“จอนนี่” ควงทนายดัง ขึ้นศาลฟ้องอดีตหุ้นส่วน ลักไก่นำรูปไปใช้โฆษณา เกิดความเสียหาย เรียกค่าสินไหมทดแทน 50 ล้าน ลั่นให้เวลา 1 เดือนแล้ว พ้อที่ผ่านมาอยากได้บริษัทก็ยกให้
วานนี้ (15 ต.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายจอนนี่ แอนโฟเน พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นฟ้องอดีตหุ้นส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม, บริษัทแห่งหนึ่ง และหญิงคนหนึ่ง ที่นำรูปภาพ, สัญลักษณ์, ภาพถ่ายใบหน้า, โลโก้, หน้าตาเครื่องหมายการค้าจากใบหน้าของนายจอนนี่ ไปลงโฆษณาในระบบคอมพิวเตอร์, สื่อสังคมออนไลน์, อินสตาร์แกรม, เฟซบุ๊ก ตลอดจนตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.63 เป็นต้นมาจนถึงวันฟ้อง
โดย นายสงกรานต์ กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเหตุทำให้ นายจอนนี่ ได้รับความเสียหายโดยเจตนา ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าว ถือเป็นการร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์ตาม ปพพ.มาตรา 420 และมาตรา 423 จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายจอนนี่ เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ
ด้านนายจอนนี่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเป็นทั้งผู้ก่อตั้งแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ของ “ผลิตภัณฑ์ผม” มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ภายหลังเมื่อแนวคิดการทำธุรกิจไม่ตรงกัน จึงได้ตัดสินใจแยกตัวออกจากการเป็นหุ้นส่วน และแจ้งให้บริษัท และอดีตหุ้นส่วน ระงับการใช้รูปของตนในการโฆษณาทุกช่องทางภายใน 15 ก.ย.63 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏหลักฐานว่าบุคคลทั้งสองก็ยังคงเจตนากระทำการละเมิด ด้วยการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์รูปภาพโลโก้ เครื่องหมายการค้า ซึ่งเป็นรูปของตนผ่านสื่อช่องทางต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์สินค้าเกี่ยวกับเส้นผม นี้ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งความจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก วันนี้ตนจึงต้องเดินทางมาฟ้องร้องต่อศาลเพื่อปกป้องสิทธิและยุติการกระทำดังกล่าว
“ผมไม่ได้ร่วมสังฆกรรมกับเจแฮร์มาตั้งแต่เดือน ก.ค.แล้ว โดยที่แต่งตั้งตัวแทน แล้วก็มอบฉันทะให้เข้าไปประชุมผู้ถือหุ้น แล้วให้ดำเนินการถอนผมออกจากการเป็นหุ้นส่วนบริษัทนี้ เราได้บันทึกข้อตกลงที่ประชุมกันวันที่ 20 ส.ค.ว่าให้ถอดถอนผมออกจากหุ้นส่วนทันที และให้เวลาอีกเกือบ 1 เดือนในการที่จะใช้รูปผมในการโฆษณา เพราะเข้าใจว่ามันต้องมีระยะเวลาในการดำเนินเพื่อถอดถอน จึงได้ให้เวลาถึงวันที่ 15 ก.ย. แต่จนถึงวันนี้ในเฟซบุ๊กบางที่ก็ยังเจอรูปผมอยู่ เขาก็ไม่ได้มีการหยุดการใช้ แล้วก็ยังโฆษณา ยังบอกว่าผมเป็นเจ้าของอยู่ ทำให้ผมเกิดความเสียหาย และผมเสียโอกาสในการที่จะทำธุรกิจต่อไปด้วย เนื่องจากว่าผมเองก็คือเรายกบริษัทให้เขาเลยแยกย้ายกัน แล้วผมก็ไม่ติดใจเอาความ จริงๆ แล้วผมก็อยากทำต่อเหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาเรียกร้องมาว่าเขาอยากได้บริษัทไว้ เราก็ถอยเอง แล้วเดี๋ยวเราก็ไปสร้างของเราอันใหม่” นายจอนนี่ ระบุ
วานนี้ (15 ต.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายจอนนี่ แอนโฟเน พิธีกรและนักแสดงชื่อดัง พร้อมด้วยนายสงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ทนายความ เดินทางเข้ายื่นฟ้องอดีตหุ้นส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับผม, บริษัทแห่งหนึ่ง และหญิงคนหนึ่ง ที่นำรูปภาพ, สัญลักษณ์, ภาพถ่ายใบหน้า, โลโก้, หน้าตาเครื่องหมายการค้าจากใบหน้าของนายจอนนี่ ไปลงโฆษณาในระบบคอมพิวเตอร์, สื่อสังคมออนไลน์, อินสตาร์แกรม, เฟซบุ๊ก ตลอดจนตามป้ายบิลบอร์ดต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต นับตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย.63 เป็นต้นมาจนถึงวันฟ้อง
โดย นายสงกรานต์ กล่าวว่า พฤติกรรมดังกล่าวเป็นเหตุทำให้ นายจอนนี่ ได้รับความเสียหายโดยเจตนา ซึ่งการกระทำของจำเลยทั้งสองดังกล่าว ถือเป็นการร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์ตาม ปพพ.มาตรา 420 และมาตรา 423 จึงขอให้ศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายจอนนี่ เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จ
ด้านนายจอนนี่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนเป็นทั้งผู้ก่อตั้งแบรนด์และพรีเซ็นเตอร์ของ “ผลิตภัณฑ์ผม” มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2562 ภายหลังเมื่อแนวคิดการทำธุรกิจไม่ตรงกัน จึงได้ตัดสินใจแยกตัวออกจากการเป็นหุ้นส่วน และแจ้งให้บริษัท และอดีตหุ้นส่วน ระงับการใช้รูปของตนในการโฆษณาทุกช่องทางภายใน 15 ก.ย.63 ที่ผ่านมา แต่ปรากฏหลักฐานว่าบุคคลทั้งสองก็ยังคงเจตนากระทำการละเมิด ด้วยการเผยแพร่โฆษณาประชาสัมพันธ์รูปภาพโลโก้ เครื่องหมายการค้า ซึ่งเป็นรูปของตนผ่านสื่อช่องทางต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าผลิตภัณฑ์สินค้าเกี่ยวกับเส้นผม นี้ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ของตน ซึ่งความจริงแล้วมิได้เป็นเช่นนั้น ทำให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก วันนี้ตนจึงต้องเดินทางมาฟ้องร้องต่อศาลเพื่อปกป้องสิทธิและยุติการกระทำดังกล่าว
“ผมไม่ได้ร่วมสังฆกรรมกับเจแฮร์มาตั้งแต่เดือน ก.ค.แล้ว โดยที่แต่งตั้งตัวแทน แล้วก็มอบฉันทะให้เข้าไปประชุมผู้ถือหุ้น แล้วให้ดำเนินการถอนผมออกจากการเป็นหุ้นส่วนบริษัทนี้ เราได้บันทึกข้อตกลงที่ประชุมกันวันที่ 20 ส.ค.ว่าให้ถอดถอนผมออกจากหุ้นส่วนทันที และให้เวลาอีกเกือบ 1 เดือนในการที่จะใช้รูปผมในการโฆษณา เพราะเข้าใจว่ามันต้องมีระยะเวลาในการดำเนินเพื่อถอดถอน จึงได้ให้เวลาถึงวันที่ 15 ก.ย. แต่จนถึงวันนี้ในเฟซบุ๊กบางที่ก็ยังเจอรูปผมอยู่ เขาก็ไม่ได้มีการหยุดการใช้ แล้วก็ยังโฆษณา ยังบอกว่าผมเป็นเจ้าของอยู่ ทำให้ผมเกิดความเสียหาย และผมเสียโอกาสในการที่จะทำธุรกิจต่อไปด้วย เนื่องจากว่าผมเองก็คือเรายกบริษัทให้เขาเลยแยกย้ายกัน แล้วผมก็ไม่ติดใจเอาความ จริงๆ แล้วผมก็อยากทำต่อเหมือนกัน แต่ในเมื่อเขาเรียกร้องมาว่าเขาอยากได้บริษัทไว้ เราก็ถอยเอง แล้วเดี๋ยวเราก็ไปสร้างของเราอันใหม่” นายจอนนี่ ระบุ