ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลอาญา พิพากษาจำคุก "น้ำอุ่น รัชเดช" เป็นเวลา 8 ปี คดีหน่วงเหนี่ยวกักขัง "ลันลาเบล" จนเสียชีวิต ขณะที่แก๊งปาร์ตี้บางบัวทอง โดน 5 ปี 4 เดือน พร้อมร่วมชดใช้ค่าสินไหมจำนวน 748,660 บาท ก่อนที่ศาลจะอนุญาตปล่อยตัว "น้ำอุ่น" ชั่วคราว ตีหลักประกัน 3.5 แสนบาท ส่วนจำเลยร่วมคนละ 1.5 แสนบาท
วานนี้ (14 ต.ค.) ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1204/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1, นายชัยพล พรรณนา หรือคิว เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2, นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ จำเลยที่ 3, น.ส.พิกุลทอง บุญภา หรือเฟิร์ส แฟนสาวของคิว จำเลยที่ 4, นายกฤษฎา โลหิตดี หรือโนบิ จำเลยที่ 5, นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือ ปิงปอง จำเลยที่ 6 ในความผิด 4 ข้อหา ฐานเป็นซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210, 213, 278, 284 , 310 ประกอบมาตรา 83, 91
สืบเนื่องจากกรณีจำเลยทั้ง 6 มีงานเลี้ยงโดยมีการดื่มสุรา ที่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แล้วจ้าง น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบลอายุ 26 ปี พริตตี้สาวให้มาชงเหล้าและร่วมดื่มสุรา โดยจำเลยทั้ง 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ น.ส.ธิติมา ดื่มสุราจนเมาและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้ว นายรัชเดช จำเลยที่ 1 ได้พาพริตตี้ลันลาเบล ซึ่งขณะนั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดสูงมากอยู่ในภาวะมึนเมา โดยใช้กำลังประทุษร้ายไปอนาจาร และอุ้มแบกออกจากบ้านหลังดังกล่าว ไปขึ้นรถยนต์ของจำเลยที่ 1 แล้วพาไปที่ห้องพักคอนโดย่านดาวคะนอง แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. แล้วจำเลยที่ 1 แล้วพาพริตตี้ลันลาเบลอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ไปบนห้องพัก เป็นเหตุให้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายและถึงแก่ความตาย
ส่วนจำเลยที่ 2-6 ร่วมกันสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 2-6 ต่างล่วงรู้ถึงเป้าหมายของการจัดงานปาร์ตี้ โดยให้พริตตี้ลัลลาเบลดื่มสุราจนเมา ไม่สามารถครองสติและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แล้วพวกจำเลยยินยอมให้นายรัชเดช จำเลยที่1 พาพริตตี้ลันลาเบลไปกระทำอนาจารโดยไม่ได้ขัดขวางหรือเข้าห้ามปรามอันเป็นการให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่นายรัชเดช จำเลยที่ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยทั้งหมดที่ได้ประกันตัวและเดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่1ในการกระทำความผิดดังกล่าวจำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือนและให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์ร่วมจำนวน 748,660 บาท
ภายหลังญาติของจำเลยทั้ง 6 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งหมดประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกันน้ำอุ่น จำเลยที่1 ที่ 3.5 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-5 ตีราคาประกันคนละ 1.5 แสนบาท
ด้านนายชวลิต และนางศุภามาศ นรพันธ์พิพัฒน์ บิดาและมารดาของ น.ส.ธิติมา หรือลันลาเบล เปิดใจหลังจากทราบคำพิพากษาของศาลอาญาธนบุรี ว่า พอใจกับคำพิพากษาของศาล เหมือนคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาวได้ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กว่าจะผ่านไปแต่ละวันยากลำบาก แต่จะเลี้ยงน้องแบมแบมหลานสาวให้ดีที่สุด เนื่องจากทุกวันนี้ หลานยังถามหาแม่อยู่บนสวรรค์ มีเครื่องบินแล้วเมื่อไหร่จะกลับมา
ขณะที่ นายชวลิต กล่าวว่า คำพิพากษา ถึงแม้ว่าจะติดคุก แต่สุดท้ายก็ออกมาได้อยู่ดี แต่ลูกสาวของตนไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ทุกวันนี้ทำงานหนักมาก เหมือนต้องนับหนึ่งใหม่หมดเลย หลังจากที่เกิดเรื่อง อีกฝ่าย ก็ไม่เคยแม้แต่จะติดต่ออะไรกลับมาเลย
นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น กล่าวภายหลังได้รับการประกันตัวว่า รู้สึกสบายใจที่ศาลให้ประกันตัว และพร้อมต่อสู้ต่อไป หลังจากนี้ ในส่วนของการอุทธรณ์คดี ทนายความจะเป็นดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตนยังทำบุญให้ลัลลาเบลเสมอ และยังคิดถึงอยู่ พร้อมยืนยันในวันเกิดเหตุตนเองก็มีอาการมึนเมาเช่นกัน จึงไม่สามารถประเมินได้ว่า อาการของลัลลาเบลเป็นอย่างไร หากทราบว่ามีอาการผิดปกติโคมาหรือ อาจเสียชีวิต ไม่มีทางที่ตนจะพาลัลลาเบลขึ้นคอนโดฯแน่นอน ในทางกลับกันตนจะรีบพาส่งรพ. ทันที
นอกจากนี้ตนพร้อมขอโทษครอบครัวลัลลาเบล และทื่ผ่านมาที่ไม่ได้ติดต่อเพราะเป็นคดีใหญ่ และอยู่ในกระบวนการชั้นศาล ส่วนหลังจากนี้ ถ้าอยากให้ช่วยเหลืออะไรก็อยากให้เปิดใจ
วานนี้ (14 ต.ค.) ที่ศาลอาญาธนบุรี ถนนเอกชัย ศาลได้นัดอ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.1204/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญาธนบุรี 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายรัชเดช วงศ์ทะบุตร หรือน้ำอุ่น จำเลยที่ 1, นายชัยพล พรรณนา หรือคิว เจ้าของงานปาร์ตี้บ้านบางบัวทอง จำเลยที่ 2, นายนที สถิตพงษ์สถาพร หรือตี๋ จำเลยที่ 3, น.ส.พิกุลทอง บุญภา หรือเฟิร์ส แฟนสาวของคิว จำเลยที่ 4, นายกฤษฎา โลหิตดี หรือโนบิ จำเลยที่ 5, นายโกเศศ ฤทธิ์นิธิฤกษ์ หรือ ปิงปอง จำเลยที่ 6 ในความผิด 4 ข้อหา ฐานเป็นซ่องโจร, พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการใดๆ, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวถูกกักขังหรือต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายนั้นถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210, 213, 278, 284 , 310 ประกอบมาตรา 83, 91
สืบเนื่องจากกรณีจำเลยทั้ง 6 มีงานเลี้ยงโดยมีการดื่มสุรา ที่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.บางบัวทอง แล้วจ้าง น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบลอายุ 26 ปี พริตตี้สาวให้มาชงเหล้าและร่วมดื่มสุรา โดยจำเลยทั้ง 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ น.ส.ธิติมา ดื่มสุราจนเมาและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้แล้ว นายรัชเดช จำเลยที่ 1 ได้พาพริตตี้ลันลาเบล ซึ่งขณะนั้นมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ในเลือดสูงมากอยู่ในภาวะมึนเมา โดยใช้กำลังประทุษร้ายไปอนาจาร และอุ้มแบกออกจากบ้านหลังดังกล่าว ไปขึ้นรถยนต์ของจำเลยที่ 1 แล้วพาไปที่ห้องพักคอนโดย่านดาวคะนอง แขวงดาวคะนอง เขตธนบุรี กทม. แล้วจำเลยที่ 1 แล้วพาพริตตี้ลันลาเบลอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ไปบนห้องพัก เป็นเหตุให้ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกายและถึงแก่ความตาย
ส่วนจำเลยที่ 2-6 ร่วมกันสนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 2-6 ต่างล่วงรู้ถึงเป้าหมายของการจัดงานปาร์ตี้ โดยให้พริตตี้ลัลลาเบลดื่มสุราจนเมา ไม่สามารถครองสติและอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ แล้วพวกจำเลยยินยอมให้นายรัชเดช จำเลยที่1 พาพริตตี้ลันลาเบลไปกระทำอนาจารโดยไม่ได้ขัดขวางหรือเข้าห้ามปรามอันเป็นการให้ความช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่นายรัชเดช จำเลยที่ 1
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จำเลยทั้งหมดที่ได้ประกันตัวและเดินทางมาฟังคำพิพากษา พร้อมทนายความ ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น ฐานหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตายซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนักสุดให้จำคุก 8 ปี ส่วนจำเลยที่ 2-6 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่1ในการกระทำความผิดดังกล่าวจำคุกคนละ 5 ปี 4 เดือนและให้จำเลยทั้ง 6 ร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมแก่โจทก์ร่วมจำนวน 748,660 บาท
ภายหลังญาติของจำเลยทั้ง 6 คน ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอประกันตัว ศาลพิจารณาแล้วมีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยทั้งหมดประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยตีราคาประกันน้ำอุ่น จำเลยที่1 ที่ 3.5 แสนบาท ส่วนจำเลยที่ 2-5 ตีราคาประกันคนละ 1.5 แสนบาท
ด้านนายชวลิต และนางศุภามาศ นรพันธ์พิพัฒน์ บิดาและมารดาของ น.ส.ธิติมา หรือลันลาเบล เปิดใจหลังจากทราบคำพิพากษาของศาลอาญาธนบุรี ว่า พอใจกับคำพิพากษาของศาล เหมือนคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาวได้ ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา กว่าจะผ่านไปแต่ละวันยากลำบาก แต่จะเลี้ยงน้องแบมแบมหลานสาวให้ดีที่สุด เนื่องจากทุกวันนี้ หลานยังถามหาแม่อยู่บนสวรรค์ มีเครื่องบินแล้วเมื่อไหร่จะกลับมา
ขณะที่ นายชวลิต กล่าวว่า คำพิพากษา ถึงแม้ว่าจะติดคุก แต่สุดท้ายก็ออกมาได้อยู่ดี แต่ลูกสาวของตนไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้ ทุกวันนี้ทำงานหนักมาก เหมือนต้องนับหนึ่งใหม่หมดเลย หลังจากที่เกิดเรื่อง อีกฝ่าย ก็ไม่เคยแม้แต่จะติดต่ออะไรกลับมาเลย
นายรัชเดช หรือน้ำอุ่น กล่าวภายหลังได้รับการประกันตัวว่า รู้สึกสบายใจที่ศาลให้ประกันตัว และพร้อมต่อสู้ต่อไป หลังจากนี้ ในส่วนของการอุทธรณ์คดี ทนายความจะเป็นดำเนินการให้ทั้งหมด ซึ่งตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตนยังทำบุญให้ลัลลาเบลเสมอ และยังคิดถึงอยู่ พร้อมยืนยันในวันเกิดเหตุตนเองก็มีอาการมึนเมาเช่นกัน จึงไม่สามารถประเมินได้ว่า อาการของลัลลาเบลเป็นอย่างไร หากทราบว่ามีอาการผิดปกติโคมาหรือ อาจเสียชีวิต ไม่มีทางที่ตนจะพาลัลลาเบลขึ้นคอนโดฯแน่นอน ในทางกลับกันตนจะรีบพาส่งรพ. ทันที
นอกจากนี้ตนพร้อมขอโทษครอบครัวลัลลาเบล และทื่ผ่านมาที่ไม่ได้ติดต่อเพราะเป็นคดีใหญ่ และอยู่ในกระบวนการชั้นศาล ส่วนหลังจากนี้ ถ้าอยากให้ช่วยเหลืออะไรก็อยากให้เปิดใจ