“แสตมป์” มิสแกรนด์นครนายก ลั่นชู 3 นิ้ว ขณะแนะนำตัวไม่ได้ต้องการเรียกกระแส หวังกฎหมายไทยแข็งแรงขึ้น มองว่าความยุติธรรมสำคัญกว่าเผด็จการ มั่นใจพิชิตมงกุฎมิสแกรนด์ 2020 ได้แน่นอน ด้าน PD นครนายกรับเช็กฟีดแบ็กถึงกับสะดุ้ง ถูกด่าต่ำ แคปไว้หมดแล้ว วอนอย่าคุกคามไปถึงพื้นที่ส่วนตัว และครอบครัว
ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก สำหรับเวที มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ 2020 Covid episodeหลังเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันเข้ากองประกวดวันแรก มิสแกรนด์นครนายก “แสตมป์ ลลิตา สิงห์สกุล”อายุ 22 ปี นศ.คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ผูกโบขาวขนาดใหญ่ไว้ที่ผม และออกมาแนะนำตัว พร้อมชู 3 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์
อีกทั้งเจ้าตัวยังได้แสดงความเห็นเรื่องการเมืองกรณีการซื้อเรือดำน้ำของทหารเรือว่าไม่เห็นด้วย เพราะเศรษฐกิจแย่ อยากให้เอาเงินมาช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบมากกว่า
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้สอบถามสาวแสตมป์ถึงฟีดแบ็กที่เกิดขึ้น เจ้าตัวรับมีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มองเป็นเรื่องปกติ ลั่นความยุติธรรมต้องสำคัญกว่าเผด็จการ
“ไม่ค่อยได้ดู แต่ก็มีคนส่งมาให้ดูบ้าง ก็มีทั้ง 2 เสียง เป็นเรื่องปกติที่จะมีความคิดเห็นที่ต่างกัน ที่แสดงออกแสตมป์ตั้งใจนะคะ แสตมป์แคร์ถึงอนาคตและสังคม มองว่าความยุติธรรมสำคัญกว่าเผด็จการ เราอยากเป็นกระบอกเสียงวันนี้เราเป็นนางงาม ไม่ได้มาทำเพื่อกระแส คำว่านางงามของแสตมป์ในวันนี้มาเพื่อเป็นกระบอกเสียงที่ใหญ่ขึ้น แสตมป์อยากแสดงความคิดเห็น ให้ทุกคนมีสิทธิ์และเสรีในการออกมาแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์
เราไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแต่เรามาแสดงความคิดเห็นอย่างมีเหตุผล อยากให้ทุกคนรับฟังซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าจะมีสองฝ่ายแต่อยากให้รับฟังกัน”
เผยสิ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงคืออยากเห็นกฎหมายของไทยแข็งแรงขึ้น
“แสตมป์อยากให้กฎหมายบ้านเมืองเราแข็งแรงขึ้น เพราะปัจจุบันนี้คนที่กระทำความผิดมักจะเป็นฝ่ายที่ถูกเสมอ คดีจะพลิก อยากให้เราช่วยกันผลักดันเรื่องกฎหมายให้มีความแข็งแรงขึ้นมากกว่านี้ ที่ผ่านมาแสตมป์ยังไม่เคยออกมาโพสต์ ออกไปชุมนุม แต่แสตมป์มาอยู่ ณ จุดนี้ แสตมป์เป็นนางงามเลยอยากจะเป็นกระบอกเสียงที่ใหญ่ขึ้นเพราะว่าเรามีโอกาสแล้ว ก็เลยอยากจะออกมาพูด ให้ถึงน้องๆ นักศึกษา หลายๆ คน หลายๆ อาชีพว่ายังมีคนที่พร้อมสนับสนุนเขาอยู่เรื่องความยุติธรรม”
ลั่นหลังจากนี้ก็ยังจะแสดงจุดยืนเช่นนี้อยู่เพราะยึดมั่นในความยุติธรรม
“ต่อไปก็จะยังแสดงออกแบบนี้แน่นอนเพราะเรายึดมั่นในความยุติธรรม ต้องบอกก่อนว่าแสตมป์ไม่ได้อ่านฟีดแบ็กทั้งหมด เพราะไม่มีเวลา แล้วก็อยากโฟกัสกับการประกวดมากกว่าแต่รู้ว่าต้องมีทั้งสองความคิดเห็น ซึ่งเราก็ต้องยอมรับ เราไม่ต้องมาถกเถียงกัน เราใช้เหตุผลและยอมรับซึ่งกันและกันดีกว่า ก็ยังไม่ได้คุยกับพี่ณวัฒน์ (ณวัฒน์ อิสรไกรศีล) ในเรื่องนี้เลยด้วย”
ยันไม่ได้ชู 3 นิ้วเรียกกระแสให้ตัวเองเป็นจุดสนใจ มั่นใจมงลงพิชิตมงกุฎมิสแกรนด์ 2020 ได้อย่างแน่นอน
“ใช่ค่ะ ไม่มีใครอยากโดนว่าโดนวิจารณ์ อยากให้ลองคิดกลับกัน ถ้าเราใช้เหตุผล สิ่งที่เราออกมาทำมันคือการออกมาแสดงความคิดเห็น แสดงถึงจุดยืน สิทธิและเสรีภาพ สมมตินะคะ ถ้าเราเจอคนจมน้ำ เราจะช่วยไหมหรือเราจะเดินผ่าน ถ้าเลือกจะเดินผ่านอันนั้นแหละคือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งที่แสตมป์ทำมันก็แค่การออกมาพูด มันเป็นสิทธิของแสตมป์ ซึ่งแสตมป์คิดว่ามันไม่มีผลกระทบกับการประกวด พี่ณวัฒน์ก็แฟร์กับทุกอย่าง พี่ณวัฒน์ไม่เคยว่าเลย ยอมรับว่าคาดหวังและมั่นใจว่าจะพิชิตมงกุฎมิสแกรนด์ 2020 ได้อย่างแน่นอน”
ด้าน PD นครนายก “สิงหรัชต์ พ่วงฉิม” เผยได้คุยกันก่อนที่จะแสดงจุดยืน เชื่อหากเป็นคนธรรมดาชู 3 นิ้วก็เป็นเรื่องปกติ
“คุยกับน้องแล้วว่า การแสดงออกตรงนี้มันก็อาจจะมีผลกระทบตามมาทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี ในเรื่องของการแสดงออกมันก็มีทั้งสองเสียง เราซัปพอร์ตน้อง น้องก็มาคุยด้วยว่าเราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งที่บอกว่าคนรุ่นใหม่มีสิทธิ์ที่จะแสดงออกในความคิดเห็นทางการเมือง มันไม่ใช่เรื่องผิดเลย เรามองว่าถ้ามีอีกหนึ่งเสียงที่ใหญ่ขึ้น ถ้าน้องเป็นคนธรรมดา แน่นอนว่าการชู 3 นิ้วจะเป็นเรื่องปกติ แต่นี่น้องเป็นนางงาม น้องสามารถจะทำให้คนรู้ได้ว่าน้องยืนจุดไหน แล้วเราให้ความสำคัญกับอะไร การแสดงออกตรงนี้เราไม่ได้ทำนอกเหนือจากกฎหมายเลย เราสามารถทำได้
เรายอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เราปรึกษากันทั้งทีม เพราะมันมีผลกระทบกันทั้ง ทีมไม่ว่าจะเป็นผลที่ดีหรือไม่ดีก็ตาม เรามองว่าน้องไม่ผิด ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดได้ มีความแตกต่างได้ เราสามารถจะมองกันคนละมุมเพื่อมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้”
เผยทีมงานเช็กฟีดแบ็กแล้วถึงกับสะดุ้ง วอนอย่าคุกคามไปถึงพื้นที่ส่วนตัว หรือกับครอบครัว
“ทีมงานเช็กแล้วก็สะดุ้งอยู่ มันก็ธรรมดา อย่างที่บอกว่ามันก็มีทั้งด้านดีและไม่ดี ด้านลบเราก็มองไปว่าด้านไหนที่เขาติเพื่อให้เราปรับปรุง บางอย่างเราก็อาจจะเอามาปรับปรุงได้ บางอย่างที่เรามองแล้วมันไม่สามารถที่จะแก้ไขหรือปรับปรุงได้ก็มองผ่านไป เพราะน้องยังต้องดำเนินการประกวดต่อไป ทีมงานเราก็ยังต้องสู้กันต่อไปจนกว่าจะประกวดเสร็จ จนกว่าจะได้รับตำแหน่งมา”
“อยากฝากอีกอย่างคือ ตอนนี้มีการคุกคามมาถึงเฟซบุ๊ก หรือโซเชียลฯ ต่างๆ ของน้องโดยใช้ถ้อยคำที่ค่อนข้างรุนแรง หยาบคาย มีการต่อว่าไปถึงครอบครัวด้วย เราไม่ได้ว่าใครจะมาคอมเมนต์อะไรยังไงก็ตาม แต่อยากให้อยู่ในขอบเขตเพราะว่าบางครั้งมันแรงไป มองดูแล้วผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ได้เลย”
ลั่นถูกด่าต่ำ คอมเมนต์ไหนรุนแรงตนแคปไว้หมดแล้ว
“ตอนนี้ยังไม่มีการดำเนินคดี เราดูอยู่ว่าอันไหนที่เราสามารถปล่อยผ่านได้ แต่ถ้ามันรุนแรงจนเกินการควบคุมตรงนี้เราอาจจะต้องมีการพูดคุยปรึกษากับพี่ณวัฒน์ก่อนว่าเราสามารถจัดการยังไงได้บ้าง ตอนนี้เราก็กำลังดูๆ กันอยู่อันไหนปล่อยผ่านได้เราปล่อยผ่านไปก่อน ซึ่งเราเองก็ต้องยอมรับผลมันให้ได้ด้วย
“เราแคปไว้ บอกน้องยังไม่ต้องอ่าน มีทั้งที่ต่อว่ารุนแรง เช่น มาประกวดมิสแกรนด์ต้องการกระแสเพื่อไปอัปค่าตัว ซึ่งคืออะไร มันไม่โอเคคำพูดบางอย่างมันแรงไป หรือว่าต่ำ ครอบครัวสอนมาแบบไหน คือเรารู้สึกว่าคำพวกนี้ไม่น่าไปถึงครอบครัวได้”