xs
xsm
sm
md
lg

“จอนนี่” แตกหัก “เจแฮร์” ฟ้องแหลกอดีตหุ้นส่วน เรียก 50 ล้าน! แฉที่ผ่านมาอยากได้บริษัทก็ยกให้!

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จอนนี่” ควงทนายดัง ขึ้นศาลฟ้องอดีตหุ้นส่วน ลักไก่นำรูปไปใช้โฆษณา เกิดความเสียหาย เรียกค่าสินไหมทดแทน 50 ล้าน ลั่นให้เวลา 1 เดือนแล้ว ที่ผ่านมาอยากได้บริษัทก็ยกให้ ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ดึงเมียมาแจม ระงับและทำลายทิ้งไปแล้ว รับกระทบธุรกิจใหม่ เสียโอกาส ผู้บริโภคเกิดความสับสน ก่อนเผยจุดพีกผู้บริโภคใช้แล้วได้รับผลกระทบ 

เปิดธุรกิจผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมมาได้แค่ปีกว่า ก็มีเหตุให้นักแสดงชื่อดัง “จอนนี่ แอนโฟเน” ต้องถอนหุ้นออกมาจากบริษัทที่ตนเองเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง เนื่องจากแนวคิดการทำธุรกิจไม่ตรงกัน แถมมีปัญหาให้ต้องหัวเสีย เมื่ออดีตหุ้นส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์ “เจแฮร์” บริษัท นัมเบอร์วัน 888 จำกัด และ “นางกันต์กนิษฐ์ สระทองอ้อย” กระทำการละเมิดด้วยการนำภาพของเจ้าตัวไปใช้หาผลประโยชน์ โดยนำภาพไปลงโฆษณาในระบบคอมพิวเตอร์ สื่อสังคมออนไลน์ อินสตาแกรม เฟซบุ๊ก ตลอดจนตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ ใกล้ทางด่วนโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดว่าตนยังเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์อยู่ สร้างความเสียหายเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (15 ต.ค. 63) เวลา 09.30 น. “จอนนี่ แอนโฟเน” ได้เดินทางมาที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทนายความส่วนตัว “นายสงกาญ์ อัจฉริยะทรัพย์” เพื่อยื่นฟ้องแพ่งอดีตหุ้นส่วน และเรียกค่าสินไหมทดแทน เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ โดยศาลนัดไกล่เกลี่ย วันที่ 19 พ.ย. 63 และนัดสืบพยานนัดแรก วันที่ 17 ธ.ค. 63

ทนาย : “วันนี้สืบเนื่องจากทางคุณจอนนี่ แอนโฟเน มาใช้สิทธิ์ทางศาล กรณีได้มีการจดแจ้งหุ้นส่วน ที่ทำธุรกิจเซรั่มเจแฮร์ บอกว่าให้หยุดดำเนินการโฆษณาตั้งแต่วันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา แต่ปรากฎว่ายังมีการโฆษณาอยู่ เนื่องจากว่าทางคุณจอนนี่ หนึ่งถือเป็นว่าเป็นการละเมิด สองเป็นการรับผิดชอบต่อผู้บริโภค ในการดำเนินการประการหนึ่งประการใด ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ แล้วมันต้องมีเหตุมีผลว่าทำไมถึงต้องให้ระงับการโฆษณาในครั้งนี้ รายละเอียดต่างๆ อยู่ในสำนวนการฟ้องหมดแล้วครับ”

จอนนี่ : “ทุกวันนี้ทุกคนยังนึกว่าผมทำเจแฮร์อยู่ อันนี้คือผิดแล้ว แล้วก็ละเมิดแล้ว เอาในทางข้อตกลงในการร่วมงาน ผมเนี่ยไม่ได้ร่วมสังฆกรรมกับเจแฮร์มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้วครับ สิ้นสุดที่ปลายเดือนมิถุนายน ทางวาจาที่มีปัญหา แล้วก็แยกย้าย โดยที่ผมก็แต่งตั้งตัวแทน แล้วก็มอบฉันทะให้เข้าไปประชุมผู้ถือหุ้น แล้วให้ดำเนินการถอนผมออกจากการเป็นหุ้นส่วนบริษัทนี้ เพราะผมไม่ต้องการที่จะรับผิดชอบสิ่งใดๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นต่อตัวผมเอง ต่อตัวผู้บริโภคที่เกิดขึ้นในอนาคต เพราะฉะนั้นผมต้องการที่จะถอนหุ้นออก

แต่ว่าเราก็ยังเห็นว่าในการปฎิบัติงาน ก็ต้องมีระยะเวลาที่ทุกคนต้องทำงานกัน มันมีสต็อกที่ผลิตไว้จำนวนหนึ่ง ที่เขาจะต้องขายที่เราผลิตไว้ร่วมกัน ก็ให้เวลา เราได้บันทึกข้อตกลงที่ประชุมกันวันที่ 20 สิงหาคม ว่าเราจะดำเนินการอย่างไรบ้าง และให้ถอดถอนผมออกจากหุ้นส่วนทันที แล้วก็เลยให้เวลาอีกเกือบ 1 เดือน ในการที่จะใช้รูปของผม เพราะมันจะไม่ใช่รูปที่โฆษณาตามแอดอย่างเดียว เนื่องจากว่ามันมีการพิมพ์กล่องด้วย มีรูปผมอยู่บนกล่อง

เราก็ไม่อยากที่จะสร้างความเสียหายให้กับใคร เราก็บอกว่าผมให้ระยะเวลาคุณ 1 เดือนแล้วกัน ให้คุณดำเนินการทำทุกอย่าง แล้วก็จะนำรูปของใครลงจากออนไลน์ จากอะไรก็แล้วแต่ ที่เป็นสื่อโซเชียลทั้งหลาย ผมก็เข้าใจดี ว่ามันมีระยะเวลา ไม่ใช่ว่าวันนี้เราเลิกกัน แล้วพรุ่งนี้อย่าให้เห็นอีกนะ มันก็คงเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีระยะเวลาในการดำเนินเพื่อถอดถอน ผมจึงได้ให้เวลาถึงวันที่ 15 กันยายน แต่จนถึงวันนี้ในเฟซบุ๊กบางที่ก็ยังเจอรูปผมอยู่ เขาก็ไม่ได้มีการหยุดการใช้ แล้วก็ยังโฆษณา ยังบอกว่าผมเป็นเจ้าของอยู่

ซึ่งตรงนี้ก็ขออนุญาตเรียนว่า เราก็เลยต้องมาพึ่งอำนาจศาล ว่าเขาละเมิดเราไม่หยุด แล้วเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ทำให้ผมเกิดความเสียหาย และผมเสียโอกาสในการที่จะทำธุรกิจต่อไปด้วย เนื่องจากว่าผมเองก็คือเรายกบริษัทให้เขาเลยแยกย้ายกัน แล้วผมก็ไม่ติดใจเอาความ จริงๆ แล้วผมก็อยากทำต่อเหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาเรียกร้องมาว่าเขาอยากได้บริษัทไว้ เขาอยากทำต่อ ทำโน่นทำนี่ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวต้องไปฟ้องร้องกัน ผมรำคาญ ผมไม่ชอบมีคดีอะไรกับใครทั้งสิ้น ผมมาจนถึงขนาดนี้ อยู่ในวงการนี้มา 30 กว่าปีแล้ว เพราะฉะนั้นผมมีความรู้สึกว่าอยากได้ก็เอาไป เราถอยเองก็ได้ แล้วเดี๋ยวเราก็ไปสร้างของเราอันใหม่

เพราะฉะนั้นอันใหม่ของผมเนี่ย ก็เตรียมเอาไว้ แล้วจริงๆ ต้องพร้อมตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมแล้ว เพราะเราตั้งไว้ที่เดือนตุลาคม เป็นเดือนเกิดของผม ปรากฎว่าก็ออกไม่ได้ เพราะว่าโฆษณาของอันเก่า ก็ยังละเมิด ก็ยังออกของผมอยู่ ผู้บริโภคก็อาจจะเกิดความสับสนได้ ถ้าของผมออกไปตอนนี้ นั่นก็คือความเสียหายของผมอีกหนึ่งประการ ซึ่งอันใหม่ของเราก็แบบเดิม แต่ดีกว่าเดิมครับ”

หุ้นส่วนเก่าลักไก่เอารูปไปหาผลประโยชน์
จอนนี่ : “ถูกต้องครับ ใช้คำว่าทั้งลักไก่ ทั้งละเมิดเลยครับ เขาอาจจะพยายามส่งเอกสาร ส่งจดหมายโดยผ่านทนาย ซึ่งผมไม่เคยใช้ทนาย พยายามจะตุกติกทุกวิถีทาง แต่ว่าผมก็ไม่เป็นไร เพราะฉะนั้นวันนี้เราไม่จำเป็นต้องไปทะเลาะ เราเปรียบเสมือนคนที่เป็นแฟนกันมั้งฮะ ผมเปรียบเทียบอย่างนี้ดีกว่านะครับ ว่าเราเจอกัน แล้วเราทดลองอยู่ด้วยกันปีหนึ่ง แล้วมันไปด้วยกันไม่ได้ ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ความคิดวิธีการ วิธีคิด หรือการกระทำการใดๆ ก็แล้วแต่ ซึ่งมันไม่ตรงกัน เราก็แยกกัน ผมว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด แต่ว่ามันต้องแยกย้ายกันโดยดี

ถ้าเกิดว่ายังมีการละเมิด มีการลักไก่อย่างนี้ มันก็ต้องเดินทางมาถึงวันนี้ครับ ผมอยู่ในวงการมา 30 กว่าปีไม่เคยมีเรื่องฟ้องร้องอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ถามว่าเรื่องการละเมิด หรือเรื่องการอะไรแบบนี้ ที่ผ่านมามีไหม มันก็มี ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ แต่ว่าเราก็อยู่ในวงการเดียวกัน เราทำงานอยู่ด้วยกัน อะไรที่มันผ่านไปได้ก็ให้ผ่านมันไป เพราะว่ามันไม่ควรค้างคากัน”

เรียกค่าสินไหมทดแทนเป็นจำนวนเงิน 50 ล้าน
จอนนี่ : “อันนี้จะเป็นถ้อยแถลงที่อยู่ในศาลทั้งหมดนะครับ ซึ่งผมไปเปิดยอดขายของเจแฮร์ในปีที่แล้วให้ดูก็ได้ ว่ามันเป็นยังไง เพราะฉะนั้นกับการละเมิดมาทั้งหมด โดยใช้หน้าผมไปชวนเชื่อว่ายังเป็นผมทำอยู่ เอาตั้งแต่ 15 กันยายนมาแล้วกัน ผมก็คิดมูลค่าความเสียหายทั้งหมด 50 ล้าน”

บอกตัวเลขที่ฟ้องมันคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เขาได้มาตลอดระยะเวลาก่อนถึงวันที่ 15 ก.ย.
จอนนี่ : “ใช่ สำหรับเขา แต่สำหรับผม ผมว่าผมทำได้มากกว่านี้ ก่อนมาถึงวันนี้มีบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ให้ระงับการโฆษณา ซึ่งเซ็นกันไว้ทั้งสองฝ่าย ซึ่งหลังจากวันที่ 15 กันยายน ไม่ได้มีการติดต่อกันอีกเลย ไม่คุยครับ รอมาจนถึงวันนี้ 15 ตุลาคมพอดี ก็รอดูมา 1 เดือน ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดใดๆ ทั้งสิ้น ถึงแม้ว่าเขาจะไปจ้างพรีเซ็นเตอร์คนใหม่แล้ว ก็ยังเอารูปผมไปตัดแปะอยู่ตรงปกอยู่ใช้อยู่ ผมก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของเขาเหมือนกัน”

ไม่แน่ใจว่าสินค้าที่ออกมาตอนนี้เป็นสินค้าล็อตใหม่ หรือเป็นสินค้าที่ค้างอยู่
จอนนี่ : “ที่ขายอยู่เหรอ ไม่แน่ใจเหมือนกัน ไม่ได้ติดต่อกับทางบริษัทเลยครับ เรื่องรูปเราที่แจ้งเอาลง มันก็ไม่ได้ต้องใช้เวลานานขนาดนี้ แล้วจริงๆ เราตกลงกันตั้งแต่ 20 สิงหาคม นี่วันที่ 15 ตุลาคม ผ่านมาจะ 2 เดือนแล้ว เขาก็ไม่ได้พยายามจะติดต่อเพื่ออธิบายอะไร”

นอกจากต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทน 50 ล้านแล้ว อีกฝ่ายยังต้องทำให้ผู้บริโภคได้รับรู้อย่างชัดเจน ว่าตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจแฮร์มานานมากแล้วด้วย
จอนนี้ : “ให้ทำอะไรดี (หัวเราะ) ก็ต้องขอโทษต่อสื่อมวลชน แต่ว่าสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุด ก็คือผู้บริโภค ควรจะได้รับรู้ว่า ผมนั้นไม่เกี่ยวข้องมาระยะหนึ่งแล้ว แล้วข้อเท็จจริงเป็นยังไง ไม่ใช่ไปหลงเชื่อตามเขาอยู่ ที่ใช้รูปผมแล้วบอกว่าเป็นของผม ใช้ความเชื่อถือที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ให้ความเชื่อมั่นเชื่อถือในตัวผมแล้วซื้อ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคต้องได้รับทราบว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องมานานมากแล้ว”

ส่งกระทบต่อธุรกิจที่กำลังจะเริ่มใหม่ เพราะคนยังสับสน คิดว่ายังทำร่วมกับเจแฮร์อยู่
จอนนี่ : “อย่าว่าแต่ผู้บริโภคสับสนเลยครับ หุ้นส่วนคนใหม่ของผมเนี่ย ยังเขม่นผมเลย ว่าอ้าว ไหนว่าเลิกกับทางโน้นแล้ว จะมาทำใหม่ แล้วทำไมยังมีภาพโปรโมตโฆษณาอยู่ ก็เกิดการสับสน เพราะว่าเขาไม่หยุดใช้ครับ”

สาเหตุความขัดแย้ง ที่แยกออกมาเพราะคิดไม่ตรงกันหลายอย่าง มันไปด้วยกันไม่ได้
จอนนี่ : “ง่ายๆ เลยอย่างที่บอกครับ ว่าทำวิธีคิด วิธีการทำงาน หลายๆ อย่างที่เป็นความประพฤติหรืออะไรก็แล้วแต่ มันไปด้วยกันไม่ได้ (ไม่ได้มีการโกงหรือทุจริตอะไรใช่ไหม?) รายละเอียดก็มีอีกเยอะครับ มีรายละเอียดเยอะมากเหมือนกัน ปัญหาเรื่องการเงินก็มีบ้าง แต่ว่าเราก็หาข้อสรุปกันจนได้ ที่เราพึงพอใจกันทั้งคู่แล้ว ซึ่งก็ตกลงได้ด้วยดี เจแฮร์ออกขายวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2562 จนถึงตอนนี้ก็แค่ 1 ปี เกือบ 9 เดือน ประมาณนั้น”

ในส่วนผลิตภัณฑ์ที่ภรรยาอย่าง “นก จริยา แอนโฟเน” มีส่วนร่วมด้วยนั้น ได้ระงับและทำลายทิ้งไปนานแล้ว
จอนนี่ : “ของพี่นกนั้นแจ้งให้ระงับและทำลายทิ้งไปตั้งนานแล้วครับ ซึ่งอันนั้นก็เดี๋ยวว่ากัน มีตอนต่อไปอีกครับ เรื่องนี้ยังไม่จบแค่นี้ ยังมีรายละเอียดอีกเยอะ แต่ในส่วนทางคดี พี่นกไม่ได้อยู่ในผู้ถือหุ้น พี่นกแค่มาร่วมในฐานะเป็นภรรยาเรา”

ศาลนัดไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 19 พ.ย. เวลา 09.00 น. และนัดสืบพยานแรก 17 ธ.ค. เวลา 9.00 น.
ทนาย : “ก็คือศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 19 พฤศจิกายน เวลา 09.00 น. แล้วก็นัดสืบพยานแรกในวันที่ 17 ธันวาคม 2563 เวลา 09.00 น.ครับ ก็ลองดูว่าทางฝ่ายคู่ธุรกิจการค้า หรือจำเลยเนี่ย จะมาดำเนินการหรือไม่อย่างไรครับ แล้วก็เรื่องของการโฆษณาตามบิลบอร์ด ก็คงยังมีอยู่ แต่จุดพีกที่สุดคือคุณจอนนี่ได้รับโทรศัพท์จากหมอคนหนึ่ง แจ้งว่าผู้บริโภคได้ไปหาหมอแล้วก็ได้รับผลกระทบ มันเดือดร้อนมาที่คุณจอนนี่ กรณีถ้าเกิดมีผลกระทบปุ๊บ จะปฏิเสธความผิดได้ยุ่งยาก แล้วเราไม่ทราบว่าทางผู้เสียหายรายนั้น ไปดำเนินการอะไรหรือไม่อย่างไร เราเลยต้องมาปกป้องสิทธิ์ตัวเองก่อน แล้วหมอก็พร้อมที่จะมายืนยันว่าทางผู้ป่วยได้บอกอย่างไรบ้าง ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีประกันให้กับผู้บริโภคก็ตาม”

ยื่นฟ้องในข้อหาละเมิดข้อตกลงในการระงับการโฆษณา
ทนาย : “ฟ้องเรื่องละเมิดหลังจากที่มีการตกลงกันแล้ว ว่าต้องระงับการโฆษณาภายในวันที่ 15 กันยายน แต่พบว่ายังมีการโฆษณาต่อเนื่อง ที่สำคัญที่สุดคือ หนึ่งข้อตกลงที่มีบอกว่าให้ทำลายตัวเจแฮร์ทั้งหมด ภาพโลโก้ต่างๆ ก็ทราบมาว่ายังไม่ได้ดำเนินการ แล้วป้ายตามบิลบอร์ดต่างๆ ก็ยังคงอยู่ เราเห็นว่าอย่างนี้จะทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด แล้วก็หลงเชื่อว่าทางคุณจอนนี่ยังรับผิดอยู่ ในเรื่องของผู้บริโภค เลยต้องมาจดแจ้งและมาฟ้องศาล เพื่อให้ทุกคนได้ทราบว่า คุณจอนนี่ไม่เกี่ยวตั้งแต่ต้นจนถึงวันที่มีการทำบันทึกไว้แล้วครับ”

จะฟ้องทางอาญาด้วยหรือไม่ กำลังดูรายเอียดอยู่
ทนาย : “เดี๋ยวกำลังดูในรายละเอียดอยู่นะครับ ว่ารูปภาพใดที่มีการตัดทอนแก้ไข ให้มันผิดแปลกแตกต่างไปจากเดิม ถ้ามีเมื่อไหร่ จะเข้าองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติการว่าด้วยการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เห็นทางน้องๆ เขาแจ้งมาว่าเริ่มมีภาพที่แอบตัดต่อรูปของคุณจอนนี่จากหน้าปกติ กลายเป็นอีทีเลยครับ ซึ่งดูแล้วมันแปลกมาก ตลก เดี๋ยวน้องเขาจะเอามาให้วันนี้”

เรื่องนี้จะจบได้ อันดับแรกต้องเอารูปออกก่อน และจัดแถลงข่าวพร้อมขอโทษ
จอนนี่ : “ต้องเลิกใช้รูปผมก่อน แล้วเขาควรจะต้องแถลงข่าวว่าเขากับผมไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว แล้วก็ต้องขอโทษขอโพยในสิ่งที่ได้ทำมาแล้วก็ละเมิดผมมาแบบที่เขาทำมาตลอด โดยที่ไม่รับผิดชอบอะไรเลย มันไม่ได้ครับ”

ถ้าหลังจากนี้มีการเจรจาที่ดี จะมีการลดหย่อนไหม ก็คงต้องดูท่าทีอีกฝ่ายก่อน เพราะก่อนหน้านี้ก็คุยกันมาหลายรอบแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
จอนนี่ : “ผมคงตอบไม่ได้นะ ก็คงต้องดูเขาด้วย ว่าเขาอะไรยังไงแค่ไหน ก็คงจะต้องให้เป็นหน้าที่ของกฎหมาย เป็นหน้าที่ของศาล เพราะว่าจริงๆ แล้วในการพูดคุย ผมส่งตัวแทนไปคุยก่อนหน้านี้ที่จะทำข้อตกลง เราก็ได้มีการพูดคุยกันหลายรอบมากครับ หลังจากทำบันทึกข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ผมอนุญาตให้ใช้รูปผมจนถึงวันที่ 15 กันยายน ผมก็ยังมีหนังสือเตือนไปอีกฉบับ ว่าทุกรูปที่เขาจะนำไปลง เนื่องจากว่ามันเริ่มมีรูปหน้าแปลกๆ ไปแต่งไปทำรีทัชเอฟเฟกต์อะไรไม่รู้ หน้ามันพิลึกพิลั่น

เพราะฉะนั้นรูปที่จะใช้งานทุกรูป ถึงแม้ผมจะอนุญาตให้ใช้ถึงวันที่ 15 กันยายนแล้ว แต่ต้องให้ผมเป็นคนตรวจแล้วก็อนุมัติ ต้องมาขออนุญาตรูปแต่ละรูปที่จะใช้ ก็ไม่ทำ คนที่ไปตามเรื่อง เขาก็บอกว่าตอบกลับมาว่าจะมาวุ่นวายเยอะแยะอะไรหนักหนา อีกไม่กี่วันก็แยกย้ายเลิกใช้แล้ว คือผมว่ามันไม่เข้าท่า เพราะฉะนั้นในเรื่องการเจรจา ถ้าเขายังมีจุดยืนหรือแอดติจูด วิธีคิดแบบนั้นอยู่ เราก็ถามคนกลางให้เป็นคนตัดสินแล้วกัน ว่าควรจะมาเจอกันตรงจุดไหน หรือว่าใครถูกใครผิด”

ฝากถึงคนที่อาจจะยังไม่รู้และหลงเชื่อซื้อผลิตภัณฑ์เจแฮร์จากการเห็นรูปตนในการโฆษณา ว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเจแฮร์แล้วทั้งสิ้น
จอนนี่ : “แน่ๆ คำแรกคือผมไม่เกี่ยวใดๆ ทั้งสิ้นกับเจแฮร์อีกแล้วครับ สำหรับลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่น ให้ความเชื่อใจมา คือจริงๆ ผมจะมีของผมออกมานะ แต่มันก็มาติดอยู่ที่เรื่องนี้ ถึงได้บอกว่าทำให้เราเสียโอกาสแล้วก็เสียหายมาก

แต่ว่าสิ่งแรกเลยคืออยากให้ทุกคนทราบมากกว่า เนื่องจากว่ามันมีไลน์ หรืออินบ็อกซ์มาหาผมหลายๆ ท่าน ว่ามีปัญหาอย่างนั้นอย่างนี้ ผมก็บอกว่าผมไม่เกี่ยวแล้วโทษที คนที่รู้จักเรา หรือคนที่เป็นเพื่อนเรา ก็จะบอกว่าพี่ มีคนมีปัญหานะ แต่ถามพี่คนโน้นเขาแล้ว เขาบอกว่าพี่จอนนี่ไม่ได้เกี่ยวข้องแล้ว เราก็บอกใช่ๆ เขาก็บอกว่าโอเคๆ แต่ว่ามันไม่ใช่ทุกคนที่รู้ไงครับ ผมก็เลยอยากที่จะต้องการให้ผู้บริโภคทุกคนนั้น ได้รับทราบว่าผมไม่ได้เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ตัวนี้อีกต่อไปแล้วครับ”

ทนาย : “ตอนช่วงเช้าเนี่ย ถ้าเขารู้แล้วว่าเรามาใช้สิทธิ์ทางศาลแล้ว ถ้าหากยังมีการโฆษณาทางโซเชียลอีก แล้วป้ายบิลบอร์ดยังไม่เอาลง เดี๋ยวรอจนถึงประมาณไม่เกินเที่ยง ถ้ายังดำเนินการอยู่ คือป้ายบิลบอร์ดตรงทางด่วน หรือโฆษณาตามโซเชียลไม่เอาลง หรือตามโปรไฟล์ไม่เอาลง ตอนช่วงบ่ายจะยื่นไต่สวนฉุกเฉินแล้ว ใช้อำนาจศาลแล้วคราวนี้ เดี๋ยวรอดูกันว่าช่วงบ่ายจะเป็นยังไงครับ”












กำลังโหลดความคิดเห็น