม?) ผมมองอย่างนี้ ข้อความที่ไปคอมเมนต์เขาสมมติถ้าเกิดไปคอมเมนต์ในสิ่งที่เขาไม่ได้เป็น เขาไม่ได้ทำ หรือแม้แต่เป็นสิ่งที่เขาทำจริงแต่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาแบบนี้ก็ไม่มีสิทธิ์ไปวิพากษ์วิจารณ์นะครับ
ผมอยากให้ดูในหลายๆ บริบทในการกระทำของคน ไม่ได้อยากให้ไปมองในมุมเดียว ปล่อยแล้วทำให้คนอื่นเขาเสียหายหรือไม่ ต้องไปดูบริบทหรือเจตนาในการปล่อย บางทีเขาอาจจะไม่ได้ปล่อยเอง คนอื่นได้ของไปแล้วเอาไปกระจาย”
ไม่ยืนยัน “คิตตี้” ไม่ได้เป็นคนปล่อยแชต แต่จะไม่มีการดำเนินคดี ทุกอย่างเคลียร์จบแล้ว
“น้องเขาไม่ทราบหรอกว่าใครเป็นคนปล่อย รู้แต่ว่าออกมาตามสื่อ ซึ่งตอนนั้นมันก็เป็นข่าวไปแล้ว แล้วคราวนี้หวยไปออกที่เขา เขาก็เลยเดือดร้อน (ยืนยันได้ไหมว่าเขาไม่ได้เป็นคนปล่อย?) อันนี้ผมไม่ได้ถามลงลึกถึงขนาดนั้น แต่ไม่มีการดำเนินคดี เคลียร์แล้ว จบแล้ว ไม่มีอะไรเลย เคลียร์จบตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคมด้วย
เขามาปรึกษาผมก็จัดการให้เลย ลบตั้งแต่คืนวันที่ 4 ต.ค. แล้ว แต่วันที่ 5 ต.ค. มันจะค้างอยู่ในระบบประมาณสักหลายๆ ชั่วโมงอยู่ เขาติดใจกับพาดหัวข่าวของสื่อที่ระบุว่าเขาเป็นคนปล่อยไลน์นั้น ก็เยอะอยู่ แต่ไม่มีอะไร พี่ๆ น้องๆ กัน เขาก็เข้าใจ เขาก็แก้ไขให้ไม่มีอะไรครับ”
ทั้งนี้ทนายชื่อดังยังเผยต่ออีกว่าในกรณี “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” และ “ซาร่า คาซิงกินี” มหากาพย์แย่งลูก เร็วๆ นี้จะมีข่าวดีออกมาแน่นอน เพราะทั้งคู่เย็นลงและปล่อยวาง หันมาโฟกัสที่ตัวของเด็ก รับศาลยังไม่ให้ถอนฟ้อง เพราะตามกระบวนการของศาลนั้น ในเมื่อมีคนคัดค้านมา ศาลต้องรับฟังก่อน ด้านไมค์ตอนนี้ดีขึ้นหลังไปทำบุญเมื่ออาทิตย์ก่อน
"คือคำสั่งล่าสุดที่เช็กกัน ศาลท่านบอกว่าคดีนี้ในเมื่อมีผู้คัดค้านจึงต้องฟังความเห็นของอีกฝ่ายก่อน นั่นหมายถึงทนายความอาจจะต้องไปยื่น นำหมายสำเนาคำร้องนี้ส่งไปที่ผู้คัดค้านว่าเขาจะคัดค้านไหม ซึ่งเท่าที่ทราบเหมือนเขาคัดค้านเข้ามาก่อนหน้านี้แล้ว คัดค้านไม่ให้ถอนครับ แต่ว่าบรรยากาศดีๆ กำลังจะมี เดี๋ยวค่อยตามข่าวอีกทีนึง (หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย บอกว่าตกลงกันอย่างลงตัวด้วย?) อันนี้ต้องไปสัมภาษณ์พี่หนุ่มแล้ว(ยิ้ม)"
มองสถานการณ์ช่วงที่ผ่านมาดีขึ้นเพราะทั้งคู่ปล่อยวางอดีตพร้อมแก้ไข หันมาโฟกัสที่ลูก
"ดี สถานการณ์ดีเพราะว่าทั้งคู่เริ่มที่จะปล่อยวางอดีต แล้วมาโฟกัสกันที่เด็ก ก็จะเป็นบรรยากาศดีๆ แล้ว เดี๋ยวอาจจะมีแล้ว มีข่าวอีกสักวันสองวัน ยังไม่ถึงขั้นต้องไกล่เกลี่ยกัน คือจุดเริ่มต้นมันมาจากตรงไหนก็ให้ไปแก้ไขตรงนั้น ถามว่าที่ฝ่ายซาร่าคัดค้านมา มันเป็นอะไรที่ไม่ได้เกินความคาดหมาย เราคิดไว้อยู่แล้วเขาต้องมาคัดค้านแน่นอน
เพียงแต่เราอยากจะแสดงจุดยืนจุดนึงที่เราเคยถูกต่อว่ามา ว่าเราไม่เหมาะสมเราก็ต้องถอนแค่นั้นเอง แต่ถ้าเขาไม่ให้ถอน คุณยังสมควรเป็นพ่ออยู่ก็ค่อยมาว่ากันอีกทีนึง เอาเหตุและผลมาว่ากัน"
ส่วน 4 ข้อเรียกร้องใหม่ถือเป็นเบสิกที่ทุกคดีเกี่ยวกับครอบครัวต้องมี แย้มตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปในทิศทางที่ดี
"ผมว่า 4 ข้อมันก็เป็นพื้นฐานเบสิกที่ทุกคดีต้องมี ต้องคุยกันเรื่องอะไรบ้างอ่ะ เรื่องสมควรเป็นพ่อไหม จะคัดค้านไหม อำนาจปกครองเป็นของใคร สิทธิในการเยี่ยมเยียนบุตรเป็นยังไง อันสุดท้ายน่าจะเป็นเรื่องของการอุปการะเลี้ยงดู ค่าเทอม อะไรแบบนี้ บางครอบครัวอาจจะออกค่าอุปการะเลี้ยงดูแล้วกัน ส่วนค่าเทอมก็หารครึ่ง หรือบางครอบครัวหารครึ่งทั้งหมดเลย บางครอบครัวไม่เป็นไรเธอยังไม่มีงานฉันออกคนเดียวทั้งหมด ก็มี หลายๆ รูปแบบนะครับ ก็ต้องไปตกลงกัน ตอนนี้ข้อเรียกร้องทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มไปในทิศทางเดียวกัน ที่ดีกว่าแต่ก่อน"
ยังรอดูสถานการณ์ว่าวันที่ 2 พ.ย.ยังต้องไปศาลหรือไม่ เผยคำคัดค้านของศาลทำให้บรรยากาศคดีดีขึ้น
"อันนี้ผมขออนุญาตดูสถานการณ์อีกสัก 2-3 วันต่อจากนี้ก่อนว่าบรรยากาศมันจะเป็นยังไงนะครับ (หลังจากที่ทางนั้นคัดค้าน ตัวไมค์เองเป็นยังไงบ้าง?) เขาเฉยๆ นะ พอเขาคัดค้านมาก็รู้สึกว่าตัวเองมีค่าขึ้น คัดค้านหมายถึงว่าคุณสมควรเป็นพ่อนะ อย่างนี้จะดีใจไหม คือคำร้องฉบับแรกบอกคุณไม่สมควรเป็นพ่อ อันที่ 2 มาบอกสมควรเป็นพ่อแล้วนะ บรรยากาศมันก็ดีขึ้น มันเป็นเรื่องที่ผมคุยกันตั้งแต่ตอนแรก ว่าสิ่งที่เราคาดหวังว่ามันจะเกิดขึ้น คุยกันไว้แล้ว ภายใน 1-2 วันนี้น่าจะได้เห็นข่าวดีแน่นอน”