เป็นประเด็นขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่เฟซบุ๊กทนายความ “อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช” ได้ไลฟ์สดพร้อม “ศิรินทรา หรือศิริญญญ์รดา เลืองวัฒนะวณิช” ลูกสาว และ “ซาร่า คาซิงกินี” พูดถึงกรณีที่ “ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ถอนคำร้องสิทธิปกครองบุตรร่วมกัน โดยตอนหนึ่ง อ.ประมาณได้เผยว่า หากไมค์รักลูกจริงต้องไม่ถอนคำร้องเพราะเป็นประโยชน์ที่เกิดกับลูก ส่วนเรื่องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอยู่ที่สามัญสำนึก
“ผมตำหนิใครเอาเรื่องภายในครอบครัวเขาไปออกสื่อ ใครเป็นต้นคิดจนเป็นปัญหาขึ้นมา ไม่เห็นใจเด็กเหรอ เด็กแค่ 6 ขวบเอง พอซาร่าแถลง คนมาบอกคุณควรอยู่เฉยๆ ฝ่ายชายอยากจบแล้วทำไมไม่อยู่เฉยๆ ที่ผ่านมาตั้งแต่ก.ย. ถล่มจนปัจจุบัน จนซาร่าจะไม่มีที่ยืน ก็อยากให้ผู้ชมที่ดูอยู่ให้ความเห็นใจคนเป็นแม่ที่เลี้ยงดูลูกบ้าง ผมเห็นแล้วแก้ไขยาก เลยต้องเขียนขึ้นมาใหม่ และยกเลิก 6 ข้อเรียกร้องเดิม เพราะไม่ใช่สิ่งที่ซาร่าจะเรียกร้อง เขาแค่คิดเฉยๆ
ที่เชื่อข้อมูลซาร่าเพราะใช้เวลาคุยกันเป็นสัปดาห์ ดูหลักฐานการเงิน และแชตไลน์ตลอด อ่านแชตไลน์ 200-300 หน้า คดีทุกคดีที่เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนก่อน คนโกหกแววตามันบอก เวลาโกหกปั๊บแล้วจะมีพิรุธเลย ถ้าไม่เอาความจริงมาพูดก็ไม่ทำให้ เราทำงานด้านนี้เป็น 10 ปี เราเป็นมืออาชีพ วันนี้ผมเลือกยืนข้างซาร่า เพื่อนบอกว่าทัวร์กำลังลง ต้องดูข้อเท็จจริง เห็นใจน้องซาร่า
ไม่ได้ฟังจากคำพูดซาร่าอย่างเดียว คลิปเสียงก็ฟังหมด เข้าใจความรู้สึกว่าถ้าอยู่ในจุดที่เขายืนอยู่ อาจไม่ได้เข้มแข็ง มีข้อเท็จจริงเยอะที่หลายคนไม่รู้ บางคนพูดแรงออกทีวี บอกว่าเอาเงินผัวเก่ามาเลี้ยงผัวใหม่ หมิ่นประมาทเขามากเลยนะ ใส่ความเขานะ ระวังให้ดี ใครพูดคำนี้ ทั้งหมดที่ไมค์จ่ายไม่ใช่ข้อเรียกร้องซาร่า ที่เขาจ่ายเยอะคงอยากให้สิ่งดีๆ กับลูก เรื่องก็ดูดี แต่เริ่มเสียตอนมีคนเอาออกมาออกสื่อ
ไมค์บอกว่าตัดสินใจจะถอนคำร้อง ก็กลับไปสู่สภาพเดิม กลายเป็นบุตรนอกกฎหมาย ไม่มีหน้าที่เลี้ยงดูลูก ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย เขาบอกจะเก็บเงินให้ลูกจนกว่าบรรลุนิติภาวะ ฟังดูดี แต่ลูก 6 ขวบ บอกว่าจะไม่จ่ายค่าอะไรให้ลูก ไม่ยุ่งไม่รับผิดชอบ เดี๋ยวอายุ 20 จะเอาเงินก้อนที่เก็บไว้มอบให้ ฟังดูดี แต่ผิดหน้าที่ความเป็นพ่อ เด็กต้องการการอุปการะตอนเป็นผู้เยาว์ ต้องใช้เงินเพื่อการศึกษาเล่าเรียน พอ 20 ต้องเริ่มทำมาหากินด้วยตัวเอง คดีนี้จะบอกว่าเรียกแต่เงิน ไม่ใช่ มันค่อนข้างผิดหลัก
อำนาจปกครองขอให้อยู่ที่น้องซาร่าคนเดียว เหตุผลคือพ่อกับแม่ไม่ได้เป็นสามีภรรยา แยกกันอยู่ อยู่กันต่างที่ต่างทาง การใช้อำนาจปกครองร่วมกันยุ่งมาก การมีอำนาจปกครองลูกคือการกำหนดถิ่นที่อยู่ของลูก ควรให้แม่ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูกำหนด ถ้าพ่อดูแลเอง พ่อไปต่างประเทศตลอด ก็ต้องจ้างพี่เลี้ยงมาดูแล แล้วพี่เลี้ยงรับจ้าง เขามาเพื่อเงิน กับแม่ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขตัวเอง มันต่างกันเยอะ ตรงนี้แม่ก็ทำใจยาก
ถ้าวันนี้บอกจะถอนคำร้อง ตรวจมาแล้วยังไม่เห็น ก็กลับไปสู่สภาพเดิม ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมาย คุณซาร่าต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ค่าเทอมค่าใช้จ่ายลูกที่บ้านซัปพอร์ตมาตั้งแต่เดือน มี.ค. เงินที่ส่งเสียเลี้ยงดูมาก็เก็บไว้ให้ลูก เงิน 3 หมื่นที่ได้ไม่ได้ใช้เลย ยังอยู่ในบัญชีเหมือนเดิม
ถ้าคุณไมค์ถอนคำร้องก็เท่ากับอำนาจปกครองอยู่กับแม่ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม ถ้าคุณไมค์รักลูกจริงเหมือนอย่างที่เป็นข่าว ต้องไม่ใช้วิธีถอนคำร้องนะ เพราะการยื่นคำร้องดีสำหรับเด็กอยู่แล้ว อำนาจปกครองบุตรก็ให้อยู่ฝ่ายแม่ ให้ผู้ร้องเยี่ยมตามสมควร ถ้าถอนคำร้องต่อไปซาร่าก็เลี้ยงลูกลำพัง ไมค์จะช่วยเหลือยังไงก็ตามใจเขา บังคับเขาไม่ได้ พร้อมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวจริงๆ
ถ้าเป็นพ่อนอกกฎหมาย บุตรจะเหลือแค่แม่ จะเป็นส่วนเสียกับลูก อยู่ที่สามัญสำนึก จะช่วยดูแล ช่วยค่าใช้จ่าย ค่าเล่าเรียน ก็เป็นเรื่องสำนึกในหน้าที่ ไม่ใช่หน้าที่ในกฎหมาย ที่ผ่านมาไมค์ก็ดูแลลูก วันนี้เกิดกระแส ซาร่าก็ยอมให้เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย จะเยี่ยมลูกก็ยอม แค่ขออำนาจปกครองให้อยู่ที่เขา
ฝากไปยังไมค์และทนายเจมส์ ว่าวิธีการแบบนี้ ถ้ายังมีความผูกพันกับลูกคำร้องที่เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายก็เป็นประโยชน์กับเด็ก อ่านในแชตไลน์ซาร่า ไมค์ก็รักลูก ทั้งคู่รักลูก และลูกรักพ่อแม่ สิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกเจอพ่อแม่ดีกว่า
ถ้าเห็นว่าการมีคดีความในศาลต่อไปจะเป็นปัญหาต่อลูกก็เลยถอนไป แต่ถ้าหากต่อยอด ยื่นคำร้องและแก้ไขเพิ่มเติม ขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ดูแลลูกตามหน้าที่ และให้อำนาจปกครองอยู่ที่แม่ ให้ไมค์เยี่ยมลูกได้ตามสมควร ก็จะเกิดความสมบูรณ์ในครอบครัว มีพ่อแม่ลูกสมบูรณ์ แล้วที่ผ่านมา 6 ปีที่ดูแลลูก ไม่มีความผูกพันเหรอ
หลายคนอยากให้หยุด เพราะกระทบลูก จริงๆ เรื่องครอบครัวไม่น่าพูดออกสื่อขนาดนี้ แต่บอกกองเชียร์คุณไมค์หยุดถล่มซาร่าซะที และเปิดใจกว้างๆ ว่าเป็นเรื่องปัญหาครอบครัว บางคนอ้าปากมาว่าเห็นแก่ลูกแต่ไปด่าแม่เขา ต้องแฟร์ ทุกคนจะถล่มซาร่าและให้หยุดพูดก็ไม่ใช่ ถ้าคนไม่หยุดถล่มก็ต้องสู้เพื่อปกป้องสิทธิ์ วันนี้ที่ดีที่สุดไม่ใช่แม่หยุดอย่างเดียว ทุกคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับครอบครัวเขาก็หยุดซะ สิทธิตามศาลก็ไปตามคดี เป็นพ่อก็เป็นไป ช่วยกันรับผิดชอบชีวิตลูกดีที่สุดแล้ว ปล่อยให้เป็นเรื่องในครอบครัว
ส่วนที่ทุกคนกลัวเงินไมค์จะไม่ถึงลูก ก็ให้เขาจัดการกันเอาเอง เงินให้ส่งตรงถึงโรงเรียนไหม คุณพ่อจะช่วยแค่ไหนก็เรื่องของคุณพ่อ อยู่ที่จิตของคุณพ่อ ตอนนี้ให้หยุดถล่มกันให้หมด”
พร้อมโพสต์ต่อว่า “วันนี้ผมขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกผมเองนะครับ และจะมอบให้ลูกในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ
ฟังแล้วดูดีครับ แต่มีใครคิดบ้างหรือไม่ วันหนึ่งน้องโตขึ้นมา อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องมาเห็นเหตุการณ์นี้ น้องจะคิดอย่างไร
พ่อ .... มาร้องขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายและขอใช้อำนาจปกครองบุตรร่วม จนทำให้เกิดประเด็นต่างๆมากมายในสังคม
แม่ .... คัดค้านพร้อมข้อเรียกร้องให้ลูก 6 ข้อ ต่อมาแจ้งยินดีให้รับรองบุตรเป็นบิดา แต่ขออำนาจปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียว ด้วยเหตุผลที่ว่าแม่อยู่กับลูกมาตลอด 6 ปี รู้จักลูกเป็นอย่างดี และพ่อไม่ค่อยมีเวลา
>>> ต่อมา พ่อถอนคำร้องไม่รับรองบุตรและปกครองร่วม
เมื่อลูกอายุครบ 20 ปี ลูกจะคิดหรือไม่ครับ ว่าที่ผ่านมา 14 ปี ทำไมพ่อไม่เลี้ยงดูอุปการะผมในวันที่ผมต้องได้รับการศึกษา ทำไมถึงนำเงินมาให้ผมในวันที่ผมอายุ 20 ปี โตพอที่จะทำมาหากินเองได้แล้ว
นี่พ่อไม่ให้การศึกษาผม เพียงเพราะพ่อโกรธแม่ที่มีน้องอีกคนที่ผมรักยิ่งหรือป่าว... ที่พ่อถอนคำร้องไม่รับผมเป็นบุตรนี่พ่อทำเพื่อผมจริงๆ หรือเพื่อเอาชนะแม่กันแน่
ฝากไว้ให้คิดนะครับ อย่าเพิ่งเอามันเข้าว่า สมน้ำหน้าฝ่ายหญิง ขอให้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวสมใจ เพราะเรื่องนี้กระทบกับเด็กน้อยโดยตรง อย่าเอาความสะใจของเราไปทำร้ายเด็กเลยครับ อยากให้มองข้ามความโกรธและคิดเพื่อประโยชน์ของเด็กจริงๆ
#ดีที่สุดสำหรับเด็กคือพ่อต้องรับรองบุตร #ดีที่สุดสำหรับเด็กคือพ่อต้องไม่ถอนคำร้อง #เพราะยื่นเข้ามาแล้ว #มีอีกหลายวิธีที่สามารถอุปการะลูกได้โดยไม่ผ่านแม่ #หรือไม่อยากอุปการะตอนนี้เพราะเศรษฐกิจก็พูดกันตรงๆ #รออีก14ปีค่อยอุปการะตอนที่ลูกโตแล้ว #นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ลูกควรอยู่กับแม่เพราะแม่จะไม่มีวันทอดทิ้งลูกแบบนี้ #อย่าทอดทิ้งลูกเพียงเพราะโกรธแม่ #ซาร่าคาซิงกินี #ไมค์พิรัชต์”