“ทนายประมาณ” ขอโทษโพสต์รุนแรงเกินสมควร ยันรับทำเคส “ซาร่า” เห็นใจแม่ที่รักลูก ถูกโจมตีจนไม่มีที่ยืน ปรามสื่ออย่าใช้ซาร่าเป็นเครื่องมือสร้างกระแส พร้อมแจงละเอียด ทำไมต้องยื่นคัดค้านการถอนคำร้อง “ไมค์ พิรัชต์”
เดินหน้าทำหน้าที่เป็นทนายความให้ฝั่ง “ซาร่า คาซิงกินี” สำหรับ “อ.ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช”ทนายความชื่อดัง แต่ภายหลังจากที่แสดงความคิดเห็นกรณี“ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล” ตัดสินใจถอนคำร้องใช้สิทธิ์ปกครองร่วมกัน ทำนองที่ว่าหากไมค์รักลูกจริงต้องไม่ถอนคำร้อง เพราะเป็นประโยชน์ที่เกิดกับลูก ส่วนเรื่องช่วยเหลือค่าใช้จ่ายอยู่ที่สามัญสำนึก ตามมาด้วยโพสต์ “วันนี้ผมขอเก็บเงินเข้าบัญชีของลูกผมเองนะครับ และจะมอบให้ลูกในวันที่ลูกบรรลุนิติภาวะ” ฟังแล้วดูดี แต่มีใครคิดบ้างหรือไม่ วันหนึ่งน้องแม็กซ์เวลล?โตขึ้นมา อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ บรรลุนิติภาวะแล้ว น้องมาเห็นเหตุการณ์นี้ น้องจะคิดอย่างไร ฟาดแรงอย่าเอาความสะใจทำร้ายเด็ก ขอให้มองข้ามความโกรธเพื่อประโยชน์ของเด็ก จนทำทัวร์ลงหนักหน่วง
ล่าสุด วันนี้ (10 ต.ค.) อ.ประมาณ ได้ไลฟ์สดอีกครั้ง พร้อมเผยว่า ตอนนี้ทัวร์ลงหนักมาก ยันไม่ได้เข้าข้างฝ่ายไหน เพราะไม่ได้มีส่วนได้เสีย แต่ที่มารับทำคดีให้ซาร่า เพราะเห็นใจที่อีกฝ่ายไม่มีที่ยืนในสังคม
“ทัวร์ลงมาก คนคอมเมนต์แรงๆ ไม่ดูตาม้าตาเรือ ขอให้ใจเป็นกลาง รับผิดชอบทุกความเห็น วันนี้สังคมโหมกระหน่ำจนผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างซาร่าแทบไม่มีที่ยืน ใครก็มองเป็นคนไม่ดี ทุกท่านเสพข่าวจากสื่อ เรื่องซาร่าที่มาหารือ ผมเสพข่าวทั้งหมดจากพยานหลักฐาน และจากปากน้องซาร่า เวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงจำเป็นต้องซักไซร้โดยละเอียด เจาะหาที่มาที่ไป วันนี้ซาร่าน่าสงสารจริงๆ โดนกระหน่ำจนไม่มีที่ยืน ผมเห็นพยานหลักฐานต่างๆ ถ้าไม่ยื่นมือมาให้ซาร่าได้มีโอกาสชี้แจง ผมก็หมดราคาของการเป็นนักกฎหมาย
ทำไมต้องแก้ไขคำคัดค้านทั้งหมด ตรวจสอบแล้ว เขาต้องเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย การที่น้องไมค์ ขอเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ยกนิ้วให้เลย แต่พอน้องซาร่าแถลงข่าววันที่ 6 น้องไมค์ก็ถอนคำร้อง กลายเป็นบิดานอกกฎหมายเหมือนเดิม ถามว่าเกิดประโยชน์กับลูกไหม ผมเป็นทนายไม่ได้มีส่วนได้เสีย เป็นนักกฎหมาย เรียนกฎหมายเพื่อระงับข้อพิพาท ให้มันแฮปปี้เอนดิ้ง จบด้วยดี
ทัวร์ลงผมว่าผมต่างๆ นานา โปรดระมัดระวังหน่อย อย่าคิดว่ามีคีย์บอร์ดในมือแล้วจะทำอะไรก็ได้ตามอำเภอใจ อยากให้คนเห็นคลิปนี้ ค่อยๆ พิจารณาข้อเสนอทีละขั้นทีละตอน เราจะร่วมมือกันให้ครอบครัวเขากลับมาสู่ภาวะปกติ จริงๆ คดีครอบครัวไม่ใช่เรื่องใหญ่ คุยกันได้ คุยในศาลได้ แม้แต่การใช้อำนาจปกครองก็สามารถคุยได้ ตกลงได้หมด ทุกอย่างเพื่อประโยชน์ของลูกทั้งหมด กระแสสังคมเพลาๆ ลงหน่อย ขอร้องเถอะ ผมไม่มีเจตนาเข้าข้างใคร เพราะไม่มีส่วนได้เสีย
ฝากถึงสื่อมวลชน สื่อบางรายเอาซาร่าเป็นเครื่องมือในการสร้างกระแส ขอให้เพลาๆ หน่อย และตั้งสติหน่อย เราแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต อย่าเอาแต่มันส์เข้าว่า อย่าด่าอย่างเดียว หวังว่าทุกอย่างจะลงเอยด้วยดี”
นอกจากนี้ ยังได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า...
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษที่การโพสต์ก่อนหน้านี้อาจจะดูรุนแรงเกินสมควร
ผมขอชี้แจงว่า ที่ผมรับทำเคสของน้องซาร่า เพราะเห็นใจที่แม่ที่รักลูกมากๆ ดั่งดวงใจคนหนึ่งต้องมาเผชิญกับสถานการณ์เช่นในปัจจุบันผมอยากให้ทุกคนเปิดใจและมองอย่างเป็นกลางว่าทั้งน้องไมค์และน้องซาร่ามีส่วนในการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน ให้การศึกษาเล่าเรียนแก่น้องแม็กซ์เวลล์ทั้งคู่ โดยเขาแบ่งหน้าที่กันทำ พ่อทำมาหากิน หาเงินส่งเสียให้ลูกมาแล้วเกือบ 8 ล้าน ส่วนแม่ก็ผูกพันตั้งครรภ์ เลี้ยงลูก ให้น้ำนม อบรมบ่มนิสัย ให้ความรักมาโดยตลอด ทั้งคู่ต่างทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดมาโดยตลอดครับ มันเทียบไม่ได้หรอกครับว่าใครทำหน้าที่ได้ดีกว่าใคร เพราะทั้งคู่ไม่ได้ทำหน้าที่เดียวกัน
ส่วนเรื่องอะไรที่ทั้งคู่เคยทำหรือพูดในอดีต ขอให้มองเป็นอดีตไป เพราะมันไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ การที่เราซ้ำเติมใครจากเรื่องที่ผ่านมาแล้วมันไม่ได้มีประโยชน์ใดๆ เกิดขึ้นเลยครับ
วันนี้เมื่อมีเรื่องขึ้นมาสู่ศาล และทางฝ่ายน้องไมค์ขอถอนคำร้องไม่รับเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขอใช้อำนาจปกครองร่วม ที่ผมพูดว่าไม่ควรถอน ผมขอชี้แจงในประเด็นข้อกฎหมายนะครับ
- การขอรับรองบุตรเพื่อให้เป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดา เป็นสิ่งที่ดีและสมควรทำครับ เพราะจะทำให้เด็กมีทั้งพ่อและแม่ที่ชอบด้วยกฎหมาย มีสิทธิได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากทั้งพ่อและแม่ เมื่อเด็กโตขึ้นก็จะมีหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงพ่อ-แม่ เมื่อชราเช่นเดียวกัน
- ส่วนอำนาจปกครองบุตร โดยหลักแล้วมาพร้อมกับการเป็นบิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย โดยอำนาจปกครองบุตรนี้จะทำให้บิดามารดา สามารถกำหนดถิ่นที่อยู่ของเด็กได้ ให้ทำงานตามสมควร ว่ากล่าวตักเตือน เรียกเด็กคืนจากผู้ที่ไม่ได้มีอำนาจปกครอง และยังจัดการทรัพย์สินและการต่างๆ ของเด็กได้ อย่างไรก็ดี หากมีเหตุการณ์ใดที่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยาก หรือขัดต่อประโยชน์และความผาสุกของเด็ก อาจสามารถกำหนดให้พ่อหรือแม่หรือบุคคลอื่นมีอำนาจปกครองบุตรแต่เพียงฝ่ายเดียวได้ โดยไม่กระทบต่อความเป็นบิดาและมารดาที่ชอบด้วยกฎหมาย
ในประเด็นของน้องไมค์และน้องซาร่า เนื่องจากทั้งคู่ไม่ได้อยู่กินกันฉันท์สามีภริยา ถ้าให้ทั้งคู่ใช้อำนาจปกครองร่วมกัน ทั้งคู่ก็จะสามารถกำหนดถิ่นที่อยู่ของลูกและอื่นๆ ได้ และหากเห็นไม่ตรงกันก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาตามมา ในกรณีนี้จึงควรมีผู้ใช้อำนาจปกครองเพียงคนเดียว และซึ่งน้องซาร่าเป็นแม่ของลูก คลุกคลีอยู่กับลูกมาทั้งชีวิตของลูก ให้ลูกกินนมจากเต้ามากว่า 4 ปี ทำหน้าที่ของแม่ได้ไม่บกพร่อง จึงควรจะให้อำนาจปกครองยังคงอยู่กับน้องซาร่า (เหมือนกรณีทั่วไปที่บิดามารดาหย่าร้างกัน ก็ต้องมาตกลงกันว่าจะให้ลูกอยู่กับใคร ให้คนนั้นมีอำนาจปกครองบุตร และให้อีกฝ่ายมีสิทธิเยี่ยมเยียนตามสมควร)
ดังนั้น คำคัดค้านฉบับใหม่ที่ผมเขียนให้ น้องซาร่าจึงยินยอมให้น้องไมค์เป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย แต่ขอให้อำนาจปกครองบุตรยังอยู่ที่แม่
จากเหตุการณ์นี้เข้าใจว่าน้องไมค์มาร้องต่อศาลเพราะต้องการรับรองบุตร รู้สึกถูกกีดกันและอยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจเกี่ยวกับลูก วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องคือการที่จะต้องมาคุยมาไกล่เกลี่ยกับฝ่ายน้องซาร่าว่าเพราะอะไรถึงรู้สึกถูกกีดกัน และน้องซาร่าก็ควรจะพยายามให้โอกาสพ่อได้เจอกับลูกและมีส่วนในการตัดสินใจมากขึ้น แต่ทั้งคู่ต้องคุยกันครับ
เมื่อถึงวันนัดไกล่เกลี่ย พ่อกับแม่ก็ควรจะมาไกล่เกลี่ย โดยสามารถตกลงกันได้ในชั้นไกล่เกลี่ยของศาลว่าให้อำนาจปกครองบุตรส่วนไหนอยู่กับพ่อและให้ส่วนไหนอยู่กับแม่
การถอนคำร้องไม่รับรองบุตรเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย และไม่ขอใช้อำนาจปกครองร่วม นอกจากจะไม่ทำให้น้องไมค์บรรลุวัตถุประสงค์ของการยื่นคำร้องเข้ามาในครั้งนี้แล้ว ยังกระทบต่อสิทธิของน้องแม็กซ์เวลล์ด้วย ผมจึงเห็นว่าไม่ควรถอนการรับรองบุตร ควรจะถอนเฉพาะส่วนของการใช้อำนาจปกครองร่วมเพียงเท่านั้น เพราะการที่น้องไมค์ยื่นคำร้องเข้ามาแล้ว เป็นการแสดงเจตนาที่จะรับรองบุตรแล้ว เมื่อถอนไปศาลจะต้องถามฝั่งมารดาว่าคัดค้านการถอนหรือไม่ ทางน้องซาร่าอาจจำเป็นจะต้องคัดค้านไม่ให้ถอนในส่วนของการรับรองบุตรเพราะเป็นสิทธิของน้องแม็กเวลล์โดยตรง
เพราะหากน้องซาร่าไม่คัดค้าน ก็จะทำให้น้องแม็กเวลล์ไม่มีพ่อที่ชอบด้วยกฎหมาย และหากอนาคตน้องแม็กซ์เวลล์ต้องการให้พ่อรับรองบุตร หากฝ่ายบิดาไม่แสดงเจตนาไปจดทะเบียนรับรองบุตร น้องแม็กซ์เวลล์ก็อาจจะต้องกลับมาฟ้องต่อศาลอีกครั้ง
ในส่วนของหน้าที่ในการอุปการะเลี้ยงดูบุตร ที่เป็นผลมาจากการเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมาย ผมเห็นว่าน้องไมค์ยังคงสามารถทำได้ ไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกบรรลุนิติภาวะก่อน เพราะจริงๆ แล้วบุตรผู้เยาว์จำเป็นต้องได้รับการอุปการะเลี้ยงดูจากพ่อและแม่ในระหว่างที่เขายังไม่บรรลุนิติภาวะ ต้องการได้รับการศึกษาเล่าเรียน โดยหากมีความกังวลว่าเงินจะไม่ถึงมือลูก ก็สามารถโอนตรงให้กับทางโรงเรียน หรือหากอยากให้ประกันสุขภาพลูก ก็สามารถจ่ายตรงให้กับบริษัทประกันได้ ดั่งเช่นที่ทำมาตลอด ไม่จำเป็นต้องโอนให้น้องซาร่าครับ
หวังว่าโพสต์นี้จะให้ประโยชน์แก่หลายๆท่าน และช่วยให้ปัญหาที่เกิดขึ้นของครอบครัวนี้ดีขึ้นในเร็ววันนะครับ
ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช
10/10/20